ส่องกำไร กลุ่ม ปตท. ไตรมาส 1/2568

ผลการดำเนินงานกลุ่ม ปตท. โดยรวมในช่วงไตรมาสที่ 1/2568 ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วง ไตรมาสที่ 1/2567 โดยมีเพียง 2 บริษัท ได้เเก่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) และ บริษัทโกลบอล พาวเวอร์ ซีนเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) เท่านั้นที่มีกำไรเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ทางนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ได้คำนวณราคาเป้าหมายและคำแนะนำใหม่ เพื่อใช้พิจารณาการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง
เริ่มจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT
กำไรปี 2568 ที่ 23,315.49
กำไรปี 2567 ที่ 28,967.50
บล.บัวหลวง โดย มองว่า ธุรกิจก๊าซปริมาณขายของโรงแยกก๊าซมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี 2025 ในขณะที่ปริมาณขายก๊าซอาจลดลง และต้นทุนก๊าซอาจปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยตามทิศทางราคา LNG ในตลาดโลก และ PTT อยู่ระหว่างการเจรจากับ potential strategic partners ที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจโรงกลั่น/ปิโตรเคมี คาดว่าจะได้ short-listed ภายในปีนี้ โดย PTT จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เหมือนเดิม โดยกลุ่ม PTT มีโครงการปรับลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยคาดว่าจะสร้าง EBITDA ส่วนเพิ่มได้ราว 4.4 หมื่นล้านบาทต่อปี (ทยอยรับรู้ตั้งแต่ปี 2025เป็นต้นไป และรับรู้เต็มที่ในปี 2029)
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนทำ asset monetization (คาดมีกำไร ~8 พันล้านบาท) และขาย non-core assets (วงเงินรวม ~1.5 หมื่นล้านบาท) ในปีนี้ ทางด้าน EBITDA ส่วนเพิ่มและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งน่าจะหนุนความสามารถในการจ่ายเงินปันผล และหนุนให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 34.00 บาท
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP
กำไรปี 2568 ที่ 16,560.98
กำไรปี 2567 ที่ 18,682.82
บล.เอเซียพลัส มองว่า คาดกำไรปี 2568–2569 ลดลง 14.5% และ 19.8% ตามลำดับ มาอยู่ที่ 58,000 และ 65,000 ล้านบาท โดยกำไรไตรมาส 2/68 คาดเพียงทรงตัวหรืออ่อนตัวเล็กน้อย แม้ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นจากการลดการซ่อมบำรุง แต่ราคาขายก๊าซและน้ำมันลดลง QoQ
แนะนำเน้นเทรดดิ้งระยะสั้นตามราคาน้ำมัน ราคาเหมาะสมที่ 138 บาท
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR
กำไรปี 2568 ที่ 4,379.48
กำไรปี 2567 ที่ 3,723.20
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 2-3 ปี 2568 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 2/2568 ที่ระดับ 2,500-2,600 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนตามสัดส่วนการขายเชื้อเพลิงอากาศยานที่ลดลงตามผลของฤดูกาลและการรับรู้ผลจากการบันทึกรายการ Stock loss (มีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงจากความกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจโลก)
อย่างไรก็ตามคาดกำไรปกติจะยังสามารถเติบโตได้จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามปริมาณขายน้ำมันรวมที่ฟื้นตัวตามส่วนแบ่งการตลาดและการขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมัน รวมถึงค่าใช้จ่าย SG&A ที่มีแนวโน้มลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และหากมองไปช่วงไตรมาส 3/68 คาดกำไรปกติจะสามารถเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ต่อเนื่องจากฐานที่ต่ำในปีก่อน
ดังนั้น ผลจากการปรับประมาณการขึ้นและการปรับ PER ที่ใช้ประเมินมูลค่าขึ้นเป็น 17.0 เท่า (เดิม 16.6 เท่า) ตามการปรับไปใช้ SET ESG Rating ที่ระดับ AAA (พรีเมียม 4%) ส่งผลให้ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 15.70 บาท/หุ้น มี Upside 14.6% (หากรวมผลตอบแทนจากเงินปันผลหลังหักภาษีจะส่งผลให้ผลตอบแทนใน ระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ราว 18.0%) ทั้งนี้มองว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในปี 2568 ตามส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจสถานีบริการน้ำมันที่ฟื้นตัว
แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมที่ 15.70 บาท
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC
กำไรปี 2568 ที่ ติดลบ -2,567.19
กำไรปี 2567 ที่ ติดลบ -606.10
บล.กสิกรไทย มองว่า จากผลประกอบการที่แสดงศักยภาพ Global-Play และมีปัจจัยหนุนทั้งระยะสั้นและกลางถึงยาว โดยระยะสั้นคาดว่า GRM จะฟื้นตัวจาก USD 3.4/bbl ในไตรมาส 1/2568 เป็น USD 5.0/bbl ในไตรมาสที่ 2/2568 จากอุปสงค์ตามฤดูกาลและต้นทุนโอเลฟินที่ลดลง ขณะที่บริษัทได้ประโยชน์จากการเพิ่มสัดส่วนเอเทนจาก 33% เป็น 38% ช่วยลดต้นทุนผลิต และส่วนต่างโพลิเมอร์ปรับตัวดีขึ้นตามราคานาฟทาที่ลดลง สำหรับระยะกลางถึงยาว
แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสมที่ 20.00 บาท
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP
กำไรปี 2568 ที่ 3,503.51
กำไรปี 2567 ที่ 5,862.94
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส มองว่า TOP เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มโรงกลั่น จากผลดำเนินงานมีแนวโน้มที่จะโดดเด่นกว่าโรงกลั่นอื่นในช่วง ไตรมาส 2/2567 - 3/2567 เพราะใช้กำลังการกลั่นเต็มที่, อัตราค่าระวางเรือทรงตัว, ค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เป็นเงินสดต่ำสุดในกลุ่ม และมีค่า FRM ที่สูงกว่าโรงกลั่นอื่นๆ
แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมที่ 66 บาท
บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC
กำไรปี 2568 ที่ 1,140.04
กำไรปี 2567 ที่ 864.02
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) มองว่า คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/2567 ปรับตัวขึ้น QoQ และ YoY โดยมีปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ไฮซีซั่นของความต้องการใช้ไฟฟ้าในฤดูร้อน การเพิ่มสัดส่วนผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติชดเชยการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่มีข้อจำกัด จากปริมาณน้ำฝนน้อยในช่วงที่ผ่านมา, ต้นทุนเชื้อเพลิงลดลงตามทิศทางราคาพลังงานในตลาดโลก, อุปทานก๊าซในอ่าวไทย เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแหล่งก๊าซเอราวัณสามารถเร่งปริมาณผลิตได้ตามเป้าหมายตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. ช่วยลดสัดส่วนการนำเข้าก๊าซ LNG ที่ราคาสูงได้ และการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการ Glow SPP2 Replacement (29 มี.ค.) และ IRCP-CP 3 (31 มี.ค.)
แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมที่ 57 บาท
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC
กำไรปี 2568 ที่ ติดลบ -1,206.06
กำไรปี 2567 ที่ -1,544.55
บล.ไอร่า มองว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 ยังคงขาดทุนต่อเนื่อง จาก GIM ที่ลดลง ธุรกิจปิโตรเคมียังเป็นตัวกดดันผลการดำเนินงาน
แนะนำ ขาย ราคาเหมาะสมที่ 0.84 บาท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
