"IRPC" ดาวน์ไซด์จำกัด ,แต่ไม่ใช่จังหวะลงทุน
ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เอเชีย พลัส หรือ ASPS แนะนำ "Switch" IRPC แม้ราคาหุ้นจะผ่านการปรับฐานไปในระดับหนึ่ง จนมี downside จำกัดมากขึ้น แต่การฟื้นตัวของผลการดำเนินงานไม่ชัดเจนเมื่อเทียบกับกลุ่มฯ เพราะเป็นโรงกลั่น+โรงงานปิโตรเคมีที่มีต้นทุนสูง ทำให้ราคาหุ้นไม่น่า outperform ตลาดได้ในช่วงสั้น จึงยังไม่ใช่จังหวะเข้าลงทุน
คาด Q3/63 พลิกเป็นกำไรสุทธิได้จากกำไรสต๊อก แต่ Norm ยังขาดทุนอยู่
คาดผลการดำเนินงานสุทธิ Q3/63 จะพลิกกลับเป็นกำไรมาอยู่ราว 1.45 พันล้านบาท เทียบกับงวดก่อนหน้าที่เผชิญกับผลขาดทุน 411 ล้านบาท หลักๆ เป็นผลมาจากบันทึกกำไรจากสต๊อกน้ำมันรวม LCM และ hedging เพิ่มขึ้นมาอยู่ราว 3.1 พันล้านบาท จาก 89 ล้านบาท ในงวดก่อนหน้า แต่หากพิจารณาเฉพาะผลการดำเนินงานปกติ Q3/63 คาดจะยังเผชิญกับผลขาดทุนราว 938 ล้านบาท ดีขึ้นเล็กน้อยจากงวดก่อนหน้าที่เป็นผลขาดทุน 1.0 พันล้านบาท ตาม Market GIM ที่คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.8 จาก 8.5 เหรียญฯต่อบาร์เรล ในงวดก่อนหน้า รับผลบวกจาก spread ปิโตรเคมี ที่เพิ่มขึ้น
ปรับลดประมาณการ 2563...แนวโน้ม Q4/63 จะพลิกกลับเป็นขาดทุนสุทธิ
ปรับลดประมาณการปี 2563 สะท้อน spread ที่แย่กว่าคาดไว้เดิม และรวมรายการพิเศษไว้ในประมาณการ สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปกติ Q4/63 คาดจะดีขึ้นจากงวดก่อนหน้าที่ขาดทุนพลิกกลับมาใกล้เคียงทุนได้ แต่หากพิจารณาผลการดำเนินงานสุทธินั้น คาดมีโอกาสที่จะพลิกกลับเป็นขาดทุนสุทธิอีกครั้ง เนื่องจากจะมีการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษสำหรับพนักงานที่เกษียนก่อนกำหนดราว 1.0-1.5 พันล้านบาท อีกทั้งมีโอกาสที่จะไม่มีการบันทึกกำไรจากสต๊อกน้ำมันในระดับสูงเช่นที่เกิดขึ้นในงวด Q3/63
รอหาจังหวะกลับมาลงทุนรอบใหม่
ภายใต้ประมาณการใหม่ มูลค่าพื้นฐานปี 2563 (DCF) เท่ากับ 2.5 บาทต่อหุ้น (เดิม 2.9) แม้ราคาหุ้นจะผ่านการปรับฐานจนมี downside ที่จำกัด แต่ยังขาดปัจจัยจูงใจเข้าลงทุน