กางแผนสร้างรั้วชายแดนสระแก้ว ไทยเดินหน้าคุมพื้นที่ ป้องกันลักลอบ–บุกรุก

การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2568 ได้ข้อสรุปสำคัญ คืออนุมัติหลักการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมอบหมายให้กองบัญชาการกองทัพไทยเป็นผู้กำหนดพิกัดและรูปแบบก่อสร้าง รายละเอียดทั้งหมดจะต้องปรับให้เหมาะกับสภาพพื้นที่และวิถีชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน

แผนนี้ถูกวางให้ใช้ประโยชน์มากกว่าการขีดเส้นแบ่งเขต รั้วจะทำหน้าที่เป็นด่านป้องกันการลักลอบเข้าเมือง การลำเลียงสิ่งผิดกฎหมาย และการบุกรุกป่าไม้ โดยรูปแบบอาจเป็นรั้วกายภาพผสมกับเทคโนโลยี เช่น กล้องวงจรปิดและระบบตรวจจับ ที่สามารถเชื่อมต่อกับศูนย์ควบคุมของกองทัพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวัง

พื้นที่ที่ถูกจับตาเป็นพิเศษคือบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีชาวกัมพูชาข้ามมาอยู่อาศัย รัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการภายใต้กฎหมายและคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม เนื่องจากผู้ที่อยู่ในพื้นที่มีทั้งเด็ก สตรี และผู้สูงอายุ การผลักดันออกจึงต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ ไม่สร้างผลกระทบเกินจำเป็น ขณะเดียวกันเสียงของชาวบ้านในพื้นที่ก็จะถูกนำมาประกอบการตัดสินใจด้วย

ในส่วนของกรอบเวลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ยังไม่สามารถระบุวันเริ่มต้นได้แน่ชัด และไม่น่าจะทันภายในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ทุกอย่างต้องรอให้กองทัพสำรวจ วางแบบ และจัดสรรงบประมาณให้พร้อมก่อน

นอกจากเรื่องการก่อสร้าง รัฐบาลยังใช้แนวทางการทูตควบคู่กับมาตรการด้านความมั่นคง ไทยยืนยันต่อเวทีระหว่างประเทศว่าไม่ได้เป็นฝ่ายรุกราน แต่จำเป็นต้องปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน การสร้างรั้วจึงเป็นทั้งเครื่องมือเชิงปฏิบัติและสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความจริงจังของไทยในการจัดการปัญหาชายแดน

แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องรอความชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นระยะทาง รูปแบบสุดท้าย หรือวงเงินงบประมาณ แต่การอนุมัติหลักการครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญต่อการแก้ปัญหาที่เรื้อรังมานาน ทั้งการลักลอบเข้าเมือง การบุกรุก และข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อน