รีเซต

HMPROส่งซิกโค้งแรกฟื้น กำลังซื้อ-“ช้อปดีมีคืน”ดัน

HMPROส่งซิกโค้งแรกฟื้น กำลังซื้อ-“ช้อปดีมีคืน”ดัน
ทันหุ้น
17 กุมภาพันธ์ 2565 ( 11:27 )
262
HMPROส่งซิกโค้งแรกฟื้น กำลังซื้อ-“ช้อปดีมีคืน”ดัน

#HMPRO #ทันหุ้น - HMPRO ส่งซิกไตรมาส 1/2565 กำลังซื้อฟื้นจากการจับจ่ายใช้สอยยังไปได้ดี อีกทั้งปัจจัยหนุน” ช้อปดีมีคืน” ดัน SSSGเป็นบวก มองทั้งปี 2565 เฉลี่ยเติบโต 3-5% เตรียมงบลงทุน 5-6 พันล้านบาท ขยายสาขาราว 4-7 สาขา ด้านโบรกคาดการเปิดประมูลโครงการก่อสร้าง ภาครัฐและเอกชน หนุนความต้องการสินค้าในกลุ่ม Hard Line เพิ่ม

 

นายรักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ กลยุทธ์และความยั่งยืน บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยว่า ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงเดือน มกราคม – กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นสัญญาณการเติบโตที่ดีขึ้นเมื่อเทียบจากปีก่อน ซึ่งประเมินการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG)ที่ปรับตัวเป็นบวกมากขึ้น จากปัจจัยหนุนของกำลังซื้อปัจจุบันที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น แม้สถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เเต่ถือว่าไม่ได้มีความรุนเเรงมากนัก เเละเชื่อว่าในปีนี้จะไม่มีการล็อกดาวน์ หรือปิดสถานที่ต่างๆ เหมือนในปีที่ผ่านมา

 

โดยบริษัทมองว่าหากการจับจ่ายใช้สอยยังไปได้ดี ผู้บริโภคมีกำลังซื้อ เเละไม่มีปัญหาด้านหนี้ภาคครัวเรือน ก็จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจปรับตัวดีมากขึ้น นอกจากนี้ทางบริษัทได้มีโปรโมชั่นออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้ามากระตุ้นยอดขายให้มีการเติบโตที่ดี

 

บุกเปิดสาขาดันยอด

 

นอกจากนี้การเติบโตที่เพิ่มขึ้นของปี 2565 จะมาจากช่องทางการเปิดสาขาในประเทศไทย ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 4-7 สาขา จากปี 2564 บริษัทได้เปิดสาขาไปเพียง 2 สาขา โดยคาดว่าจะขยายทั้งในเขตกรุงเทพฯ เเละต่างจังหวัด ครอบคลุมทั้งโฮมโปร กับ เมกาโฮม ซึ่งบริษัทได้วางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ราว 5,000 -6,000 ล้านบาท ขณะที่การขยายสาขาในต่างประเทศบริษัทยังไม่ได้มีเเผนการที่ชัดเจน

 

นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสที่ 1/2565 บริษัทยังได้รับอานิสงส์จากโครงการ”ช้อปดีมีคืน” เข้ามาหนุนการเติบโตในระดับหนึ่ง ซึ่งโครงการดังกล่าวก็ถือว่าเป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย เจาะกลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยบริษัทพบว่ามียอดใช้บริการโครงการนี้เป็นจำนวนมาก ขณะที่การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ทั้งปีบริษัทประเมินว่าจะเติบโตในระดับ 3-5% ได้

 

"คาดว่าโครงการช้อปดีมีคืน จะช่วยหนุนในช่วงครึ่งแรกของไตรมาสที่ 1/2565 ให้ SSSG ของบริษัทปรับตัวเป็นบวกได้ ขณะที่ครึ่งไตรมาสหลัง 16 กุมภาพันธ์ ถึง 16 มกราคม  2565 ตามแผนธุรกิจบริษัทอยากให้การเติบโตของ SSSG เป็นบวกอยู่เเล้ว เเต่ยังต้องรอดูสถานการณ์เนื่องจากมีอัตราผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่าจะเป็นอย่างไร แต่บริษัทมองว่าไม่น่ากังวลเท่าช่วงที่ผ่านๆ มา" นายรักพงศ์ กล่าว

 

ส่วนทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีเเรก 2565 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา บริษัทคาดว่าอัตราการเติบโตอาจจะไม่สูงมากนัก เนื่องจากในช่วงไตรมาสที่ 1/2564 ยังมีการจับจ่ายใช้สอยกับก่อนมีเหตุการล็อกดาวน์ ส่วนไตรมาสที่ 2/2565 หากไม่มีสถานการณ์อะไรที่รุนเเรงเกิดขึ้น น่าจะส่งผลให้มีการเติบโตต่อเนื่องไปในไตรมาสถัดไป

 

ส่องสตอรี่หนุน

 

บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด ระบุถึง HMPRO ว่า 4 ปัจจัยบวกหนุนผลประกอบการ ปี 2565 จะมาจาก 1.การเปิดประมูลโครงการก่อสร้างของทั้งภาครัฐและเอกชนหลายโครงการจะส่งผลบวกต่อความต้องการสินค้าในกลุ่ม Hard Line ให้เพิ่มสูงขึ้น 2.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศจะส่งผลบวกต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค

 

3.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งโครงการ ช้อปดีมีคืน (1 ม.ค.-15 ก.พ.2565) ซึ่งประชาชนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท และ 4.การขยายสาขาใหม่ใน ปี2565 แบ่งเป็น สาขาโฮมโปรขนาดใหญ่ 1 สาขา และ สาขาเมกาโฮม 2-3 สาขา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง