บริษัทยา Eli Lilly จับมือ NVIDIA พัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้ AI เพื่อการวิจัยยาชนิดใหม่บนโลก

อีไล ลิลลี่ (Eli Lilly) หรือเรียกย่อ ๆ ว่าลิลลี่ (Lilly) บริษัทผลิตยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมมือกับบริษัทออกแบบชิปปัญญาประดิษฐ์ Nvidia เพื่อสร้างสิ่งที่ทั้งสองบริษัทระบุว่าจะเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุด ที่ดำเนินการโดยบริษัทเภสัชกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นพบยาใหม่ ๆ

รายละเอียดซูเปอร์คอมพิวเตอร์และ AI ของ Eli Lilly

ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการติดตั้งซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนา AI ในบริษัท Eli Lilly ซึ่งใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของ Nvidia รุ่น Blackwell ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยประมวลผล AI ที่ล้ำหน้าที่สุดที่ Nvidia ออกแบบมากกว่า 1,000 ตัว โดย Eli Lilly กล่าวว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะทำงานด้วยพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 100% ภายในโรงงานที่มีอยู่ของ Lilly และใช้ระบบหล่อเย็นด้วยน้ำในการระบายความร้อนระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของบริษัท

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทต่างปฏิเสธที่จะเปิดเผยมูลค่าของโครงการความร่วมมือ Lilly กล่าวเพียงว่า อุปกรณ์ Nvidia บางส่วนได้มาถึงศูนย์ข้อมูลของบริษัทในอินเดียแนโพลิส (Indianapolis) เมืองหลวงของรัฐอินเดียนา ทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และ Lilly คาดว่าระบบจะเริ่มใช้งานได้ภายในเดือนมกราคมปี 2026 นี้

AI และภาพรวมในอุตสาหกรรมการแพทย์และยา

บริษัท Eli Lilly ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาควบคุมน้ำหนัก Zepbound และยารักษาโรคเบาหวานและมะเร็ง มองว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์และความสามารถด้าน AI  จะช่วยให้บริษัทสามารถระบุโมเลกุลใหม่ และ เร่งระยะเวลาการพัฒนายาใหม่ได้ จากที่ปกติใช้เวลาหลายปี และ Lilly ยังจะใช้ระบบนี้สำหรับฟังก์ชันอื่น ๆ เช่น การปรับปรุงการทดลองทางคลินิก, กระบวนการผลิต และการขายอีกด้วย

เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล (The Wall Street Journal) สำนักข่าวชื่อดังในสหรัฐอเมริกา มองว่า การปรับปรุงการค้นพบยาใหม่ ๆ ด้วย AI เป็นหนึ่งในความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมยา โดยเชื่อว่า AI จะช่วยให้นักวิจัยสามารถระบุคุณสมบัติทางชีววิทยาที่ก่อให้เกิดโรคและกลไกยาที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับโรคเหล่านั้นได้

The Wall Street Journal รายงานด้วยว่า นอกจาก Eli Lilly แล้ว บริษัทยาขนาดใหญ่ เช่น Johnson & Johnson และ Roche Holding ต่างเร่งเพิ่มขีดความสามารถด้าน AI ในขณะที่บริษัทสตาร์ทอัปบางแห่งมุ่งเน้นเฉพาะการพัฒนายาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งบริษัทต่าง ๆ หวังว่าการเพิ่ม AI ในการทำงานจะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการนำการรักษาใหม่ ๆ จากห้องปฏิบัติการไปสู่ร้านขายยาได้

ด้าน Nvidia ก็พยายามเพิ่มบทบาทตัวเองในกลุ่มนักวิจัยทางการแพทย์มากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ Nvidia ได้ประกาศเป็นพันธมิตรกับบริษัทต่าง ๆ ในสาขาเภสัชกรรมและวิทยาศาสตร์ชีวภาพจำนวนมากในสหรัฐอเมริกา รวมถึง Mayo Clinic ศูนย์การแพทย์เพื่อประโยชน์ทางวิชาการไม่แสวงผลกำไร และบริษัทจัดลำดับ DNA อย่าง Illumina ด้วยเช่นกัน