91% ของสิ่งที่เรากังวลไม่เคยเกิดขึ้นจริง จิตวิทยาชี้

คุณอาจเคยรู้สึกว่าความกังวลเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความคิดวนเวียนเกี่ยวกับสิ่งเลวร้ายที่ “อาจจะเกิดขึ้น” มักทำให้ใจไม่สงบ แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือ งานวิจัยทางจิตวิทยาชี้ว่า 91 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งที่เรากังวลไม่เคยเกิดขึ้นจริง

สมองของเรามีหน้าที่ปกป้องจากอันตราย จึงมักตอบสนองต่อ “ความคิด” เหมือนกับว่าเป็นเหตุการณ์จริง สมองไม่สามารถแยกแยะระหว่างจินตนาการกับความเป็นจริงได้ชัดเจน เมื่อคุณคิดถึงสถานการณ์แย่ ๆ สมองจะเปิดวงจรความเครียดแบบเดียวกับตอนที่กำลังเผชิญอันตรายจริง ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลพุ่งสูง หัวใจเต้นเร็ว กล้ามเนื้อตึงเครียด และร่างกายเข้าสู่โหมด “เอาตัวรอด”

หากความคิดเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ สมองจะค่อย ๆ “เรียนรู้” ว่าการกังวลคือสภาวะปกติ วงจรความเครียดจะทำงานโดยอัตโนมัติ แม้ในเวลาที่ไม่มีภัยใด ๆ เกิดขึ้น ผลที่ตามมาคือ การนอนหลับลดลง สมาธิสั้นลง และจิตใจเริ่มคาดการณ์เหตุร้ายมากกว่าจะมองเห็นความสงบ

สมองในสภาวะเช่นนี้เปรียบเสมือนมี “สัญญาณเตือนภัยลวง” ที่ดังอยู่ตลอดเวลา ทำให้คุณติดอยู่ในโลกของความคิดที่ขับเคลื่อนด้วยความกลัวมากกว่าความเป็นจริง

ข่าวดีคือ สมองของเรามีความยืดหยุ่นสูง หากมันสามารถปรับตัวเข้ากับความกลัวได้ มันก็สามารถปรับตัวเข้ากับ ความสงบ ได้เช่นกัน

การฝึก สติ (Mindfulness) การรู้สึก กตัญญู (Gratitude) และการใช้ เทคนิคการหายใจลึก สามารถช่วยปิดวงจรความเครียดและฟื้นฟูสมดุลของระบบประสาท เมื่อคุณเลือกที่จะปล่อยวางความคิดกังวล สมองจะเรียนรู้ว่าความปลอดภัยยังคงมีอยู่ และไม่จำเป็นต้องอยู่ในโหมดเอาตัวรอดตลอดเวลา

อันตรายที่คุณจินตนาการนั้นแทบไม่เคยเกิดขึ้นจริง แต่ความสงบที่คุณสร้างขึ้นได้ในปัจจุบันนั้น “มีอยู่จริงเสมอ” จงจำไว้ว่า ความคิดของคุณไม่ใช่คำทำนาย แต่เป็นทางเลือก ทุกครั้งที่คุณเลือกจะไม่กังวล คุณกำลังเลือกสิ่งที่เยียวยาตัวเอง