รีเซต

KTAMคัดกองRMF-ThaiESG แนะDCAลดเสี่ยงสร้างโอกาส

KTAMคัดกองRMF-ThaiESG แนะDCAลดเสี่ยงสร้างโอกาส
ทันหุ้น
29 มกราคม 2568 ( 17:55 )
10

#KTAM #ทันหุ้น KTAM คัดกอง RMF - ThaiESG เสิร์ฟสายลงทุนแบบ DCA ช่วยกระจายความเสี่ยง และสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับหน่วยลงทุน KTSTPLUS เมื่อลงทุนตามเกณฑ์ที่กำหนด


นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า ที่ผ่านมานักลงทุนส่วนใหญ่มักจะเลือกลงทุนในกองทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีแบบเป็นก้อนใหญ่ หรือเป็นแบบครั้งเดียวในช่วงปลายปี แต่อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนบางท่านที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารการลงทุนอย่างใกล้ชิด จึงอาจทำให้เสียโอกาสการลงทุนที่ดีในช่วงเวลาที่เหมาะสม ประกอบกับสถานการณ์การลงทุนที่ยังคงมีความผันผวนจากปัจจัยต่างๆ


ดังนั้น KTAM จึงได้แนะนำให้นักลงทุนพิจารณาการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือที่มักได้ยินคำว่า DCA ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยง และสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยคัดสรร 2กลุ่มกองทุนรวมเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เหมาะสมกับการลงทุนแบบ DCA ประกอบด้วย


*ชู 4 กองทุน RMF

กลุ่มกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) แนะนำ 4กองทุน ได้แก่ 1. กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF2 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ โดยมองว่าแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายโลกเป็นขาลงหลังจากที่คงในระดับสูงมานาน ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายในประเทศน่าจะอยู่ในทิศทางทรงตัว และมีโอกาสปรับลดลงในอนาคต ทำให้ผลตอบแทนในประเทศอาจจะปรับไปในทิศทางเดียวกับผลตอบแทนต่างประเทศ


2. กองทุนเปิดกรุงไทยผสมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF1) มีนโยบายกระจายลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ หรือเงินฝาก จากการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีหลังจากความเสี่ยงหลายด้านคลี่คลายไป รวมถึงการมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาช่วยสนับสนุนตลาดหุ้นไทย ไม่ว่าจากนักลงทุนต่างชาติ หรือกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากต่างประเทศอย่างทิศทางดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐและยุโรป ทำให้อาจเริ่มมีเม็ดเงินลงทุนเคลื่อนย้ายเข้าสู่ตลาดเอเชีย และอาเซียน ซึ่งในเชิง Valuation (P/E) ตลาดหุ้นไทยยังถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต


3. กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-WEQ RMF) เน้นลงทุนใน AB Low Volatility Equity Portfolio (กองทุนหลัก) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐาน มีความผันผวนต่ำ ที่อยู่ในประเทศพัฒนาแล้วเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยมองว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะเข้าสู่ภาวะ Soft Landing ขณะที่ดอกเบี้ยเป็นขาลง ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังเติบโตต่อไปในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องภาวะถดถอยยังจะปะทุกลับมาเป็นครั้งคราว อาจจะทำให้ตลาดมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเป็นระยะๆ


และอีกหนึ่งกองทุนคือ 4. กองทุนเปิดเคแทม ยูเอส โกรท อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-US RMF) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AB American Growth Portfolio (กองทุนหลัก) โดยเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทในสหรัฐ ที่มีขนาดใหญ่ มีแนวโน้มในการเติบโตดี มีคุณภาพสูง โดยมาจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐ ยังเติบโตได้ดี ภาพตลาดแรงงานที่ยังค่อนข้างแข็งแกร่ง ทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาปรับตัวลดลง ผลประกอบการของหลาย Sector ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด แม้ว่า อาจมีความผันผวนจากมาตรการของประธานาธิบดีคนใหม่


*เน้นๆ 2 กองทุน ThaiESG

สำหรับกลุ่มกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) แนะนำ 2กองทุน ได้แก่ 1. กองทุนเปิดกรุงไทย ตราสารภาครัฐ ESG (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) (KTESGSI-ThaiESG) เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรหรือหุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย แต่ไม่รวมถึงหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งเป็นพันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) พันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) หรือพันธบัตรหรือหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability - Linked Bond) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV


และ 2. กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) (KTAG-ThaiESG) เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ที่มี SET ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยจากปัจจัยที่สนับสนุนตลาดหุ้นไทยข้างต้น อีกทั้งการลงทุนในกองทุนประเภท ThaiESG ยังเป็นทางเลือกและการลงทุนในระยะยาวในกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล อันจะมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน


นอกจากนี้ บริษัท ยังได้จัดโปรโมชันตั้งแต่วันนี้ - 30 ธันวาคม  2568 นี้ สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน RMF หรือ ThaiESG ที่ร่วมรายการ ทุก ๆ 50,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุน KTSTPLUS 100 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง