[รีวิวเกม] Infinity Strash: DRAGON QUEST The Adventure of Dai เกมที่เอาใจแฟนการ์ตูนยุค 90S
ช่วงนี้ดูเหมือนว่าค่ายเกมชอบขุดเอาของเก่ามาขายใหม่ตลอดไม่ว่าจะเป็นเกมเก่าเล่าใหม่หรือขุดเอาการ์ตูนในตำนานมาสร้างเป็นเกม และหนึ่งในนั้นคือเกม Infinity Strash: DRAGON QUEST The Adventure of Dai ที่หยิบตำนานการ์ตูนดังยุค 90S มาสร้างเป็นเกมหลังจากมีการสร้างการ์ตูนเวอร์ชันใหม่ออกมาให้ชม และถือเป็นครั้งแรกที่มันถูกสร้างเป็นเกมคอนโซล
สำหรับคนที่เกิดไม่ทัน DRAGON QUEST The Adventure of Dai (ชื่อไทย ไดตะลุยแดนเวทมนตร์) มันคือซีรีส์การ์ตูนที่สร้างโดยอิงจากเกม DRAGON QUEST แต่เนื้อเรื่องจะถูกเขียนใหม่ทั้งหมด ที่ในอดีตถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากและมีการนำมาสร้างเป็นแอนิเมชันด้วย ความโดดเด่นคือตัวละครและเรื่องราวที่ทำออกมายอดเยี่ยมจนมันเป็นตำนานจนทุกวันนี้ โดยเกมวางขายบน Nintendo Switch, PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox Series X และ Series S รวมทั้ง PC ด้วย
แน่นอนว่าในเมื่อเกม Infinity Strash สร้างโดยอิงมาจากการ์ตูนในอดีต ทำให้เนื้อเรื่องก็ไม่ต้องเดาเพราะมันเดินตามในหนังสือการ์ตูนแบบ 100% ทำให้ใครที่เคยอ่านมาแล้วก็แทบจะไม่มีอะไรให้ประหลาดใจ คัตซีนก็มีทั้งการสร้างมาโดยอ้างอิงจากฉากในตำนาน และยังมีทั้งการตัดเอาหน้าในหนังสือการ์ตูนมานำเสนอแบบภาพนิ่งแบบตรง ๆ เลย ดูไม่ค่อยลงทุนแต่มันก็มีข้อดีคือเอาใจแฟนเก่าแต่ข้อเสียคือมันดูธรรมดาไปหน่อย
กราฟิกตกยุคไป 10 ปี
แม้ว่าจะเป็นเกมดังที่สร้างจาก Square Enix แต่กราฟิกก็ไม่ได้มีการลงทุนเท่าที่ควร เพราะว่าทุกอย่างดูธรรมดาเหมือนเกมเมื่อ 10 ก่อน โดยเป็นการนำเสนอภาพแบบเซลเฉดที่จำลองภาพจากการ์ตูนออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่มากพอเพราะทุกอย่างมันขาดรายละเอียดไปมาก เมื่อเทียบกับกราฟิกแนวการ์ตูนในยุคนี้แล้วห่างกันหลายเท่า
แต่หากมองว่ามันทำมาเพื่อเอาใจแฟนการ์ตูนยุคเก่ามันก็พอจะยอมรับกราฟิกระดับนี้ได้ อย่างน้อย ๆ ก็มีการใส่เสียงพากย์มาให้ครบ แถมยังเลือกเสียงญี่ปุ่นได้ด้วยเรียกว่าเอาใจแฟน DRAGON QUEST แบบจัดเต็ม เพลงประกอบก็อยู่ในระดับดีมีเพลงธีมสนุก ๆ ที่เข้ากับเกมเพลย์ แต่ยังไม่เทียบเท่ากับซีรีส์เกมหลักเพราะเป็นคนละทีมงานกัน
เกมเพลย์แอ็กชัน RPG สุดธรรมดา
รูปแบบการเล่นมาแนวทางที่เข้าใจง่ายสุด ๆ เพราะมาในรูปแบบแอ็กชัน RPG ผู้เล่นจะบังคับตัวละครให้ไปโจมตีศัตรูได้โดยตรงไม่มีการใส่คำสั่ง และจะกดท่าไม้ตายได้ง่ายดายเพราะแค่กดปุ่มเดียวก็ใช้ได้แล้ว และมีมากให้เลือกหลายท่า แต่จะใช้ต่อเนื่องไม่ได้ต้องรอชาร์จพลังให้เต็มก่อน นอกจากนี้ยังมีท่าพิเศษที่ใช้ได้จำกัดรวมทั้งเวทมนตร์ในตำนานของซีรีส์ DRAGON QUEST ด้วย
แต่ทุกอย่างดูจะเป็นข้อเสียเพราะความเรียบง่ายเกินไป เกมเพลย์รูปแบบนี้ถูกใช้มายาวนานเป็น 10 ปีแล้วแม้แต่เกมแจกฟรีบนสมาร์ตโฟนก็เอาไปใช้ทำให้มันดูเชยไปมาก แม้ว่าผู้เล่นจะพยายามใส่แอ็กชันที่ต้องใช้การหลบหลีกและโจมตีสวนกลับแบบ Hack and Slash แต่ก็ทำได้ไม่ถึงเพราะมีความช้ากว่า ก็เข้าใจว่ามันมาแนวแอ็กชัน RPG แต่ก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้หน่อย
ยังดีที่มีระบบเลเวลไว้อัปเกรดตัวละคร และมีการเพิ่มท่าไม้ตายใหม่ ๆ มาให้เลือกใช้งานและสานต่อเป็นคอมโบได้ตามใจผู้เล่น ส่วนตัวละครจะมีมาให้ใช้งานตามเนื้อเรื่อง หลัก ๆ เราจะได้เล่นเป็นหนุ่มน้อย Dai ที่เป็นลูกครึ่งมนุษย์กับเผ่ามังกร และยังมีจอมเวทย์ Popp ที่ใช้การยิงเวทมนตร์ระยะไกล รวมทั้งยังมีสาวแกร่ง Maam มาให้ใช้งาน รวมทั้งยังมาพร้อมการเปลี่ยนชุดเกราะ และระบบยาเติมพลังที่เรียบง่ายไม่โดดเด่นแต่ก็เข้าใจง่ายเช่นกัน โดยผู้เล่นสามารถสลับเปลี่ยนตัวละครออกมาได้เล่นตลอด
ยังพอมีความท้าทายให้สัมผัส
แม้เกมเพลย์โดยรวมจะไม่โดดเด่นและดูง่ายไปหน่อย แต่หากคุณชอบความท้าทายมันก็พอจะมีให้สัมผัส ศัตรูในเกมมีความโหดพอตัวแม้จะไม่ได้มากเท่ากับเกมอื่นแต่ก็พอให้ผู้เล่นหัวร้อนได้เล็กน้อย แต่หากไม่ชอบอะไรยาก ๆ ก็มีโหมดง่ายมาให้เลือกใช้งานเช่นกัน แต่ที่ไม่ชอบอย่างแรงคือฉากในเกมที่เป็นการเลือกจุดบนแผนที่แล้วจะเข้าสู่ฉากที่เน้นทำเนื้อเรื่องตามการ์ตูนมากเกินไปจนขาดความหลากหลาย แม้จะมีบางฉากมีอะไรให้เดินสำรวจบ้างแต่ก็แทบไม่มีอะไรให้พูดเพราะแค่เดินไปถึงเป้าหมายก็ผ่านฉาก
ยังดีที่มีฉากดันเจี้ยนพิเศษ Temple of Recollection เสริมเข้ามาให้เล่น โดยจะเป็นด่านพิเศษที่ไม่มีในการ์ตูนมาให้เลือกไปเล่นเพื่อเก็บไอเทมและเลเวลได้ตลอดเวลา ซึ่งความยากของฉากพิเศษนี้ถือว่ามีมากกว่าด่านทั่วไปแต่ไม่ชอบก็ไม่ต้องเข้าไปเล่นก็ได้ ถือเป็นส่วนที่พอจะมีความแตกต่างและมีอะไรให้ทำมากกว่าเล่นฉากหลักที่ค่อนข้างซ้ำซากน่าเบื่อไปหน่อย
การมาของเกม Infinity Strash: DRAGON QUEST The Adventure of Dai ถือว่าน่าผิดหวังหากคาดหวังว่าจะพบกับเกมเพลย์ที่สดใหม่และสนุก เพราะโดยรวมมันดูธรรมดามาก ๆ เหมือนผู้สร้างทำมาเพื่อเอาใจการ์ตูนยุค 90S มากกว่า แต่หากคุณเป็นแฟนซีรีส์ไดตะลุยแดนเวทมนตร์ จะหามาเล่นถือว่ายังพอมีความสนุกเพราะอย่างน้อยก็ทำให้เราคิดถึงการ์ตูนที่เคยดูในวัยเด็กได้