จีนเตือนสหรัฐฯเคารพเส้นแดงหลังเจรจา

จีนออกมาเตือนสหรัฐฯ ให้ “เคารพเส้นแดง” ทางการเมืองและเทคโนโลยี ภายหลังการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งช่วยคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้าได้ชั่วคราว แต่ยังไม่สามารถลบความระแวงเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองมหาอำนาจได้ทั้งหมด โดย เสี่ยว เฟิง (Xiao Feng) เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ กล่าวผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในงานประชุม สภาธุรกิจสหรัฐฯ–จีน (U.S.–China Business Council) ที่นครเซี่ยงไฮ้ เรียกร้องให้วอชิงตัน “หลีกเลี่ยงการล่วงละเมิดเส้นแดงของจีน” พร้อมย้ำว่า การประชุมสุดยอดที่เมืองปูซานถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วย “ปรับทิศทางความสัมพันธ์จีน–สหรัฐฯ” และบรรเทาความกังวลของภาคธุรกิจทั้งสองฝ่าย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดจากนี้คือ การเคารพ “ผลประโยชน์หลักและข้อกังวลของกันและกัน”

เสี่ยว เฟิง ระบุว่า จีนมี “เส้นแดง 4 ข้อ” ที่ไม่ควรถูกแตะต้อง ได้แก่ (1) ประเด็นไต้หวัน (2) ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน (3) ระบบการเมืองของจีน และ (4) สิทธิในการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนเอง พร้อมเตือนว่าความพยายามใด ๆ ที่จะก้าวล้ำเส้นเหล่านี้ จะก่อให้เกิด “ปัญหาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้” และบั่นทอนความไว้วางใจที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวระหว่างสองประเทศ เขายังเรียกร้องให้ปฏิบัติตามฉันทามติทางเศรษฐกิจที่ได้ตกลงกันไว้ทั้งในเวทีปูซานและกัวลาลัมเปอร์ พร้อมเตือนว่า “ไม่ว่าจะเป็นสงครามภาษี สงครามการค้า สงครามอุตสาหกรรม หรือสงครามเทคโนโลยี ล้วนแต่นำไปสู่ทางตัน” และแนะให้ภาคธุรกิจสหรัฐฯ ใช้แรงส่งเชิงบวกจากการประชุมสุดยอดครั้งนี้ขยายการลงทุนในจีน โดยเฉพาะภาคบริการซึ่งกำลังเปิดเสรีมากขึ้นภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปีฉบับใหม่ของรัฐบาลปักกิ่ง

อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของเอกอัครราชทูตจีนมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจำกัดการส่งออกชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Blackwell ของ Nvidia ให้เฉพาะบริษัทในสหรัฐฯ เท่านั้น โดยอ้างเหตุผลด้าน “ความมั่นคงทางเทคโนโลยี” ซึ่งสะท้อนว่าความขัดแย้งทางเทคโนโลยีระหว่างสองประเทศยังไม่จบลงง่าย ๆ และกำลังกลายเป็น “สมรภูมิใหม่” ของการแข่งขันเชิงอำนาจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล