คนนิวซีแลนด์ย้ายประเทศ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หนีพิษเศรษฐกิจ

นิวซีแลนด์กำลังเผชิญ “พลเมืองไหลออกนอกประเทศ” สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ในขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านอย่างออสเตรเลียกลับมีนักท่องเที่ยวไหลเข้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในรอบปีที่ผ่านมา
จากข้อมูลล่าสุดของสำนักงานสถิตินิวซีแลนด์ (Stat NZ) รายงานว่า จำนวนผู้ที่เดินทางจากออสเตรเลียเข้าสู่นิวซีแลนด์ในรอบปีซึ่งเก็บตัวเลขสิ้นสุดที่สิ้นเดือนกันยายน ปี 2025 อยู่ที่ 1.48 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 1.33 ล้านคนในปีก่อนหน้า ตัวเลขนี้ถือเป็นตัวเลขที่สูงสุดเป็นอันดับสองรองจากปี 2019 และช่วงก่อนจะมีการระบาดของโควิด-19
ไบรอัน ดาวเนส โฆษกของสำนักงานสถิติการเดินทางระหว่างประเทศ ระบุว่า การเดินทางดังกล่าวสัมพันธ์กับจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ และผลพวงจากการทำแคมเปญการตลาด "Tourism New Zealand" ที่เริ่มต้นไปตั้งแต่ปี 2025 โดยแคมเปญนี้เจาะตลาดนักเดินทางชาวออสเตรเลียโดยเฉพาะ
โดยรวมแล้ว นิวซีแลนด์มีนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมด 3.43 ล้านคน เพิ่มขึ้น 197,700 คนจากปีที่แล้ว โดยนอกจากออสเตรเลีย ยังมีกลุ่มที่เพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น
ชาวนิวซีแลนด์ออกนอกประเทศกว่า 72,700 คนในปีเดียว
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติของนิวซีแลนด์ รายงานอีกว่า ชาวนิวซีแลนด์มีการย้ายถิ่นฐานรวมสุทธิอยู่ที่เพียง 12,400 คน ลดลงอย่างมากจาก 42,400 คนในปีก่อนหน้า แต่ทว่า จุดที่น่ากังวลที่สุดคือ มีชาวนิวซีแลนด์ที่เดินทางออกนอกประเทศถึง 72,700 คน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยที่ 46,400 คน เป็น “การสูญเสียสุทธิ” ของประชากรนิวซีแลนด์ที่ส่วนใหญ่ย้ายไปออสเตรเลีย ในเวลาเดียวกันก็มีชาวนิวซีแลนด์ 26,300 คนที่ย้ายกลับบ้านเกิด
ขณะที่แรงงาน และผู้ย้ายถิ่นฐานสัญชาติอื่นๆ ทำให้เกิดกำไรสุทธิ 58,800 คน จากการเดินทางเข้าประเทศ 112,600 คน และเดินทางออก 53,800 คน โดยกลุ่มที่ย้ายถิ่นฐานที่ใหญ่ที่สุดคือ ชาวนิวซีแลนด์เอง ตามมาด้วย จีน อินเดีย และฟิลิปปินส์
รัฐบาลชี้ เพราะพิษเศรษฐกิจ-ฝ่ายค้านจี้ “คนมองไม่เห็นอนาคตประเทศ”
เอริกา สแตนฟอร์ด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า กระแสคนไหลออกนอกประเทศเริ่มเห็นชัดช่วงปี 2023 ด้วยเพราะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ก็คาดว่าตัวเลขจะลดลงเมื่อเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น ซึ่งเท่าที่เธอสังเกตและติดตามจากที่ผ่านมา เวลาที่เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ชาวกีวีจะออกไปหางานทำที่อื่น เมื่อสภาพดีขึ้น พวกเขาก็จะกลับมา มันคือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และมันกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
ขณะที่ นิโคลา วิลลิส รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ระบุว่า ตัวเลขการไหลของคนสะท้อนว่าประเทศจำเป็นต้องเร่งแก้ไขให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้น ต้องสร้างโอกาสและงานในประเทศ เพราะไม่มีเหตุผลใดเลยที่นิวซีแลนด์จะตามออสเตรเลียไม่ทัน นอกจากนี้ วิลลิสยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงที่ชาวนิวซีแลนด์ย้ายไปออสเตรเลียมากสุดคือช่วงรัฐบาลก่อนหน้า
ขณะที่ริคาร์โด เมเนนเดซ มาร์ช โฆษกของพรรคกรีนซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ดูแลด้านการตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่าการอพยพของคนเป็น “โศกนาฏกรรมทางสังคม” ที่ผู้คนมองไม่เห็นอนาคตของประเทศที่ตนเองอยู่ และเตือนรัฐบาลให้เลิกโทษรัฐบาลก่อนหน้า
ส่วนคาร์เมล เซพูโลนี รองหัวหน้าพรรคแรงงาน กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า “คนจำนวนมากรู้สึกว่าไม่มีโอกาสในประเทศ นั่นเป็นความสูญเสียอย่างแท้จริง เพราะสิ่งที่พวกเขาเห็นคือการปลดคนงานจำนวนมาก ระบบสาธารณสุขล่มสลาย ที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอ และค่าครองชีพที่สูงลิ่ว”
ด้าน หลุยส์ อัปสตัน รัฐมนตรีท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า สถิติการย้ายออกจำนวนมากสะท้อนว่าเศรษฐกิจจำเป็นต้องเติบโต “เราต้องสร้างงาน ต้องทำให้มั่นใจว่ามีโอกาสทำงานในประเทศ เพื่อให้ชาวกีวีอยู่ต่อ”
เธอระบุว่า บางส่วนย้ายไปออสเตรเลียเพราะโอกาสด้านงาน ซึ่งบางคนอาจกลับมา แต่บางคนก็อาจไม่กลับ ขณะที่ ทามา โพทากา รัฐมนตรีอนุรักษ์ กล่าวเสริมว่า ไม่ได้กังวลมากนัก “ไม่จำเป็นว่าพวกเขาจะอยู่ถาวร เพราะหลายคนไป และหลายคนก็กลับ นั่นเป็นเรื่องธรรมดา”
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
