รีเซต

อาการซึมเศร้าหลังคลอด คืออะไร? เช็กสัญญาณเบื้องต้นและวิธีดูแลใจแม่มือใหม่

อาการซึมเศร้าหลังคลอด คืออะไร? เช็กสัญญาณเบื้องต้นและวิธีดูแลใจแม่มือใหม่
TNN ช่อง16
9 เมษายน 2568 ( 20:08 )
15

อาการซึมเศร้าหลังคลอด เกิดขึ้นได้กับแม่ทุกคน ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือปัญหาสุขภาพจิตที่ต้องเข้าใจ เช็กสัญญาณเบื้องต้น พร้อมวิธีดูแลใจให้ผ่านพ้นช่วงเปราะบาง

การมีลูกคือเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของผู้หญิงหลายคน แต่หลังคลอด หลายคนกลับรู้สึกเศร้า เหงา ว่างเปล่า และหมดแรง ทั้งที่เพิ่งได้รับ “ของขวัญที่ยิ่งใหญ่” นั่นอาจเป็น อาการซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum Depression) ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลต่อทั้งแม่ เด็ก และครอบครัวหากไม่ได้รับการดูแล

อาการซึมเศร้าหลังคลอด คืออะไร?

ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด เป็นปัญหาสุขภาพจิตที่เกิดขึ้นในช่วง 1–12 เดือนหลังคลอดลูก โดยมีสาเหตุหลักจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความเครียด ความคาดหวัง และการขาดการสนับสนุน ซึ่งแตกต่างจาก “Baby Blues” ที่มักเกิดแค่ชั่วคราวในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด

เช็กอาการซึมเศร้าหลังคลอดเบื้องต้น

หากคุณหรือคนใกล้ตัวเพิ่งคลอดลูก และกำลังมีอาการเหล่านี้ต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์ ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

สัญญาณอาการซึมเศร้าหลังคลอดที่พบบ่อย

 • รู้สึกเศร้า หดหู่ หรือร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ

 • เบื่อหน่าย ไม่อยากทำสิ่งที่เคยชอบ

 • ไม่มีแรง รู้สึกอ่อนเพลียตลอดวัน

 • นอนไม่หลับแม้เหนื่อยมาก หรือหลับมากผิดปกติ

 • กังวลมากเกินไปเกี่ยวกับลูก หรือไม่ผูกพันกับลูก

 • ความรู้สึกผิด ไร้ค่า หรือคิดว่าตัวเองเป็นแม่ที่ไม่ดี

 • มีความคิดทำร้ายตัวเองหรือกลัวจะทำร้ายลูก

สาเหตุของอาการซึมเศร้าหลังคลอด

1. ความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

หลังคลอด ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความไม่สมดุลในร่างกาย ส่งผลต่ออารมณ์

2. ความเหนื่อยล้าทางร่างกายและจิตใจ

การดูแลทารกแรกเกิดต้องใช้พลังงานสูง แม่มักนอนน้อย พักไม่พอ และไม่มีเวลาส่วนตัว

3. ความกดดันจากสังคมและครอบครัว

คำคาดหวัง เช่น “แม่ต้องเก่ง” หรือ “ต้องเลี้ยงลูกเองให้ได้” อาจสร้างภาระทางใจโดยไม่รู้ตัว

วิธีดูแลใจเมื่อเกิดอาการซึมเศร้าหลังคลอด

 • พูดคุยกับคนใกล้ตัว: บอกความรู้สึกให้คู่ชีวิตหรือคนในครอบครัวฟัง

 • พักผ่อนอย่างเหมาะสม: พยายามนอนเมื่อมีโอกาส แม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ

 • ลดความคาดหวังในตัวเอง: ไม่จำเป็นต้องเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบ

 • ขอความช่วยเหลือ: หากมีคนช่วยแบ่งเบาภาระงานบ้านหรือเลี้ยงลูก จะช่วยลดภาวะกดดันได้มาก

 • พบจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ: หากอาการไม่ดีขึ้น การพบแพทย์เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง