รีเซต

FSSIA ระบุเป้า SET Index ปีหน้า 1,892 จุด กำไรบริษัทจดทะเบียนจะกลับมาฟื้นตัวดี

FSSIA ระบุเป้า SET Index ปีหน้า 1,892 จุด กำไรบริษัทจดทะเบียนจะกลับมาฟื้นตัวดี
TNN Wealth
1 ธันวาคม 2564 ( 16:05 )
368

บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ FSSIA ออกบทวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์สำหรับการลงทุนในปี 2565 โดยระบุเป้าหมาย SET Index ปีหน้าที่ 1,892 จุด บน P/E 17.2 เท่า กำไรบริษัทจดทะเบียนจะกลับมาฟื้นตัวได้ดี โดยคาดว่าจะเติบโตได้ถึง 23.4% แม้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศจะยังไม่กลับไปเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ประมาณการดังกล่าว ยังไม่ได้รวมผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโอไมครอน


โดยนายทรงกลด วงศ์ไชย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ FSSIA กล่าวว่า ปัจจัยที่สนับสนุนมุมมองดังกล่าว นอกจากกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ฟื้นตัวดีแล้ว ยังรวมถึงจีดีพีปีหน้าที่คาดว่าจะโต 3.8% โดยที่ภาคการส่งออกยังเป็นพระเอก ขณะที่เครื่องจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกตัวจะกลับมาทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนการบริโภคในประเทศจากมาตรการกระตุ้นต่างๆ


ทำการบ้านรอกับ 13 หุ้นเด่นในปี 2565

AOT ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในการฟื้นตัวของ คือรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากสัญญาสัมปทานใหม่กับคิง เพาเวอร์ และคาดว่าปริมาณผู้โดยสารจะค่อย ๆ ฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิด ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 79 บาท


MINT เชื่อว่าจะพลิกฟื้นในไตรมาส 2 ปีหน้า และผลประกอบการน่าจะกลับมาที่ระดับก่อนโควิด-19 ได้ภายในปี 2566 ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 42 บาท


HMPRO คาดว่ากำไรปี 2565 จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งที่ 66% y-y เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดโรงงานอีกครั้ง ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 18.30 บาท


AMATA การฟื้นตัวของยอดขายที่ดินล่วงหน้าในประเทศไทยเป็น 600-700 ไร่ ระดับก่อนโควิด และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับการขายที่ดินล่วงหน้าในเวียดนามภายหลังการคลายล็อกดาวน์ของประเทศอย่างเต็มที่ ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 27.50 บาท


BA จะเริ่มได้รับประโยชน์จากธุรกิจสนามบินในปี 2565 เป็นต้นไป หลังจากการยกเลิกสัญญาเช่ากับ SPF BA ได้รวมสนามบินสมุยและจะรับรู้ค่าบริการผู้โดยสารทั้งหมด ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 16 บาท


JMT มีโอกาสมากขึ้นสำหรับการปรับราคาหุ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของกำไรสุทธิในปี 2565 ที่คาดว่าจะสูงถึง 69% ต่อปี และการจัดการ NPL อย่างมีประสิทธิภาพ ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 70 บาท


BGRIM กำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งในปี 2656-25662022-23E โดยได้แรงหนุนจาก SPP ใหม่ 5 แห่ง ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 58 บาท


IVL กำไรสุทธิของ IVL จะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/64-2565 จากอัตรากำไรของผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งขึ้นและอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นสำหรับ IOD, PET-PTA,และกลุ่มไฟเบอร์ ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 62 บาท


BTS ได้ประโยชน์หลังประกาศเป็นพันธมิตรกับ JMART ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 11 บาท


SCB มีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจแบบเดิมๆ ให้มีความยืดหยุ่นและความเป็นอิสระมากขึ้น และยังได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการใช้ประโยชน์จากหลังจากจดทะเบียนบริษัทในเครือของ SCBX ซึ่งจะทำให้การประเมินมูลค่าในระยะยาวดีขึ้น ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 160 บาท


KBANK เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งในธนาคารที่มีฐานะดีที่สุด แข็งแกร่งที่สุดจากการปรับตัวไปสู่ยุคดิจิทัล ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 172 บาท
.
GULF คาดว่ากำไรสุทธิหลักของ GULF ในไตรมาส ปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 พันล้านบาท ในอนาคตกำไรและรายได้ที่สูงขึ้นจะทำให้ GULF เป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของไทยภายในปี 2567 ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 56 บาท
.
EA การเติบโตของกำไรสุทธิของ EA จะเริ่มเร่งขึ้นในไตรมาส 4 เพื่อเพิ่มการเติบโตของกำไรสุทธิ 19% ในปี 2565 และ 14% ในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากการเริ่มโครงการ S-curve EV Car ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่หุ้นละ 88 บาท

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง