รีเซต

SELIC ตีปีกงบโค้งสามนิวไฮ กลุ่มอาหาร-เครื่องดื่มทำเงิน

SELIC ตีปีกงบโค้งสามนิวไฮ กลุ่มอาหาร-เครื่องดื่มทำเงิน
ทันหุ้น
16 พฤศจิกายน 2563 ( 09:00 )
75

ทันหุ้น – สู้โควิด - SELIC อวดกำไรไตรมาส 3/63 สูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะ 27.57 ล้านบาท กวาดรายได้รวม 325.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.7% เตรียมวางกลยุทธ์ปี 64 เดินหน้าเจาะกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์ ชี้เป็นกลุ่มทำเงินช่วงโควิด-19 ระบาด คาดโต 10-15% อวดกำลังการผลิต 80% ยันเพียงพอต่อการผลิต

 

นางสาวยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) SELIC เปิดเผยว่า คาดทิศทางธุรกิจและผลประกอบการปี 2564 จะดีต่อเนื่องจากทั้งกลุ่มกาวและกลุ่มสติ๊กเกอร์ แต่บริษัทจะไม่โฟกัสการเติบโตของรายได้มากนัก แต่จะเน้นการสร้างผลกำไรให้เติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ แม้กลับมาเติบโตได้แล้ว แต่ยังไม่ได้กลับมาแบบเต็มที่ 100%

 

รุกกลุ่มอาหาร

 

ทั้งนี้บริษัทจะเน้นทำการตลาด พร้อมกับเจาะกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งสินค้ากลุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้น ตามความต้องการบริโภคสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม โดยคาดปี 2564 จะเติบโตประมาณ 10-15% ต่อจากปีนี้ ขณะที่สัดส่วนรายได้จากทั้งอาหาร เครื่องดื่ม คิดเป็นสัดส่วน 40% ของสัดส่วนรายได้รวมของบริษัท ส่วนบรรจุภัณฑ์คิดเป็นสัดส่วน 20% ของสัดส่วนรายได้รวมของบริษัท

 

ขณะที่กำลังการผลิตปัจจุบันใช้ที่ 80% บริษัทมองว่ายังเพียงพอต่อการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายในปีถัดไป ส่วนการจำหน่ายสินค้าต่างประเทศ หรือการส่งออก บริษัทยังมีรายได้จากการส่งออกในระดับที่ดี โดยเฉพาะประเทศออสเตรเลีย ซึ่งอัตราการเติบโตในกลุ่มบรรจุภัณฑ์เติบโตค่อนข้างมาก

 

ส่วนทิศทางธุรกิจและผลประกอบการ 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ คาดจะทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 มีรายได้ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทสามารถทำกําไรเพิ่มขึ้นสูงสุดในประวัติการณ์(นิวไฮ) โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 325.16 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 14.7% จากไตรมาสก่อน

 

EBITDA อยู่ที่ 57 ล.

 

ขณะที่ความสามารถในการทำกําไรสูงที่สุดในการดําเนินงาน โดยมี EBITDA ที่ 57.59 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 27.57 ล้านบาท จากการดำเนินการธุรกิจสองประเภท คือ ธุรกิจกาวอุตสาหกรรมและธุรกิจสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัว ในไตรมาสนี้รายได้จากธุรกิจกาวอุตสาหกรรมมีสัดส่วน 46% และรายได้จากธุรกิจสติ๊กเกอร์ 54%

 

สำหรับไตรมาส 3/2563 รายได้รวมของธุรกิจกาวอุตสาหกรรมเท่ากับ 183.12 ล้านบาทเติบโตขึ้น 21.1% จากไตรมาสก่อน โดยรายได้จากการขายปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากการผ่อนคลายนโยบายป้องกันแพร่ระบาดในประเทศและต่างประเทศบางประเทศ ประกอบกับการจับทิศทางที่มุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตเช่นกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และอุตสาหกรรมการบรรจุหีบห่อ เป็นต้น

 

ควบคุมต้นทุน

 

ธุรกิจสติ๊กเกอร์ยังคงเน้นในด้านการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง การปรับปรุงด้านการผลิต และการปรับปรุงด้านการควบคุมคุณภาพเพื่อวางรากฐานการเจาะตลาดเพิ่มในอนาคต โดยมีรายได้รวมของธุรกิจสติ๊กเกอร์เท่ากับ 183.05 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1.5% จากไตรมาสก่อน การดําเนินการไตรมาสที่ 3/2563 เป็นไปด้วยความระมัดระวังและยึดหลักการปรับเปลี่ยนอย่างคล่องตัว (Agile) ตามนโยบายด้านการควบคุมต้นทุน บริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพและการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้เกิดผลประกอบการด้านการทำกำไร

 

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม

สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง