รีวิว Nokia X10 5G จอใหญ่ คมชัด แบตอึด
หลังจากที่ถือใช้ Nokia X10 5G มาหลายเดือน ก็สรุปได้ว่าเป็นนี่คือมือถือ 5G ราคาประหยัด ที่มีหน้าจอใหญ่ คมชัด เล่นเกมพอได้ แบตก็ไม่หมดง่าย กล้องหลังถ่ายดีเฉพาะกลางวัน ส่วนกลางคืนพอใช้ได้ ราคาค่าตัวอยู่ 5,990 บาท ถ้าถามว่าคุ้มราคาไหม ลองตัดสินใจหลังอ่านบทความนี้ได้เลย
ดีไซน์
ดีไซน์ของ Nokia X10 5G ต้องบอกว่าค่อนข้างออกแนวเรียบ ๆ ฝาหลังไม่ได้มีลูกเล่นวิบวับเหมือนค่ายอื่น ๆ วัสดุทำจากพลาสติก ส่วนขอบเครื่องมีความโค้งมน ดีไซน์กล้องหลังวงกลมตรงกลางเครื่อง เพราะโลโก้ ZEISS เห็นแล้วคิดถึง Lumia 940 XL อดีตมือถือเรือธงของ Nokia ยุค Windows Phone เลย
ฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมการ์ด ใส่ได้ 2 ซิม แต่ถ้าจะใส่ MicroSD Card ด้วยก็จะใส่ได้แค่ซิมเดียว (เป็นปกติของมือถือ) ส่วนข้าง ๆ ก็จะเป็นปุ่มเรียกใช้ Google Assistant ที่ไม่ค่อยได้กดใช้งานสักเท่าไร ส่วนด้านขวาก็จะมีปุ่มควบคุมเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่องที่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว ส่วนด้านล่างมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ช่องเสียบ USB-C และช่องลำโพง
หน้าจอ
หน้าจอของ Nokia X10 5G เป็นจอ IPS-LCD ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1080×2400) ถือว่าดีกว่าที่คิดนะ เพราะทำให้เราดูคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้แบบคมชัด ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Netflix ที่ดูได้แบบคมชัด FullHD เลย แตกต่างจากมือถือราคาประหยัดทั่วไปที่จะดูได้แค่ HD ใครเป็นสายดูหนังคิดว่ารุ่นนี้น่าจะเหมาะ
ส่วนเรื่องความสว่างและสีสัน ก็อยู่ในระดับที่รับได้เลย เพราะเป็นหน้าจอ IPS และมีความสว่างอยู่ที่ 450 Nits การใช้งานในห้องถือว่าใช้ได้ดีในที่ร่ม แต่ถ้าเป็นกลางแจ้งอันนี้สู้แสงได้ไม่ดีเท่าไร ส่วนความลื่นไหนของหน้าจอจะอยู่ที่ 60Hz โดยการสัมผัสการทัชอาจจะไม่ติดนิ้วสักเท่า เวลาปาดซ้ายหรือปาดขวาก็ยังมีอาการหน่วง ตอบสนองช้ากว่านิ้วให้เห็น
กล้อง
พูดถึงกล้อง ตามสเปกแล้ว Nokia X10 5G ให้กล้องหลังมา 4 เลนส์ มีกล้องหลัก 48MP, กล้องมุมกว้าง 5MP, กล้องมาโคร 2MP และกล้องวัดระยะ 2MP ที่น่าสนใจคือมีการแปะโลโก้ ZEISS มาด้วย เห็นครั้งแรกก็เผลอคาดหวังเรื่องภาพจากกล้องทันที แต่เอาจริง ๆ กล้องที่ทำได้ดีคือกล้องหลัก ส่วนกล้องอื่น อย่างกล้องมุมกว้าง และกล้องมาโคร ถ่ายออกมาแล้วก็ได้ตามคุณภาพราคามือถือเลย
ภาพจากกล้องหลัก 48MP
ภาพจากกล้องมุมกว้าง 5MP
ภาพจากกล้องมาโคร 2MP
สเปก ประสิทธิภาพ และการเล่นเกม
Nokia X10 5G เป็นมือถือราคาประหยัดที่ไม่ได้อัดสเปกแรง ๆ ที่ให้มาก็จะเป็นชิปเซต Qualcomm Snapdragon 480 พร้อมโมเดม 5G ที่ใช้งานในไทยได้ แรมมีขนาด 6GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 128GB ภาพรวมด้านสเปกถ้าเทียบกับรุ่นที่ราคาพอ ๆ กันก็จะเด่นเรื่องแรมและ 5G แต่ระบบปฏิบัติการที่เป็น Android 13 ที่เคลมว่าจะสามารถอัปเดตได้อีก 3 ปี
ด้านประสิทธิภาพก็ทดสอบชิปเซต Qualcomm Snapdragon 480 ในหลายส่วนก็ได้คะแนนออกมาดังนี้
- Geekbench 6 : Single-Core 693 คะแนน | Multi-Core 1792 คะแนน
- 3DMark Wild Life : 982 คะแนน
ทดสอบประสิทธิภาพไปแล้ว มาพูดถึงการเล่นเกมกันบ้าง สำหรับเกมที่ได้ลองเล่นมาตลอดหลายเดือนกับ Nokia X10 5G ก็จะมี ROV และ Genshin Impact
ส่วนใหญ่เกมที่เล่นจะเป็น ROV มากกว่า เพราะเล่นได้ค่อนข้างลื่นกับการปรับแบบ 30FPS เวลาเจอเอฟเฟคเยอะๆ ก็ไม่มีอาการเฟรมดรอปให้เห็นเลย แต่ถ้าตั้งเป็นโหมดเฟรมเรตสูง 60FPS อันนี้ก็ลื่นเหมือนกันนะ เวลาเจอสกิลเยอะๆ ก็ไม่ออกอาการให้เห็นเลย ถ้าใครจะเล่นก็ถือว่าเหมาะนะ
ส่วนเกม Gensin Impact ต้องบอกว่าพอเล่นได้นะ เพราะ แต่ก็ยังมีอาการกระตุกทุกครั้งที่หันมุมกล้อง ถามว่าเล่นได้ไหม ก็ต้องบอกว่าได้พอถูไถไปได้ แต่ถามว่าจะได้อรรถรสในการเล่นที่ดีไหม ก็ต้องตอบว่าไม่
แบตเตอรี่ ความร้อน
แบตเตอรี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ Nokia X10 5G ทำได้ดีเกินคาด เรียกว่าสามารถใช้งานได้จบวันแบบชิลๆ แม้จะมีความจุแบตเพียง 4470mAh จากที่ลองใช้เล่นโซเชียลเป็นส่วนใหญ่แบตจะอยู่ได้ทั้งวันเลย และแม้ว่าจะเอามาเล่นเกม ROV ก็ยังอยู่ได้จบวันเช่นกัน สำหรับการเล่นเกม ROV เป็นเวลา 20 นาทีจะกินแบตประมาณ 5% เท่ากับว่าเล่นต่อเนื่องได้ประมาณ 6.30 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องความร้อนเวลาเล่นนาน ๆ ก็มีบ้างเล็กน้อย คิดว่าไม่ได้กระทบกับการใช้งานมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องระยะเวลาในการชาร์จกลับทำได้ไม่ดีนัก เนื่องจากชาร์จได้แค่ 18W ซึ่งใช้เวลานานกว่าจะเต็มเกือบสองชั่วโมงเลยทีเดียว
สรุป Nokia X10 5G
หลังจากที่ได้ถือใช้มาตลอดหลายเดือน Nokia X10 5G จัดว่าเป็นมือถือที่ 5G ที่ราคาค่อนข้างถูกและหน้าใช้เลย ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลังเลนส์หลักที่ไว้ใจได้ สเปกที่พอจะเล่นเกมยอดนิยม และแบตเตอรี่ที่อึดใช้ได้ตลอดวัน แถมราคายังน่าสนใจด้วยเนื่องจากค่าตัวอยู่ที่ 5,999 บาท แต่ถึงอย่างนั้นก็มีข้อสังเกตเรื่องการถ่ายภาพกลางคืนที่ทำได้ไม่ดีนัก รวมถึงความเร็วในการชาร์จที่ไม่สัมพันธ์กับขนาดแบตเตอรี่