#ทหารมีไว้ทำไม ทำไมต้องไปฝึกกระโดดร่มไกลถึงสหรัฐฯ
ลือสะพัด! ไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อมีการแชร์ภาพกลุ่มทหาร กำลังเดินทางออกจากประเทศไทย บางกระแสมองว่าบินไปไปฝึกโดดร่ม กับโครงการที่มีทางการสหรัฐให้การสนับสนุน บางกระแสอ้างว่าไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์ บางกระแสพูดถึงค่าเดินทางไป-กลับ ครั้งนี้อยู่ที่ 70,000 บาท ต่อคน
แต่ล่าสุดทาง กองทัพบก ชี้แจงกรณีที่มีการภาพทหารเดินทางที่สนามบิน แล้วว่า เป็นการเดินทางไปสหรัฐของกำลังพล กองร้อยส่งทางอากาศ ที่เดินทางไปร่วมการฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ (Strategic Airborne Operation) กับกองทัพบกสหรัฐ ณ Fort Bragge รัฐนอร์ทแคโรไลนา ระหว่างวันที่ 10-26 ก.ค.64
วันนี้ TrueID จึงจะพามาทำความเข้าใจกับ "การฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์" (Strategic Airborne Operations) คืออะไร ทำไมทหารต้องไปฝึกไกลถึงสหรัฐฯ
การฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ (Strategic Airborne Operation)
เป็นการฝึกกระโดดร่มร่วม โดยทำการฝึกร่วมกับกองพลส่งทางอากาศที่ 82 กองทัพบกสหรัฐอเมริกา และกองทัพบกอินโดนีเซีย ณ Fort Bragge รัฐนอร์ทแคโรไลนา ระหว่างวันที่ 10-26 ก.ค.64 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าร่วมกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ภายใต้การฝึกร่วมผสมครอบบร้าโกลด์ในปี 2565
สำหรับกำลังพลกองทัพบกที่เข้าร่วมการฝึกกระโดดร่มที่สหรัฐฯ ในครั้งนี้ มีจำนวน 114 นาย ประกอบด้วย นายทหารสัญญาบัตร นายทหารประทวนนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ชั้นปีที่ 5 และ พลทหาร ซึ่งทุกนายได้ผ่านกระบวนการตามมาตรฐานสาธารณสุขในการป้องกันโควิด-19
มาตรการป้องกันโควิดเมื่อไปฝึกโดดร่มต่างประเทศ
ทหารไทยทั้งหมดที่ไปจะมีการกักตัวก่อนไปฝึกในค่ายทหาร และเมื่อไปถึงสหรัฐ ก็ปฏิบัติลักษณะเดียวกันตามระบบ Military Trainning Quarantine ซึ่งกำลังพลทุกนายผ่านการ SWAB test ได้ผลเป็นลบ และได้รับการฉีดวัคซีนที่ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ตามมาตรฐานสาธารณสุขในการป้องกันโควิด-19 ทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา
ประโยชน์การฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์
1.เป็นการเสริมสร้างความร่วมมือทางทหารในระดับกองทัพมิตรประเทศ
2.ผู้เข้ารับการฝึกสามารถนำความรู้ ประสบการณ์มาพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับหน่วยส่งทางอากาศกองทัพบก
3.เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าร่วมกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ภายใต้การฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์ในปี 2565
ซ้อมฝึกโดดร่มที่ไทยก่อนไปสหรัฐ
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 64 ณ สนามกระโดดร่ม บ้านท่าเดื่อ อ.เมือง จ.ลพบุรี พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางตรวจเยี่ยมการฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ ของกองร้อยส่งทางอากาศ
พลเอก ณรงค์พันธ์ ผบ.ทบ. ได้ชมการฝึกกระโดดร่ม พร้อมตรวจเยี่ยมให้คำแนะนำกับกำลังพลที่จะเดินทางไปฝึก กำชับให้ทุ่มเทตั้งใจเข้ารับการฝึกศึกษา เรียนรู้เทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ พัฒนาตนเองและกองทัพต่อไป และให้ตระหนักว่าเป็นตัวแทนประเทศไทย กองทัพไทยในการไปสร้างความเชื่อมั่น สร้างความสัมพันธ์อันดีกับกองทัพมิตรประเทศ พร้อมย้ำกำลังพลให้ปฏิบัติตนภายใต้มาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด ไม่ประมาททั้งที่อยู่ในต่างประเทศ และเมื่อเดินทางกลับประเทศไทย
อย่างไรก็ตามกองทัพบกได้เผยแพร่ข่าวการเดินทางไปร่วมการฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ดังกล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.2564 รายละเอียดดังนี้
เดินทางไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์หรือไม่
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพพบว่าเป็นภาพปลอม เพราะหากดูรายละเอียดวันเกิดในการ์ด ถ้าเกิดปี 1963 อายุน่าจะ 58 ปี ซึ่งทหารที่ไปไม่แก่ขนาดนั้น
ยืนยันกำลังพลที่ไปฝึกได้รับการฉีดวัคซีนจากเมืองไทย 2 ชนิด คือ แอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค
แจงค่าเดินทางไป-กลับ ครั้งนี้อยู่ที่ 70,000 บาท ต่อคน
ค่าตั๋วที่แพงและงบประมาณการใช้จ่ายที่โดนโจมตี พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า งบประมาณการฝึกร่วมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา
ข้อมูลจาก เพจ Army Spoke Team , มติชน