รถแข่งสูตร 1 หรือเอฟ 1 (Formular 1: F1) เป็นรถยนต์ที่เน้นความแรง เน้นหลักอากาศพลศาสตร์ รวมถึงยังเลือกวัสดุที่ดีที่สุดเพื่อให้ตัวรถมีประสิทธิภาพสูงสุดระหว่างการแข่งขัน แต่เอนวิชัน เรซซิง (Envision Racing) ค่ายรถ F1 ชื่อดังจากอังกฤษ ได้ชูการแข่งขัน F1 ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดตัว รีโคฟเวอร์-อี (Recover-E) รถแข่ง F1 ที่ทั้งคันมาจากขยะอิเล็กทรอนิกส์

รีโคฟเวอร์-อี (Recover-E) รถแข่ง F1 ที่ทั้งคันมาจากขยะอิเล็กทรอนิกส์

รีโคฟเวอร์-อี (Recover-E) เป็นรถแข่ง F1 ได้รับการออกแบบโดยเลียม ฮอปกินส์ (Liam Hopkins) ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารลาเซอเรียน (Lazerian) ค่ายสถาปนิกที่ออกแบบสินค้าและยานพาหนะชื่อดังจากเมืองแมนเชสเตอร์ (Manchester) ในอังกฤษ

โดยตัวรถจะประกอบขึ้นจากแผงวงจรจำนวนมากให้เป็นรูปร่างของตัวรถขึ้นมา ส่วนด้านหน้าของตัวรถที่เป็นส่วนเรียวยาวจะให้การดัดและปรับแต่งโครงนอกของแมคบุ๊ก (MacBook) ไอแพด (iPad) และอุปกรณ์อื่น ๆ พร้อมไฟหน้าที่เกิดจากการดัดแปลงให้ไฟแฟลชของไอโฟน (iPhone) เรียงต่อกัน และสร้างทางเดินอากาศด้านหน้ารถด้วยการใช้ไอโฟนเรียงเป็นแผงเช่นกันกัน

ส่วนสปอยเลอร์ (Spoiler) และส่วนท้ายรถจะใช้แผงวงจรหรือชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ร่วมกับการนำแบตเตอรี่ที่ไม่ใช้แล้วมาใช้งานกับตัวรถ ในขณะที่ระบบส่งกำลังจะใช้มอเตอร์เล็ก ๆ และแบตเตอรี่เชื่อมต่อกับพวงมาลัยและหน้าจอจากเครื่องเล่นเกม ทำให้ตัวรถสามารถเคลื่อนที่ได้จริงแม้ว่าจะไม่ไกลมากนักก็ตาม

รีโคฟเวอร์-อี (Recover-E) รถแข่ง F1 สู่การตระหนักในภัยโลกร้อน

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่ใช้มาจากการบริจาคจากนักเรียนในเมืองแมนเชสเตอร์ รวมถึงมิวสิก แมกพาย (Music Magpie) บริษัทขายสินค้าเทคโนโลยีท้องถิ่น และส่วนอื่น ๆ ที่ไม่สามารถใช้ขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ก็เป็นชิ้นส่วนที่รอการรีไซเคิลจากรถแข่งคันอื่น ๆ ในทีมเอนวิชัน พร้อมยางทั้ง 4 ล้อ จากฮันกุก (Hankook) ผู้ผลิตยางรถยนต์ชื่อดังจากเกาหลีใต้อีกด้วย

Recover-E เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างการรับรู้ต่อสังคมภายใต้โครงการที่ชื่อว่า เรซ อเกนส์ ไคลเมต เชนจ์ (Race Against Climate Change) โดยเอนวิชันต้องการให้การแข่ง F1 เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนรวมเป็นศูนย์ (net-zero) ผ่านการชูปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์สะสมที่มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นถึง 75 ล้านตัน ภายในปี 2030 ที่จะถึงนี้

โดยเอนวิชัน รถ F1 ที่สร้างจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ ไปเผยโฉมและวิ่งเป็นเชิงสัญลักษณ์ในการแข่งขันลอนดอน อี-พริกซ์ (London e-prix) การแข่งรถ F1 พลังงานไฟฟ้าประจำปีชื่อดัง เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาด้วย

ที่มาข้อมูล Dezeen, Lazerian

ที่มารูปภาพ Envision Racing