โมเลกุลปลูกผม งอกใหม่ใน 1 สัปดาห์ ช่วยฟื้นการทำงานรูขุมขน

ผมร่วงเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่มากขึ้น ความเครียด ความผิดปกติของฮอร์โมน หรือพันธุกรรม ถึงแม้การแพทย์จะก้าวหน้า แต่ก็มีเพียงไม่กี่วิธีที่ใช้ได้ผลจริง และไม่ได้ใช้ได้กับทุกคน
การรักษาหัวล้าน ด้วยการปลูกผม เห็นผลได้จริงกับไม่เกิน 1 ใน 3 ของคนที่เข้ารับการปลูกผม เนื่องจากการทำงานของรูขุมขนที่เสื่อมสภาพไปตามอายุต่างกัน แต่ความหวังของการปลูกผม กลับมาเห็นแสงสว่างอีกครั้ง เมื่อนักวิจัย คนพบโมเลกุล ที่จะเข้าไปทำงานกับรูขุมขนโดยตรง
ค้นพบโมเลกุลปลูกผม
ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในลอส แอนเจลิส หรือ UCLA ได้ค้นพบโมเลกุลเล็ก ๆ ชนิดหนึ่งที่สามารถปลุกให้รูขุมขนที่หยุดทำงานไปนานกลับมาฟื้นตัวได้ พวกเขาตั้งชื่อให้โมเลกุลนี้ว่า “PP405” ที่อิงจากชื่อถนน 405 ในลอสแอนเจลิสที่โด่งดังเรื่องรถติด
คำถามก็คือ ต่อไปทุกคนจะมีโอกาสกลับมามีผมดกได้อีกครั้งหรือไม่?
ในทางวิทยาศาสตร์ โมเลกุล PP405 จะไปยับยั้งโปรตีนที่ทำให้เซลล์ต้นกำเนิดของรูขุมขนหยุดนิ่ง เมื่อโปรตีนถูกยับยั้ง เซลล์เหล่านี้ก็จะถูกกระตุ้นให้กลับมาทำงาน
งานวิจัยเกี่ยวกับ PP405 ดำเนินมากว่า 10 ปี ซึ่งได้มีทดลองกับมนุษย์ครั้งแรกในปี 2023 พบว่า การทา PP405 ลงบนหนังศีรษะก่อนนอนต่อเนื่องเพียง 1 สัปดาห์ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ กระตุ้นการงอกของเส้นผมใหม่ได้จริง โดยไม่ใช่เป็นเพียงขนอ่อน งอกขึ้นมาอย่างที่ยาบำรุงทั่วไป
3 นักวิจัย ผู้อยู่เบื้องหลังงานวิจัยนี้ คือ William Lowry ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาระดับโมเลกุลและการพัฒนา Heather Christofk ศาสตราจารย์ด้านเคมีชีวภาพ และ Michael Jung ศาสตราจารย์ด้านเคมี พวกเขาเชื่อมั่นอย่างมากว่าการรักษานี้จะสามารถแก้ปัญหาศีรษะล้าน ซึ่งส่งผลกับผู้ชายกว่าครึ่งและผู้หญิงราวหนึ่งในสี่เมื่อถึงวัย 50 ปีได้อย่างแท้จริง
“ผู้ชายและผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องเจอกับปัญหาผมบาง ไม่ว่าจะเป็นเพราะอายุ การทำเคมีบำบัด การติดเชื้อ หรือความเครียด ซึ่งล้วนส่งผลต่อสภาพจิตใจ” Lowry กล่าว
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ยืนยันว่า วิธีนี้จะใช้ได้กับทุกคน แต่จากการทดสอบที่ผ่านมา ยังไม่ผลลัพธ์แง่ลบปรากฏให้เห็น
เริ่มพัฒนายาเชิงพาณิชย์
เดิมที ทีมวิจัยกังวลว่าโมเลกุล PP405 อาจทำลายรูขุมขนทั้งหมด แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม เมื่อได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าสนใจ ก็ทำให้การระดมทุนเพื่อก่อตั้งองค์การศึกษา ผ่านไปด้วยดี เพื่อผลักดันงานวิจัยสู่การพัฒนายาเชิงพาณิชย์ โดยได้รับการสนับสนุนจาก Google Ventures และสามารถระดมทุนได้ถึง 16.4 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว เพื่อขับเคลื่อนการทดลองต่อไปและรอการอนุมัติอย่างเป็นทางการ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
