รีเซต

IRPC กำไรดีกว่าคาดที่ 2.4 พันล้าน เพิ่ม 196% งวด 9 เดือนกำไร 494 ล้าน ลดลง 82%

IRPC กำไรดีกว่าคาดที่ 2.4 พันล้าน เพิ่ม 196%  งวด 9 เดือนกำไร 494 ล้าน ลดลง 82%
ทันหุ้น
8 พฤศจิกายน 2566 ( 17:47 )
105

#IRPC #ทันหุ้น - บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 2,438.60 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท เพิ่มขึ้น 196% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 2,549.11 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.12 บาท

 

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน 2566 มีกำไรสุทธิ 493.53 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.02 บาท ลดลง 82% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,785.02 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.14 บาท

บริษัทชี้แจงว่า ไตรมาส 3/ 2566เปรียบเทียบกับไตรมาส 2/ 2566: ในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิ 77,264 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,509 ล้านบาท หรือร้อยละ 9เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณขายลดลงร้อยละ 5 สำหรับโรงกลั่นน้ำมันมีอัตราการกลั่นอยู่ที่ 187,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงร้อยละ 4

 

บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) อยู่ที่ 5,373 ล้านบาท หรือ 8.87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซล

 

สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 3/2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2566 ที่ราคาเฉลี่ย 77.78 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เป็น 86.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยมีสาเหตุหลักจากกลุ่มโอเปกและพันธมิตรประกาศขยายเวลาการลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปี 2567 ประกอบกับซาอุดิอาระเบียประกาศคงมาตรการลดการผลิตโดยสมัครใจ จนถึงสิ้นปี 2566 ถึงแม้ว่า มีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยและวิกฤตภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศจีน 

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการบันทึกกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิ (Net Inventory Gain) รวม 3,566 ล้านบาท หรือ 5.89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ประกอบด้วยกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 3,807 ล้านบาท หรือ 6.28 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และการกลับรายกรปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่ได้รับ (กลับรายการ NRV) 132 ล้านบาท หรือ 0.22เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ ขาดทุนจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมันที่เกิดขึ้นจริง (Realized Loss from Oil Hedging) 373 ล้านบาท หรือ 0.61เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) จำนวน 8,939 ล้านบาท หรือ 14.76เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 5,732 ล้านบาท หรือ 9.53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานมีจำนวน 3,059 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3 ทำให้บริษัทฯ มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จํานวน 5,880 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5,770 ล้านบาท ในไตรมาสนี้

 

บริษัทฯ ขาดทุนจากการทำสัญญาอนุพันธ์ทางการเงิน 106 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 42 และไตรมาสนี้ มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ จำนวน 75 ล้านบาท เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลง โดยค่าเงินบาทจากสิ้นไตรมาส 2/2566 ปิดที่ 35.75 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ มาปิดที่ 36.72 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้บริษัทฯ บันทึกภาษีเงินได้จำนวน 598 ล้านบาท เทียบกับรมาสก่อนที่บันทึกเครดิตภาษีเงินได้ จำนวน 580 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 2,439 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 2/2566 ที่มีขาดทุนสุทธิ 2,246 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 209

 

ไตรมาส 3/2566 เปรียบเทียบกับไตรมาส 3/ 2565: บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิลดลง10,048 ล้านบาท หรือร้อยละ 12 โดยมีสาเหตุจากราคาขายเฉลี่ยลดลงร้อยละ 17 ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงขณะที่ปริมาณขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 5โดยโงกลั่นน้ำมันมีอัตราการกลั่นอยู่ที่ 187,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงร้อยละ 1 บริษัทฯ มี Market GIM เพิ่มขึ้น 888 ล้านบาท หรือร้อยละ 20 โดยมีสาเหตุหลักจากต้นทุน Crude Premium ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวเพิ่มขึ้น บริษัทฯ มี Net Inventory Gain จำนวน 3,566 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่มี Net Inventory Loss 4,020 ล้านบาท ส่งผลให้ Accounting GIM เพิ่มขึ้น 8,474 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลงร้อยละ 1 ส่งผลให้ บริษัทฯมี EBITDA จำนวน 5,880 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3/2565 ที่มี EBITDA ติดลบจำนวน 2,798 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ขาดทุนจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมันที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Loss from Oil Hedging) 29 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3/2565ที่มีกำไรจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมันที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง 2,426 ล้านบาท เมื่อบันทึกภาษีเงินได้ 598ล้านบาทแล้ว ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 2,439 ล้านบาทเทียบกับไตรมาส 3/2565 ที่ขาดทุนสุทธิจำนวน 2,549 ล้านบาท

 

งวด 9 เดือนปี 2566 เปรียบเทียบกับงวด 9 เดือนปี 2565: บริษัทฯ มีายได้จากการขายสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนปี 2566 จำนวน 223,779 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยลดลงร้อยละ 23 ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง ขณะปริมาณขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 โดยโรงกลั่นน้ำมันมีอัตราการกลั่นอยู่ที่ 192,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงร้อยละ 1 บริษัทฯ มี Market GIM อยู่ที่ 16,625 ล้านบาท หรือ 9.14 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลงร้อยละ 21เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวลดลงมากกว่า การลดลงของต้นทุน Crude Premium

 

สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างมากจากความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอย ทำให้บริษัทฯบันทึก Net Inventory Gain รวม 863 ล้านบาท หรือ 0.48เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 84 ซึ่ง Net Inventory Gain ในงวด 9 เดือนปี 2566 ประกอบด้วยขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 1,024 ล้านบาท หรือ 0.56 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และขาดทุนจากการบริหารความสี่ยงน้ำมันที่เกิดขึ้นจริง (Realized Loss from Oil Hedging) 281 ล้านบาท หรือ 0.15เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่การกลับรายการ NRV 2,168 ล้านบาท หรือ 1.19 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้บริษัทฯ มี Accounting GIM จำนวน 17,488 ล้านบาท หรือ 9.62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 4,132 ล้านบาท หรือลดลง 2.13 เหยญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ค่าใช้จ่ายดำเนินงานจำนวน 9,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายพนักงาน ส่งผลให้บริษัทฯ มีEBITDA จำนวน 8,010 ล้านบาท ลดลง 3,813 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 32 

 

บริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินสุทธิจำนวน 1,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16จากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มจากเงินกู้ยืมระยะสั้นและยาวและหุ้นกู้ตามสัญญาใหม่ ขณะที่มีขาดทุนจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมันที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Loss from Oil Hedging) จำนวน 16 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 98 และมีกำไรจากการด้อยค่าและตัดจำหน่ายทรัพย์สินจำนวน 825 ล้านบาท จากการกลับรายการด้อยค่าพัสดุคงคลัง เพิ่มขึ้น 826 ล้านบาท เมื่อบริษัทฯ บันทึกภาษีเงินได้จำนวน 88 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2566 มีกำไรสุทธิ 494 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 82 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง