"รักแร้ดำ" อาจไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่เป็นสัญญาณการเกิดโรค

รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "หมอหมู วีระศักดิ์" กรณี รักแร้ดำ อาจไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่เป็นสัญญาณเกิดโรค โดยระบุว่า
ผิวหนังบริเวณรักแร้ที่มีสีคล้ำผิดปกติ หรือที่หลายคนเรียกว่า “รักแร้ดำ” ไม่ได้เกิดจากการเสียดสีหรือโกนขนเท่านั้น แต่ในบางกรณี อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับ ระบบเผาผลาญ ฮอร์โมน และอินซูลิน ได้ เช่น ภาวะดื้อต่ออินซูลิน หรือ เบาหวานชนิดที่ 2
โรคที่สัมพันธ์กับ “รักแร้ดำ” (Acanthosis Nigricans):
1. ภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) / โรคเบาหวานชนิดที่ 2
2. โรคอ้วน (Obesity)
3. ความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) ในผู้หญิง ภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน (Hypothyroidism) หรือความผิดปกติของต่อมหมวกไต (เช่น Cushing's Syndrome) ก็สามารถทำให้เกิดได้ เนื่องจากภาวะเหล่านี้ส่งผลต่อระดับอินซูลินหรือฮอร์โมนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของผิวหนัง
4. ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน ยาสเตียรอยด์ หรือยารักษาภาวะดื้อต่ออินซูลินบางชนิด อาจเป็นผลข้างเคียงให้เกิดได้ชั่วคราว
5. มะเร็ง เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร (หายากแต่ร้ายแรง)
รักแร้ดำแบบไหนที่ควรกังวล?
1. ผิวคล้ำเรียบจากการเสียดสี / โกนขน ปกติ ไม่อันตราย
2. ผิวดำ หนา สาก คล้ายกำมะหยี่ มีประวัติน้ำหนักขึ้นเร็ว ควรตรวจน้ำตาล และฮอร์โมน
3. รักแร้ดำ ปวดท้อง น้ำหนักลดเร็ว อาจต้องคัดกรองมะเร็งในช่องท้อง (ในรายที่มีปัจจัยเสี่ยง)
สรุป หากคุณหรือคนใกล้ตัวมี 'รักแร้คล้ำ หนา สากขึ้นอย่างผิดปกติ' อย่ามองว่าเป็นแค่ 'ปัญหาความงาม' เพราะมันอาจบ่งชี้ถึง โรคเบาหวาน ดื้อต่ออินซูลิน หรือ ความผิดปกติของฮอร์โมน แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจเลือด ตรวจระดับน้ำตาล และฮอร์โมน เพื่อคัดกรองก่อนสายเกินไปนะครับ
ปล. ข้อมูลทั้งหมดที่ผมนำเสนอมีการอ้างอิงแหล่งที่มาชัดเจนและผมได้พยายามอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ แต่บางครั้งอาจมีการโต้แย้งในข้อมูล ซึ่งเป็นเรื่องปกติในแวดวงวิชาการ ดังนั้นจึงขอเรียนทุกท่านว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความของผม และควรหาข้อมูลเพื่มเติมเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง ด้วยนะครับ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
