รีเซต

รพ.ธรรมศาสตร์ พบเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 5 ราย สั่งกักตัวอีกเพียบ

รพ.ธรรมศาสตร์ พบเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 5 ราย สั่งกักตัวอีกเพียบ
ข่าวสด
14 กรกฎาคม 2564 ( 13:47 )
58

 

รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ พบเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ 5 ราย โอดวัคซีนแอสตร้าฯที่เคยสัญญาว่าเดือนนี้จะมาสิบล้านโดส วันนี้ยังไม่เห็นเลยแม้แต่โดสเดียว

 

 

เมื่อวันที่ 14 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ อัพเดตสถานการณ์เกี่ยวกับการรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 ประจำวัน เผยพบบุคลากรของโรงพยาบาลติดเชื้อโควิดอีก 5 ราย โดยโพสต์ดังกล่าว ระบุว่า “วันอังคารที่ 13 กค.วันที่เก้าสิบสี่ ต่อเนื่องกันของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์เวฟที่ 3+4 และวันที่สามสิบหก ของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต

 

 

 

 

เช้าวันนี้เริ่มต้นไม่ดีเลย ในบรรยากาศรวมของประเทศที่แย่อยู่แล้ว เพราะฝ่ายควบคุมการติดเชื้อแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ 5 คนในวอร์ดผู้ป่วยนอกกระดูกและข้อ orthopidic ของเรามีผล swab เมื่อบ่ายวานนี้เป็นบวก และมีลักษณะชัดเจนที่บ่งชี้ว่าเป็นการติดเชื้อที่เป็นคลัสเตอร์ มาตรการตอบโต้จากฝ่ายควบคุมการติดเชื้อก็คือ การประกาศปิดวอร์ดผู้ป่วยนอก ortho 100% เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เพื่อทำความสะอาด พ่นยาและอบด้วย UV เพื่อฆ่าเชื้อต่อเนื่องกันหลายครั้ง และกักตัวบุคลากรทั้งหมดเข้ารับการตรวจ swab ครั้งที่หนึ่ง และให้กักตัวอีกเจ็ดวันเพื่อรอผล swab ครั้งที่สอง ว่ายังคงเป็นลบหรือไม่ จึงจะให้เริ่มปฎิบัติงานใหม่ได้ ขออภัยผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อของเราด้วยที่ไม่ได้รับความสะดวกจากเหตุการณ์นี้

 

 

กำลังรบและบุคลากรของเราจะหายไปอีกหลายสิบคนในสัปดาห์ที่วิกฤตนี้ นี่ยังไม่รวมการติดเชื้อประปรายของบุคลากรอีกหลายคนในหลายวอร์ดของเรา ที่ได้รับเชื้อมาจากบุคคลในครอบครัวและชุมชนด้วย ที่เพิ่งมีการรายงานผลการตรวจเชื้อในวันนี้ด้วย

 

 

จำนวนผู้ป่วยใหม่วันนี้ทั่วประเทศมากกว่า 8,600 คน ยังอยู่ในเกณฑ์มากเกินกำลังของโรงพยาบาลอย่างที่ประเมินเอาไว้ เราคงอยู่กับตัวเลขแปด เก้าพันหรือหมื่นเศษต่อวันนี้ไปอีกซักสี่ห้าวันจนกว่าจะเห็นดำเห็นแดงกันในสัปดาห์หน้า

 

 

สถานการณ์วันนี้ที่โรงพยาบาลสนามเรารับผู้ป่วยใหม่เข้ามาได้ 32 คน และส่งผู้ป่วยที่หายแล้วกลับบ้านได้ 31คน ตัวเลขรวมวันนี้สำหรับผู้ป่วยโควิดคือ 308 คน ในจำนวน 300 กว่าคนนี้มีที่ต้องรับยาต้านไวรัสไปแล้ว 30-40 คนและมีสิบกว่าคนที่มีอาการมากถึงขนาดต้อง close monitor เหมือนผู้ป่วยในโรงพยาบาลปกติที่อาการไม่ดี ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ถ้าหากไม่บอกว่า ที่นี่ เรามีกำลังคนเพียง 20 กว่าคนต่อเวรเท่านั้น

 

 

สำหรับดูแลผู้ป่วยสามถึงสี่ร้อยคนในอาคาร 14 ชั้นและไม่ได้จัดเตรียมแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างพร้อมเพรียงเหมือนโรงพยาบาลหลัก ถึงกระนั้น การที่ต้องแต่งชุดอวกาศขึ้นไปดูแลผู้ป่วย และจัดส่งกลับโรงพยาบาลหลักอย่างฉุกเฉิน ตอนเที่ยงคืน ตีสองตีสามจึงเป็นเรื่องปกติ เมื่อพบว่าผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลงมาก เวรกลางคืนของโรงพยาบาลสนามจึงหนักหนามาก เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ป่วย การแบ่งเวลากันหลับพักผ่อนบนพื้นหรือในห้องโถงที่เป็นทางเข้าโรงพยาบาลในตอนดึกของแพทย์และพยาบาล จึงเป็นชีวิตปกติที่คุ้นชินสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่นี่

 

 

วิถีชีวิตและการทำงานที่ยากลำบาก เสี่ยงภัยติดต่อกันมาทุกๆวัน เกินสามเดือนแล้ว และคงจะยาวต่อไปอีกไม่รู้จบ ก็เหมือนกับชีวิตของบุคลากรทุกๆคนในโรงพยาบาลหลัก และคงไม่ต่างไปจากในทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศในสถานการณ์นี้ คงเป็นเพราะพวกเราตระหนักว่า พวกเราหยุดไม่ได้ แพ้ไม่ได้เพราะพวกเราในระบบสาธารณสุขแบกรับเอาความคาดหวังของทุกๆคนในสังคมไทยไว้ในเหตุการณ์วิกฤติร้ายแรงนี้ เพราะพวกเราคิดเอาเองว่าหน้าที่ของพวกเราคืออะไร เราจึงจะต้องทำหน้าที่นี้ต่อไปให้ดีที่สุด

 

 

ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์วันนี้ จำนวนผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกเพิ่มขึ้นอีก 24 ราย จากการตรวจ 212 ราย ทำให้คิวรอเตียง admit ของเราลดลงไม่ได้เลย เพราะจำนวนที่ส่งผู้ป่วยอาการดีขึ้นไปที่รพ สนามมีใกล้เคียงกันกับผู้ป่วยใหม่ที่ swab เป็น +ในแต่ละวัน ยิ่งมีรายงานว่าบุคลากรในแต่ละวอร์ดมีผลตรวจเป็น + ก็ยิ่งทำให้ต้องใช้เวลาไปกับมาตรการการป้องกันการติดเชื้อมากขึ้น ในขณะที่บุคลากรก็ลดลง เรากำลังหารือกันว่า จะถึงเวลาหรือยังนะที่เราอาจจะต้องประกาศงดตรวจรักษาผู้ป่วยนอก ในเคสที่ไม่ฉุกเฉินเร่งด่วนในสถานการณ์โควิดร้ายแรงนี้ ซึ่งถ้าตัดสินใจอย่างนั้น ก็จะส่งผลกระทบอีกด้านหนึ่งต่อผู้ป่วยอื่นที่ต้องการการดูแลจากพวกเราด้วยเช่นกัน

 

 

มีเรื่องมากมายและมีสถานการณ์ใหม่ๆให้ต้องคิด ตัดสินใจ และลงมือทำอย่างเร่งด่วนเต็มไปหมดในวิกฤตคราวนี้ พละกำลัง ขวัญกำลังใจของบุคลากรและทรัพยากรที่พวกเรามีอยู่ไม่มาก เป็นข้อจำกัดอย่างสำคัญในการกำหนดยุทธวิธีการต่อสู้ เพราะข่าวสารและรูปแบบการระบาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กับนโยบายและการบัญชาการที่ขาดเอกภาพ โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์นี้ยืดเยื้อมากกว่าสามเดือนแล้ว และยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ ก็ยิ่งทำให้พวกเรามีความหวังน้อยลงในการจะเอาชนะสงครามนี้ได้

 

 

ช่างเถอะ พวกเราจะสู้ต่อไปเท่าที่จะทำได้ จะสู้ที่นี่ สู้ตรงนี้ จนถึงวันสุดท้าย

 

 

แต่เรื่องดีๆก็คงยังมีอยู่บ้างที่ศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์ วันนี้เราให้ Astra ไปกับผู้คนที่รอคิวอยู่ได้ถึง 2037 คน และยังคงยืนยันจะฉีดวัคซีนที่ยิม 4 ไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะไม่ได้รับวัคซีนมาเพิ่มเติมอีก อย่างน้อยก็จนกระทั่งถึงวันที่ 18 กรกฎาคมนี้

 

 

ใครอย่ามาถามเรานะว่า จะจองฉีดวัคซินเข็มที่สามได้เมื่อไหร่ เราไม่รู้จริงๆ เพราะมาตรการที่สธ.ประกาศเมื่อวานนี้ไม่ได้พูดให้ชัดเจนว่า จะเป็นมาตรการที่ต้องการจะสร้างความมั่นใจและป้องกันบุคลากรด่านหน้า ที่ติดเชื้อจากผู้ป่วยไปเป็นจำนวนมากแล้วเท่านั้น อีกทั้งการประกาศให้ฉีดเข็มสามในบุคลากรทางการแพทย์ ก็ไม่ได้มาพร้อมกับวัคซีนที่เพิ่มมาให้เสียด้วย

 

 

อยากรู้จริงๆนะว่า Astra ที่เคยสัญญาว่าเดือนกรกฎาจะมาสิบล้านโดส ทำไมในวันนี้ จึงยังไม่เห็นเลยแม้แต่โดสเดียว และที่สำคัญคือ ไม่เคยมีคำอธิบายหรือชี้แจงใดๆในเรื่องนี้ จาก นรม. รมว.สธ. ปลัดกระทรวง อธิบดี หรือศบค.เลยทั้งๆที่ประชาชนอีกหกสิบล้านคนของประเทศนี้ ยังไม่ได้มีโอกาสรับวัคซีนเลย แม้แต่เข็มเดียว

 

 

อีกนั่นแหละ เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่และไม่อยู่ในอำนาจของเรา พวกเราคือมดงานตัวเล็กๆ ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของผู้คนที่ล้มป่วยจากการระบาดเท่านั้น และเราจะทำหน้าที่นี้ต่อไปให้ดีที่สุด จนวันสุดท้ายที่จะทำได้.. เราสัญญา”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง