เหงื่อใต้วงแขนของผู้ชายส่งผลต่อฮอร์โมน เวลาการมีประจำเดือน และอารมณ์ของผู้หญิง วิจัยชี้

นักวิทยาศาสตร์เริ่มค้นพบว่า คำตอบของแรงดึงดูดนี้อาจไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ เสียง หรือคำพูด หากแต่อยู่ที่ “กลิ่น” ภาษาลับทางเคมีที่ร่างกายของเราส่งต่อกันโดยไม่รู้ตัว
ฟีโรโมน ภาษาลับของร่างกาย “ฟีโรโมน” (pheromones) คือสารเคมีตามธรรมชาติที่สิ่งมีชีวิตปล่อยออกมาเพื่อส่งสัญญาณต่อกัน โดยมีผลต่อพฤติกรรมหรือสภาวะทางสรีรวิทยาของอีกฝ่าย โดยไม่ต้องอาศัยการสื่อสารผ่านประสาทสัมผัสปกติ เช่น การมองเห็นหรือการได้ยิน
แม้ฟีโรโมนจะถูกศึกษาในสัตว์มาอย่างยาวนาน แต่นักวิทยาศาสตร์เริ่มพบหลักฐานว่า มนุษย์เองก็อาจมี “ภาษาฟีโรโมน” ของตัวเองเช่นกัน และหนึ่งในสารที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ androstadienone
Androstadienone เป็นสารประกอบที่พบในเหงื่อชาย โดยเฉพาะบริเวณใต้วงแขน มีโครงสร้างทางเคมีที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน นักวิทยาศาสตร์จึงตั้งข้อสังเกตว่า มันอาจทำหน้าที่เป็น “ฟีโรโมนชาย” ที่ส่งผลต่ออารมณ์และฮอร์โมนของผู้หญิง
งานวิจัยของ Wyart และคณะ (2007) เผยว่า เพียงแค่ได้กลิ่น androstadienone ก็สามารถทำให้ระดับ ฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) ในน้ำลายของผู้หญิงเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงการตอบสนองทางสรีรวิทยาที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวเลย
ในอีกงานหนึ่งที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (Preti et al., 2003) นักวิจัยได้ใช้สารสกัดจากเหงื่อชายวางใต้จมูกของผู้หญิง แล้วติดตามการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนลูทีไนซิ่ง (LH) ซึ่งควบคุมการตกไข่ ผลปรากฏว่า ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงเป็นจังหวะสอดคล้องกับการสัมผัสกลิ่น นอกจากนี้ ผู้หญิงยังรายงานว่ารู้สึกผ่อนคลายและอารมณ์ดีขึ้น
สิ่งเหล่านี้ทำให้หลายคนเชื่อว่า ฟีโรโมนชายอาจมีบทบาทในการส่งสัญญาณ “ดึงดูด” ระหว่างเพศ โดยเป็นการสื่อสารทางชีวภาพที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องใช้เหตุผลหรือคำพูดใด ๆ
กลิ่นไม่เพียงแต่มีอิทธิพลต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่ออารมณ์ด้วย งานวิจัยของ Wysocki และ Preti (2004) ระบุว่า สัญญาณเคมีเหล่านี้อาจส่งข้อมูลไปยังสมองบริเวณที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และแรงขับทางเพศโดยตรง ทำให้เกิดความรู้สึก “อบอุ่น” หรือ “ผูกพัน” เมื่ออยู่ใกล้บุคคลที่มีกลิ่นเคมีเข้ากันได้ทางชีวภาพ
อีกการศึกษาจากยุโรปพบว่า เมื่อผู้หญิงได้กลิ่นสารฟีโรโมนเพศชาย พวกเธอให้คะแนนความน่าดึงดูดของผู้ชายในภาพถ่ายสูงขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลิ่นอาจมีผลต่อการรับรู้ความสวยงามของมนุษย์ในระดับที่เราไม่รู้ตัวเลย
แม้ผลการทดลองหลายชิ้นชี้ไปในทิศทางเดียวกัน แต่วงการวิทยาศาสตร์ยังไม่อาจยืนยันได้อย่างเด็ดขาดว่ามนุษย์มีฟีโรโมนแท้จริงเหมือนสัตว์อื่น ๆ หรือไม่ เพราะการศึกษาหลายงานยังมีข้อจำกัด เช่น การใช้สารสังเคราะห์แทนเหงื่อธรรมชาติ หรือจำนวนผู้เข้าร่วมที่ยังน้อยเกินไป
อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่มีอยู่ก็เพียงพอจะชี้ว่า “กลิ่นจากร่างกาย” คือสื่อชีวภาพที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิด มันอาจเป็นภาษาทางเคมีที่ช่วยสร้างแรงดึงดูด ความผูกพัน และความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์โดยไม่ต้องเอ่ยคำใด ๆ
ดังนั้น ครั้งหน้าที่คุณรู้สึก “ถูกใจ” ใครบางคนโดยไม่รู้ว่าทำไม อาจเป็นเพราะร่างกายของคุณได้ตอบรับ เสียงกระซิบทางเคมีจาก androstadienone ฟีโรโมนชายที่ธรรมชาติออกแบบมาให้พูดกับหัวใจโดยผ่าน “กลิ่น” มากกว่า “คำพูด”
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
