รีเซต

รู้จัก “สยามไบโอไซเอนซ์” ฐานผลิต “แอสตร้าเซนเนก้า” ในไทย

รู้จัก “สยามไบโอไซเอนซ์” ฐานผลิต “แอสตร้าเซนเนก้า” ในไทย
Ingonn
4 มิถุนายน 2564 ( 16:26 )
867
1
รู้จัก “สยามไบโอไซเอนซ์” ฐานผลิต “แอสตร้าเซนเนก้า” ในไทย

ถือเป็นข่าวดี! เมื่อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) ผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ได้ส่งมอบล็อตแรกแล้ว 1.8 ล้านโดส โดยกรมควบคุมโรคจะทยอยส่งวัคซีนต่อไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเริ่มฉีดฝห้ปลุ่มประชาชนทั่วไปในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ แม้จังหวัดที่อยู่ห่างไกลอาจจะต้องใช้เวลาบ้าง แต่ทุกจังหวัดจะมีวัคซีนฉีดให้ประชาชตามกำหนดแน่นอน

 

 

วันนี้ TrueID จึงขอพาทุกคนไปรู้จักฐานการผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า แห่งแรก แห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่ามีความเป็นมาอย่างไรและวัคซีนที่ผลิตเองในไทย ได้มาตรฐานไกลไหม พร้อมกระจายทั่วไทยอย่างไรบ้าง

 

 

 

 

รู้จักสยามไบโอไซเอนซ์


บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ดำเนินการวิจัย พัฒนา และผลิตยา เครื่องมือแพทย์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ โดยมีการวิจัย พัฒนาและผลิตครบวงจร ตั้งแต่ตัวยาสำคัญและสารออกฤทธิ์ จนถึง ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป

 

 

ต่อมา ได้เปิดบริษัทสำหรับทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ชื่อว่า บริษัท เอเพ็กต์เซล่า จำกัด ราว 7 ปี ดำเนินการวิจัย พัฒนา และผลิตยา เครื่องมือแพทย์ และแตกบริษัทอีก 2 บริษัทย่อย คือ บริษัท เอบินิส จำกัด เป็นการร่วมมือกับ CIMAB รัฐวิสาหกิจยาของสหรัฐ เพื่อวิจัย พัฒนา ผลิตและส่งออกยาชีววัตถุอย่างครบวงจร เน้นยารักษาโรคมะเร็ง โรคโลหิตจาง และโรคแพ้ภูมิตนเอง รวมถึงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ชีวเวชสำอาง ซึ่งเป็นนวัตกรรมจากงานวิจัยและพัฒนาของเครือฯ

 

 

 

 


สยามไบโอไซเอนซ์มีหน้าที่ทำอะไร


ผลิตยาชีววัตถุ หรือ ยาไบโอฟาร์มา ซึ่งเป็นยาที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง สามารถบำบัดรักษาโรคต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีผลข้างเคียงต่ำ อาทิเช่น การผลิตยาเพิ่มเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว เป็นต้น โดยเริ่มการผลิตและการขายในปี พ.ศ.2559 เป็นโรงงานยาชีววัตถุแห่งเดียวของประเทศที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล PIC/s GMP, ISO 9001:2015, ISO17025:2016 โดยยาดังกล่าวได้รับการบรรจุเข้าบัญชียาของหน่วยงานด้านสุขภาพ เช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช. หรือ บัตรทอง) และสำนักงานประกันสังคม เป็นต้น

 

 

ด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับโลกของโรงงาน รวมทั้งศักยภาพในการวิจัยและพัฒนาอย่างครบวงจร และความสามารถในการดำเนินการพัฒนาธุรกิจ เครือสยามไบโอไซเอนซ์ จึงได้รับความไว้วางใจให้เป็น ผู้รับจ้างผลิตยา และเครื่องมือแพทย์ให้แก่องค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

 

 


ผู้ผลิตแอสตร้าเซนเนก้าในไทย


วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ ได้รับการอนุมัติให้เริ่มจัดส่งภายในสัปดาห์นี้ โดยได้ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศ รวมถึงผ่านเกณฑ์การตรวจสอบคุณภาพจากห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ของแอสตร้าเซนเนก้าในต่างประเทศ นับเป็นการยืนยันคุณภาพของวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตในประเทศไทยว่ามีมาตรฐานในระดับสากล ทั้งนี้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าในแต่ละรุ่นการผลิตต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพต่างๆ รวมกันมากกว่า 60 รายการ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล

 

 

วันที่ 4 มิ.ย.64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค จัดพิธีรับมอบวัคซีนโควิดจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่ผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ล็อตแรก 1.8 ล้านโดส ซึ่งจะมอบกรมควบคุมโรคทยอยจัดส่งวัคซีนล็อตนี้ต่อไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศที่จะเริ่มดีเดย์ฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มประชาชนทั่วไปในวันที่ 7 มิ.ย.นี้

 

 


สยามไบโอไซเอนซ์ ศูนย์เดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


แอสตร้าเซนเนก้ามีเครือข่ายการผลิตวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก ประกอบด้วยศูนย์การผลิตเฉพาะ 16 แห่ง และพันธมิตรผู้ผลิตวัคซีนอีก 25 แห่งในกว่า 15 ประเทศ สยามไบโอไซเอนซ์เป็นศูนย์การผลิตวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าแห่งแรกและแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยผลักดันยุทธศาสตร์ด้านสาธารณสุขของประเทศไทย ในการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาค ที่ผ่านมา แอสตร้าเซนเนก้าได้ร่วมกับสยามไบโอไซเอนซ์ดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการผลิตวัคซีนและสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ โดยแอสตร้าเซนเนก้าจะทยอยส่งออกวัคซีน โควิด-19 ไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนกรกฎาคม ณ ขณะนี้ แอสตร้าเซนเนก้าได้จัดส่งวัคซีนมากกว่า 500 ล้านโดส ให้แก่ 168 ประเทศทั่วโลก

 

 

 

 

 


มาดามแป้งกับสยามไบโอไซเอนซ์


เป็นที่ทราบกันแล้วว่า มาดามแป้งหรือนวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ซึ่งเธอยังเป็น ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย และประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซีอีกด้วย

 

 


มาดามแป้งเปิดใจ ปมส่งมอบวัคซีนไม่ทันตามกำหนด


กรณีคำถามรัฐบาลไทยสั่งซื้อหลายสิบล้านโดสจะส่งมอบทันตามกำหนอหรือไม่ มาดามแป้งขอเปิดใจว่า ประเด็นนี้ประชาชนก็สับสน หลาย ๆ คนก็สับสน ซึ่งสยามไบโอไซเอนซ์ได้ผลิตจัดส่งตามที่ระบุไว้ในสัญญา ที่มีกับแอสต้าเซนเนก้า เราเป็นผู้รับจ้าง ลงนามเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2563 ใช้เวลาผลิต 6 เดือน มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี และระยะเวลา 6 เดือน ใกล้เคียงกับฐานผลิตอื่น ๆ และส่งมอบได้ตรงตามเวลา ในสัญญาระบุว่าล็อตแรกภายในเดือนมิ.ย. ซึ่งการส่งม็อบวัคซีนเมื่อวานน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

 

"ขอย้ำว่า วัคซีนที่สยามไบโอไซเอนซ์ผลิตได้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยและการรับรองในประเทศไทยและต่างประประเทศ ทั้งในห้องปฎิบัติการในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่า วัคซีนที่สยามไบโอไซเอนซ์ผลิตมีมาตรฐานเดียวกันกับที่ผลิตฐานอื่นๆใช้ทั่วโลก มาตรฐานเดียวกับออสเตรเลียและเกาหลีใต้ นี่คือความสบายใจของมาตรฐานของวัคซีน"

 

 

 

 


ประสิทธิภาพ “แอสตร้าเซนเนก้า” 


คุณภาพของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ "ผลิตในไทย" โดย สยามไบโอไซเอนซ์ กับตัวที่ "นำเข้า" มาไม่มีความแตกต่างกัน เพราะมีมาตรฐานและเทคโนโลยีการผลิตที่เหมือนกัน โดยล็อตที่ผลิตในไทยจะต้องมีการส่งไปยังบริษัทแอสตร้าฯ โกลบอลเพื่อตรวจสอบและคุมคุณภาพของผู้ผลิต โดยปัจจุบันวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจากสยามไบโอไซเอนซ์ผ่านคุณภาพแล้ว 14 ล็อต

 

 

ผลการทดลองทางคลินิกยืนยันว่า ผู้รับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าสามารถทนต่อผลข้างเคียงของวัคซีนได้ดีและวัคซีนยังช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วยจากโรคโควิด-19 ในทุกระดับความรุนแรง นอกจากนี้ จากข้อมูลการใช้วัคซีนในประชากรหลายสิบล้านคนทั่วโลก ยังแสดงให้เห็นว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิผลลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ในระดับที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้มากถึง 80% หลังจากการฉีดเข็มแรก

 

 


เปิดแผนการกระจายวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า การมีวัคซีนจำนวนมากรอไว้ค่อยไปซื้อ คงไม่ทัน ขบวนการคือ มีการผลิตเสร็จจะส่งมอบ มีการรับ และกระจายทันที เพราะฉะนั้นแผนจะกระจายทุกสัปดาห์ โดยท่านรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการ สธ. จึงให้แนวว่าจะต้องกระจายต่อเนื่องอย่างน้อยทุกสัปดาห์ เมื่อไหร่มีวัคซีนผลิตในไทยได้ ทุกสัปดาห์ก็จะทบทวนและกระจายอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

 

 

1. แต่ละจังหวัดต้องมีวัคซีนแอสตราฯ และซิโนแวคเพื่อบริการพี่น้องประชาชน เฉลี่ยเป็นพื้นฐานตามจำนวนประชากรในพื้นที่และประชากรแฝง หรือหารเฉลี่ยตามจำนวนประชากร 

 

 

2.จังหวัดที่มีการระบาดมาก อย่างกทม. ปริมณฑล หรือจ.เพชรบุรี จะมีการจัดวัคซีนเสริมเข้าไป อย่างกทม. ที่ผ่านมาฉีดแล้ว 1 ล้านโดส ตามแผนมิ.ย.จะฉีดให้ได้อย่างน้อย 2.5 ล้านโดส รวมทั้งนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ซึ่งเป็นปริมณฑล แต่การระบาดค่อนข้างรวดเร็ว หากสัปดาห์หน้ามีการปรับเปลี่ยนก็ต้องปรับเรื่องการเสริมวัคซีนด้วย รวมทั้งกรณีเรือนจำเช่นกัน

 

 

3.จังหวัดที่เป็นกลุ่มเป้าหมายพิเศษ อย่างจังหวัดท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต เมื่อเทียบอัตราประชากร จะพบว่ามีพี่น้องประชาชนฉีดมากที่สุด ขณะนี้เกิน 50% ซึ่งภูเก็ตจะเปิดจังหวัดรองรับนักท่องเที่ยวก็จะมีแผนพิเศษ รวมทั้งกลุ่มแรงงาน ที่ต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งกลุ่มชายแดนเศรษฐกิจก็จะใส่วัคซีนเสริมเติมเข้าไป เช่น ชลบุรี ระยอง จังหวัดชายแดน อย่างจ.ตาก

 

 

4.มอบให้สำนักงานประกันสังคมอีก 1 ล้านโดสไปฉีดแก่ผู้ประกันตน รวมทั้งผู้ที่ขึ้นทะเบียนจองฉีดวัคซีนในระบบ “หมอพร้อม” 

 

 


ข้อมูลจาก เว็บไซต์สยามไบโอไซเอนซ์ , Hfocus , กรุงเทพธุรกิจ

ภาพจาก เว็บไซต์สยามไบโอไซเอนซ์

 

 

 

 

--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง