"Apple" จ่อขึ้นราคา iPhone 17 เหตุฟีเจอร์ใหม่+ดีไซน์? l การตลาดเงินล้าน

วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่า บริษัท Apple Inc. กำลังพิจารณาปรับขึ้นราคาสมาร์ตโฟน iPhone รุ่นใหม่ ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ อย่างไรก็ตาม Apple ต้องการหลีกเลี่ยงการเชื่อมโยงการขึ้นราคากับภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่มีต่อสินค้าจากจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิต iPhone ส่วนใหญ่
ราคาหุ้นของ Apple ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสตลาดในวงกว้างที่เป็นบวก หลังสหรัฐฯ และจีนตกลงลดอัตราภาษีตอบโต้กันชั่วคราวในวันจันทร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สินค้านำเข้าจากจีนยังคงเผชิญกับภาษีในอัตราร้อยละ 30 ภายในสหรัฐฯ
Apple ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ภายหลังจากการออกมาตรการภาษีชุดใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และบีบให้ Apple ต้องย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปยังประเทศอินเดีย
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ระบุว่า Apple ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการต่อรายงานของ Wall Street Journal และปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อสำนักข่าว Reuters
การปรับขึ้นราคาครั้งนี้อาจเป็นกลยุทธ์ของ Apple เพื่อรองรับต้นทุนที่สูงขึ้นจากผลกระทบของภาษี ก่อนหน้านี้ Apple เคยระบุว่าภาษีดังกล่าวจะเพิ่มต้นทุนการดำเนินงานในไตรมาสเมษายนถึงมิถุนายน ราว 900 ล้านดอลลาร์ และในช่วงเวลาดังกล่าว iPhone ส่วนใหญ่ที่ขายในสหรัฐฯ จะผลิตจากโรงงานในอินเดีย
นักวิเคราะห์หลายรายได้คาดการณ์มาระยะหนึ่งแล้วว่า Apple อาจตัดสินใจปรับราคาสินค้า แต่ก็เตือนว่าการดำเนินการเช่นนี้อาจทำให้บริษัทสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคู่แข่งอย่าง Samsung เร่งเปิดตัวสมาร์ตโฟนที่มีฟีเจอร์ AI ล้ำสมัย ในขณะที่ Apple ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการนำ AI มาใช้
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์ Rosenblatt Securities ระบุว่า iPhone 16 รุ่นเริ่มต้นที่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ เปิดราคาที่ 799 ดอลลาร์ แต่หากคำนวณรวมภาษีแล้ว ราคาสามารถพุ่งสูงถึง 1,142 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 43
ทั้งนี้ รายงานของ Wall Street Journal ยังระบุด้วยว่า Apple วางแผนจะจับคู่การขึ้นราคากับการเปลี่ยนแปลงในด้านฟีเจอร์และการออกแบบใหม่ โดยเฉพาะดีไซน์ที่บางเฉียบยิ่งขึ้น ซึ่งอาจเป็นเหตุผลสำคัญในการสนับสนุนการปรับราคาให้ผู้บริโภคยอมรับได้
อีกด้านหนึ่ง Amazon.com ก็ตกเป็นเป้าโจมตีของทำเนียบขาวในเดือนที่ผ่านมา หลังมีการพิจารณาจะปรับเพิ่มราคาขายสินค้าภายใต้หน่วย Haul ซึ่งเน้นสินค้าราคาประหยัด โดยอ้างอิงจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้ฝ่ายบริหารของทรัมป์กล่าวหาว่า Amazon มีเจตนาทางการเมืองที่ไม่เป็นมิตรต่อรัฐบาล
สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจและการเมืองที่บีบบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน และรักษาฐานลูกค้าท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าในระดับโลก