หากพูดถึงเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าเอฟ 22 (F-22) และ เอฟ 35 (F-35) จะปรากฏเป็นภาพจำอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม กำลังรบของจีนที่สหรัฐฯ มองว่าเป็นคู่แข่งทางการทหารนั้นก็เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน จนเป็นเหตุให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศโครงการพัฒนาฝูงบินโดรนแบบใหม่ เพื่อใช้ประกบเครื่องบินขับไล่ในอนาคต ด้วยงบกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 210,000 ล้านบาท

“XQ-58A Valkyrie” โดรนในฝูงบินแบบที่ใหม่ใช้ประกบ F-22 และ F-35

โดรนที่ใช้ในฝูงบินแบบใหม่มีชื่อว่า เอกซ์คิว ฟิฟตี้เอ็ก เอ วัลคีรี (XQ-58A Valkyrie) ซึ่งข้อมูลเท่าที่มีการเปิดเผยระบุว่า จะเป็นอากาศยานแบบไร้คนขับ (Uncrewed Aircraft) ที่มีขนาดยาวไม่เกิน 9.1 เมตร น้ำหนักเครื่องเปล่าไม่รวมเชื้อเพลิงอยู่ที่ 1.13 ตัน และรองรับการบรรทุกยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ไม่เกิน 544 กิโลกรัม 

XQ-58A Valkyrie ยังเป็นอากาศยานล่องหน (Stealth aircraft) ซึ่งมีหน้าที่หลักในการบินสนับสนุนการรบเครื่องบินขับไล่ อย่าง F-22 และ F-35 โดยเฉพาะ ทั้งการลาดตระเวน การช่วยยิงสนับสนุน การเติมเชื้อเพลิงหรือยุทโธปกรณ์ รวมถึงภารกิจอื่น ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของแต่ละภารกิจของกองทัพอากาศสหรัฐฯ

การพัฒนาโดรน “XQ-58A Valkyrie” พร้อมระบบควบคุมด้วย AI

จากแผนการงบประมาณของกองทัพสหรัฐฯ นั้นคาดว่า XQ-58A Valkyrie แต่ละลำจะมีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ลำละ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 105 ล้านบาท น้อยกว่าต้นทุนการผลิต F-22 ที่ลำละ 143 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5,000 ล้านบาท และ F-35 ที่มีต้นทุนลำละ 2,600 ล้านบาท

และเพื่อเสริมความคุ้มค่า คราโทส (Kratos) บริษัทผู้พัฒนา XQ-58A Valkyrie ได้พัฒนาระบบที่ชื่อว่า AACO (Autonomous Air Combat Operations) เป็นการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำการบินและปฏิบัติภารกิจ ซึ่งประสบความสำเร็จในการทดสอบการบินสาธิตระยะเวลา 3 ชั่วโมง ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แม้ว่าในตอนนี้นักบินเครื่องบินขับไล่จะรู้สึกไม่คุ้นเคยก็ตาม

XQ-58A Valkyrie เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเครื่องบินโจมตีทนทานต้นทุนต่ำ (Low Cost Attritable Strike Demonstrator: LCASD) ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งกระทรวงกลาโหมจะยื่นเรื่องของบประมาณต่อสภาครองเกรส เพื่อเริ่มโครงการในปีงบประมาณหน้าด้วยงบก้อนแรกมูลค่า 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 116,000 ล้านบาท

ที่มาข้อมูล Engadget

ที่มารูปภาพ Kratos Defense and Security Solutions