รีเซต

"IRPC" กำไรพิเศษหนุน Q4 สูงกว่าคาด SCBS ชี้ปี 65 หยุดซ่อมบำรุงใหญ่ฉุดกำไร

"IRPC" กำไรพิเศษหนุน Q4 สูงกว่าคาด SCBS ชี้ปี 65 หยุดซ่อมบำรุงใหญ่ฉุดกำไร
ทันหุ้น
9 กุมภาพันธ์ 2565 ( 09:44 )
203

ทันหุ้น - บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) ส่องหุ้น บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC รายงานกำไรสุทธิ Q4/64 จำนวน 2.2 พันลบ. (+36% YoY และ +2% QoQ) สูงกว่าคาด เนื่องจากกำไรพิเศษสูงกว่าคาด กำไรปกติฟื้นตัวจากขาดทุนใน Q4/63 แต่ลดลง 66% QoQ โดยมีสาเหตุมาจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ลดลงเพราะวัตถุดิบแพง ในขณะที่ความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวดีขึ้น กำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 1.45 หมื่นลบ. ฟื้นตัวจากขาดทุนสุทธิ 6.2 พันลบ. ในปี 2563 โดยได้แรงหนุนจากมาร์จิ้นผลิตภัณฑ์ที่กว้างขึ้นและกำไร สต๊อกจำนวนมากถึง 1.3 หมื่นลบ. คาดว่ากำไรสุทธิของ IRPC จะอ่อนแอลงในปี 2565 หลังจากบันทึกกำไรสต๊อกจำนวนมากในปี 2564 และจะมีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่หน่วยกลั่นน้ำมันดิบใน Q4/65 อย่างไรก็ดี มองว่า valuation ของ IRPC ไม่แพงที่ PBV (ปี 2565) เพียง 0.8 เท่า และคงเรทติ้ง NEUTRAL ด้วยราคาเป้าหมาย 4.8 บาท อ้างอิง PBV (ปี 2565) ที่ 1.1 เท่า

 

อุปสงค์ที่ฟื้นตัวดีขึ้นหนุนปริมาณน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นเพิ่มขึ้นใน Q4/64 ปริมาณน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นของ IRPC เพิ่มขึ้น 3.6% QoQ สู่ 198kbd (อัตราการใช้กำลังการผลิต 92%) ใน Q4/64 หลังจากหยุดซ่อมบำรุงหน่วย high-performance residue hydro desulfurization unit (Hyvahl unit) ตามแผนเป็นเวลา 45 วันในไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ตลาดน้ำมันที่ดีขึ้นยังหนุนให้ IRPC เพิ่มปริมาณน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นสู่ระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ Q2/62 เมื่อรวมกับราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่สูงขึ้น รายได้จากการขายจึงเพิ่มขึ้น 8% QoQ ดีที่สุดนับตั้งแต่ Q3/61

 

Market GIM ลดลง QoQ ทั้งๆ ที่ market GRM สูงขึ้น (+85% QoQ สู่ US$5.1/bbl) แต่ GIM ของ IRPC ลดลง 12% QoQ สู่ US$10.92/bbl ต่ำที่สุดในปี 2564 โดยมีสาเหตุมาจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ลดลง ส่วนต่างราคาโดยเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีหลักๆ (PP ABS และ PS) ของ IRPC ลดลง 4% QoQ และ 15% YoY กำลังการผลิตรวมกันของผลิตภัณฑ์สามอย่างนี้คิดเป็นสัดส่วนกว่า 85% ของกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ทั้งหมด ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ลดลง (-25% QoQ) ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ GIM ลดลงด้วยเช่นกัน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 6% QoQ สู่ US$6/bbl โดยมีสาเหตุมาจากผลกระทบทางฤดูกาล ทั้งๆ ที่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น IRPC บันทึกกำไรสต๊อกสุทธิเพียง 267 ลบ. หรือเท่ากับ US$0.4/bbl ลดลงจาก US$4/bbl ใน Q3/64

 

กำไรปี 2565 จะอ่อนแอลง YoY เพราะหยุดซ่อมบำรุงใหญ่โรงกลั่น ทั้งนี้คาดว่ากำไรสุทธิของ IRPC จะลดลง 61% YoY สู่ 6.3 พันลบ. ในปี 2565 โดยมีสาเหตุมาจากการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่หน่วยกลั่นน้ำมันดิบตามแผนเป็นเวลา 1 เดือนใน Q4/65 โดยคาดว่า IRPC จะเพิ่มปริมาณน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นสูงสุดก่อนหยุดซ่อมบำรุง หากสภาวะตลาดเอื้ออำนวย เพื่อลดผลกระทบต่อผลการดำเนินงานเต็มปี นอกจากนี้ประมาณการของเราก็ไม่ได้ใช้สมมติฐานกำไร/ขาดทุนสต๊อกใดๆ ในขณะที่ IRPC มีกำไรสต๊อกจำนวนมากถึง 1.3 หมื่นลบ. ในปี 2564 market GIM จะได้รับการสนับสนุนจาก crack spread ที่ดีขึ้นของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (น้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล) ความท้าทายที่สำคัญ คือ ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่อาจลดลง YoY โดยมีสาเหตุมาจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในตลาดภูมิภาค

 

คงเรทติ้ง NEUTRAL ด้วยราคาเป้าหมาย 4.8 บาท เชื่อว่ากำไรที่ลดลงสะท้อนในราคาหุ้นไปค่อนข้างมากแล้ว ยังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ IRPC เพราะ valuation ไม่แพง โดยมีราคาเป้าหมายที่ 4.8 บาท อ้างอิง PBV (ปี 2565) ที่ 1.1 เท่า ยังคงมุมมองระมัดระวัง เนื่องจากมีความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่ผันผวน ปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อประมาณการและ valuation ของฝ่ายวิจัย คือ ความผันผวนของราคาน้ำมัน (จะทำให้เกิดขาดทุนสต๊อก) และ GRM และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ลดลง

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง