HMPROผุดสาขาใหม่ ปั้นสินค้าเพิ่มมาร์จิ้น
#HMPRO #ทันหุ้น – HMPRO วางงบลงทุนปี 2566 ไว้ที่ประมาณ 7,000- 8,000 ล้านบาท เตรียมเปิดสาขาใหม่จำนวน 10 สาขา หนุนยอดขายปีนี้ และมีแผนผลักดันมาร์จิ้น ผ่านสินค้า House Brand เดินหน้าเจาะตลาดประเทศเวียดนาม เบื้องต้นส่งสินค้าขายในตลาดมาร์เก็ตเพลส ด้านโบรกคาดการณ์กำไรปี 2566 เติบโต 10% เป็น 6,828 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรสูงสุดใหม่
นายรักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานนักลงทุนสัมพันธ์กลยุทธ์และความยั่งยืน บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 1/2566 การที่รัฐบาลได้มีมาตรการช็อปดีมีคืนต่อเนื่องนั้น ทำให้บริษัทได้อานิสงส์ด้านการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) ในช่วง 1-2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ) รวมถึงยอดขายทางด้านอีคอมเมิร์ซ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ประกอบกับในกลุ่มเซอร์วิส ที่มีการเติบโตได้เป็นอย่างดี ส่วนในช่วงเดือน มีนาคม 2566 บริษัทจะมีการจัดงาน โฮมโปร เอ็กซ์โป เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม (SSSG)ปี 2566 จะอยูที่ราว 5%
นอกจากนี้บริษัทยังมีกลยุทธ์ในการผลักดันอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) จากปัจจุบันอยู่ที่ 20-21% ให้เติบโตเพิ่มขึ้น โดยการเพิ่มสินค้าแบรนด์ของตัวเอง (House Brand) จากปัจจุบันบริษัทมีสินค้า 36 แบรนด์ และมีแผนเพิ่มสัดส่วนสินค้าประเภทนี้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนการขยายสาขาในปี 2566 บริษัทเตรียมเปิดสาขาใหม่จำนวน 10 สาขา แบ่งออกเป็น โฮมโปร 2 สาขา เมกาโฮม 8 สาขา ในช่วงไตรมาสที่ 1/2566 บริษัทได้เปิดตัวสาขาเมกาโฮมไปแล้ว 3 สาขา และภายในไตรมาสที่ 2/2566 บริษัทมีแผนเปิดสาขาเมกาโฮมเพิ่มอีก 3 สาขา และโฮมโปร อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าสิ้นปี 2566 บริษัทจะมีสาขารวมทั้งหมด 127 สาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมกัน
เริ่มขายสินค้าเวียดนาม
ขณะที่การขยายตลาดไปประเทศเวียดนาม ปัจจุบันบริษัทได้เริ่มส่งสินค้าไปขายในตลาดมาร์เก็ตเพลส ประเทศเวียดนาม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้รู้ถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศเวียดนามและการจัดส่ง ปัจจุบันยอดขายเริ่มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบริษัทอยู่ระหว่างหาพื้นที่ในการเปิดสาขาในอนาคตต่อไป
ส่วนผลประกอบการที่มาเลเซียถึงจุดคุ้มทุนแล้วในปี 2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้นและควบคุมต้นทุนได้ดี โดยจะยังไม่เปิดสาขาใหม่ในปีนี้แต่ยังคงมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก
โดยบริษัทวางงบลงทุนปี 2566 ไว้ที่ประมาณ 7,000- 8,000 ล้านบาท ในการใช้ขยายสาขา และการปรับปรุงสาขาเดิมให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น ตรงกับพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น และพัฒนาระบบไอทีต่างๆ รวมถึงหาพื้นที่ในการเปิดสาขาปีถัดไป
ปี 66 กำไรสูงสุดใหม่
บริษัท หลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง HMPRO โดยฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่ายอดขายปี2566 เพิ่มขึ้น 9% โดยมี SSSG เพิ่มขึ้น 5% โดยได้ผลบวกจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการท่องเที่ยว ประกอบกับมีการเปิดสาขาใหม่ 10 สาขา และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 18 bps เป็น 26.3% เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้น
และมีการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงซึ่งรวมทั้งสินค้าแบรนด์ของตัวเอง (House Brand)ให้เป็น 21.5-22% จากปีก่อนที่ 20.8% ขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายคาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 2565 ที่ 19.2% คาดการณ์กำไรปี 2566 เติบโต 10% เป็น 6,828 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรสูงสุดใหม่