เปิดแล้ว ! แคปซูลชิ้นส่วนดาวเคราะห์น้อย “เบนนู” ครั้งแรกของโลก

นาซา (NASA) หรือองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ได้ทำการเปิดแคปซูลที่บรรจุหินตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู (Bennu asteroid) ซึ่งถือเป็นการเก็บตัวอย่างวัตถุจากดาวเคราะห์น้อยครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลก หลังจากที่ภารกิจโอซิริส-เร็กซ์ (OSIRIS-REx) นาซา ประสบความสำเร็จเมื่อค่ำคืนของวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ภายหลังการปล่อยตัวสู่ห้วงอวกาศเมื่อปี 2016 เพื่อทำภารกิจเก็บหินตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเศษซากของระบบสุริยะยุคแรกเริ่ม

เมื่อลงสู่พื้นโลก แคปซูลที่ว่านี้จะถูกส่งไปยังศูนย์อวกาศจอห์นสันของนาซา (NASA’s Johnson Space Center) ในฮูสตัน หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ได้เปิดฝาของแคปซูลภารกิจโอซิริส-เร็กซ์ ที่มีน้ำหนักกว่า 45 กิโลกรัม และมีขนาดเกือบเท่าล้อรถบรรทุกออกภายในตู้ทดลองนิรภัยที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันการปนเปื้อนและรักษาสภาพดั้งเดิมของตัวอย่างดาวเคราะห์น้อย 

พวกเขาก็รู้สึกประหลาดใจที่เห็นฝุ่นสีดําและซากเศษหินบริเวณแผงระบบอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าสสารบางส่วนเล็ดลอดจากกลไก Touch-And-Go Sample Acquisition Mechanism (TAGSAM) หรืออุปกรณ์เก็บตัวอย่างวัสดุบนพื้นผิวดาวที่มีการติดตั้งแขนกลสำหรับการสำรวจผิวดาวเคราะห์น้อยเบนนู

ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์จะทำการถอดแยกชิ้นส่วนของ TAGSAM เพื่อศึกษาเศษซากจากอวกาศนี้ โดยพวกเขาจะใช้ติดตั้งที่ตู้หนึ่งที่มีระบบควบคุมสภาพแวดล้อมไนโตรเจนเพื่อป้องกันการเกิดออกซิเดชัน (Oxidation) หรือความเสียหายจากความชื้นต่อตัวอย่าง ตลอดกระบวนการนี้ เจ้าหน้าที่ต้องลงมือทำด้วยความแม่นยําและการประสานงานขั้นสูง เพื่อรักษาอุปกรณ์ที่ละเอียดอ่อนและตัวอย่างดาวเคราะห์น้อยที่มีค่า โดยโลกจะได้เห็นตัวอย่างสสารของดาวเคราะห์น้อยเป็นครั้งแรกในวันที่ 11 ตุลาคม เวลา 11.00 น. ตามเวลาตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ผ่านการถ่ายทอดสดของนาซา

อย่างไรก็ดี ภารกิจยังไม่จบ เนื่องจาก OSIRIS-REx จะดําเนินการต่อไปเพื่อสํารวจระบบสุริยะ โดนมันจะบินผ่านดาวเคราะห์น้อยอีกดวงหนึ่งชื่อที่มีชื่อ “อะโพพิส” (Apophis) ในปี 2029 

ทั้งนี้ตลอด 7 ปี ที่ผ่านมาตั้งแต่ที่มีการปล่อยยานสู่อวกาศเมื่อปี 2016 ภารกิจ OSIRIS-REx ได้ประสบความสําเร็จหลายประการ ตั้งแต่การเดินทางไปถึง ดาวเคราะห์น้อยเบนนูในปี 2018 ซึ่งได้ศึกษาและทําแผนที่ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้เป็นเวลา 2 ปีก่อนที่จะเก็บตัวอย่างในปี 2020 แล้วนำกลับมายังโลกในวันที่ 24 กันยายน 2023 นับเป็นภารกิจแรกของสหรัฐอเมริกาที่สามารถนําตัวอย่างดาวเคราะห์น้อยกลับมายังโลกได้

ขณะที่ภารกิจที่น่าทึ่งนี้คาดว่าจะให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่เกี่ยวกับต้นกําเนิดและวิวัฒนาการของโลกและสิ่งมีชีวิต รวมถึงอันตรายและทรัพยากรที่อาจเกิดขึ้นจากดาวเคราะห์น้อย