รีเซต

โรคผมร่วงเป็นหย่อม เกิดขึ้นแล้วอาจเป็นซ้ำได้ แพทย์ผิวหนังแนะนำ 3 วิธีรักษา

โรคผมร่วงเป็นหย่อม เกิดขึ้นแล้วอาจเป็นซ้ำได้ แพทย์ผิวหนังแนะนำ 3 วิธีรักษา
TNN ช่อง16
30 มีนาคม 2565 ( 09:34 )
333

วันนี้ (30 มี.ค.65) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคผมร่วงเป็นหย่อม (alopecia areata) เป็นโรคผมร่วงที่พบบ่อย โดยพบได้ในทุกช่วงอายุ มักมีอาการผมร่วงเฉพาะที่ บริเวณผมที่ร่วงมีลักษณะกลม หรือรี 

อาจมีอาการขนร่วงที่บริเวณอื่นร่วมด้วยเช่น เครา หนวด ขนคิ้ว และขนตามร่างกาย ผู้ป่วยอาจมีอาการมากคือ ผมร่วงหมดทั้งศีรษะ (alopecia totalis) มีขนบริเวณอื่นของร่างกายร่วงจนหมดร่วมด้วย (alopecia universalis) 

ในผู้ป่วยบางรายที่มีผมร่วงไม่มาก อาการจะหายได้เองแต่มักจะใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปี ซึ่งต่างจากในผู้ป่วยที่ผมร่วงมากที่มักจะไม่หายเอง โรคนี้อาจมีอาการเป็นๆ หายๆ ได้ ซึ่งการเป็นซ้ำอาจเกิดขึ้นเองหรืออาจเกิดจากการที่ร่างกายได้รับการกระตุ้นจากภาวะการเจ็บป่วยอื่นๆหรือภาวะเครียดจากร่างกายและจิตใจ

ด้าน พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์  กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการผมร่วงเป็นหย่อมนี้เกิดจากการที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อรากผมตนเอง (autoimmunity) ซึ่งสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดได้อย่างไร 

โรคนี้อาจพบร่วมกับโรคอื่นได้ ที่พบบ่อย ได้แก่ โรคภูมิแพ้ เช่นโรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ทางจมูก หรือโรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง โรคไทรอยด์ และโรคด่างขาว โรคนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักไม่มีอาการอื่นนอกเหนือจากมีผมร่วง

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเจ็บ หรือรู้สึกผิดปกติที่บริเวณหย่อมผมร่วงได้ ผมอาจมีสีขาวได้ เนื่องจากโรคนี้อาจมีผลต่อเซลล์ที่สร้างสีของผม เล็บอาจมีลักษณะเป็นหลุมเล็กๆ ตื้นๆ ที่บริเวณผิวเล็บ (pitting nail) 

การวินิจฉัยโรคส่วนใหญ่ สามารถวินิจฉัยได้จากอาการทางคลินิก มีเพียงบางรายที่อาจต้องทำการตัดชิ้นเนื้อ เพื่อตรวจทางพยาธิวิทยาเพื่อยืนยันการวินิจฉัย วิธีการรักษามีหลายวิธีเช่น 

1.การฉีดยาเฉพาะที่ เหมาะกับผู้ป่วยที่มีหย่อมผมร่วงไม่กว้างมากนักเป็นการรักษาที่ให้ผลดี เนื่องจากการฉีดยาทำให้มีความเข้มข้นของยาที่บริเวณรากผมมากกว่าการทายา

2. การทายาเฉพาะที่ มียาหลายชนิดที่ให้เลือกใช้การรักษาด้วยการทายาเหมาะกับผู้ป่วยที่มีผมร่วงเล็กน้อยจนถึงผมร่วงมากควรใช้ยาที่เป็นรูปแบบน้ำ หรือโลชั่นเนื่องจากความสะดวกในการใช้ 

3. การใช้ยารับประทานมียาหลายชนิดให้เลือกใช้ ยาบางชนิดอาจใช้ได้ผลแต่พบว่ามีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้สูงมีผลข้างเคียงมาก

ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้ความเห็นว่า การรักษาควรอยู่ในความดูแลของแพทย์เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียง เช่น ทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่หนังศีรษะมีผื่นบริเวณอื่นของร่างกาย ขนดก เป็นรอยขาวหรือรอยดำที่หนังศีรษะบริเวณที่ทายา หรือยาบางชนิดมีผลข้างเคียงมาก เช่นทำให้ผิวหนังบางเป็นรอยแดง.

ข้อมูลจาก กรมการแพทย์

ภาพจาก Reuters , กรมการแพทย์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง