เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (10 เม.ย.2565)

ข่าววันนี้ สถานการณ์วิกฤต "รัสเซียยูเครน" ล่าสุดนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ เดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน หารือกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี  อ่าน : เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (8 เม.ย.2565)

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (10 เม.ย.2565)

นายกฯ อังกฤษเยือนยูเครน หารือกับ "เซเลยสกี" ให้คำมั่นคว่ำบาตรรัสเซียหนักขึ้น

นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ เดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน หารือกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน พร้อมให้คำมั่นคว่ำบาตรรัสเซียหนักหน่วงยิ่งขึ้น และส่งอาวุธให้ยูเครนเพิ่มมากขึ้น ส่วนรัฐบาลยูเครนเรียกร้องให้ประชาชนที่ยังไม่อพยพ รีบอพยพออกจากภาคตะวันออกทันที ก่อนรัสเซียโจมตีในอีกไม่กี่วันนี้

ยูเครนเรียกร้องในวันเสาร์ (9 เมษายน) ให้พลเรือนในภูมิภาคลูฮันสก์ อพยพทันที หลังรัสเซียกำลังระดมกำลังทหารเพื่อโจมตีในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีเสียงเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในหลายเมืองทั่วภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางของปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ หลังถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ใกล้กรุงเคียฟ 

เซอร์ฮี ไกได ผู้ว่าการภูมิภาคลูฮันสก์ แถลงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ เรียกร้องให้พลเรือนที่ยังอยู่ในเมือง อพยพหนีการโจมตี ซึ่งเขาบอกว่าจะหนักหน่วงรุนแรงในอีกไม่กี่วันนี้

สงครามในยูเครน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้มีพลเรือนมากกว่า 4 ล้านคน อพยพออกนอกประเทศ ประชาชนจำนวน 1 ใน 4 ไร้ที่อยู่อาศัย และหลายเมืองถูกโจมตีเหลือแต่ซากปรักหักพัง

ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ หนึ่งในผู้สนับสนุนอย่างแข็งขันของยูเครน เดินทางเยือนกรุงเคียฟในวันเสาร์ เพื่อให้คำมั่นสัญญาว่าจะคว่ำบาตรรัสเซียเข้มข้นยิ่งขึ้น และเสนอความช่วยเหลือด้านอาวุธให้แก่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ผู้นำยูเครน แถลงว่า ผู้นำประเทศอื่น ๆ ควรปฏิบัติตาม

ในการประชุม ซึ่งเก็บเป็นความลับจนกระทั่งนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ปรากฏตัวในกรุงเคียฟ ผู้นำทั้งสองกระชับความสัมพันธ์ใกล้ชิด ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้จอห์นสันพยายามที่จะพบหารือกับเซเลนสกีอยู่นานหลายสัปดาห์ โดยผู้นำทั้งสอง ต่างชื่นชมซึ่งกันและกันสำหรับความร่วมมือ ตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน 

ข้อมูล TNN World

รัสเซีย ซ้อมรบใน "คาลีนินกราด" ดินแดนระหว่างโปแลนด์-ลิทัวเนีย

รอยเตอร์ รายงานว่า รัสเซีย จัดการซ้อมรบในแคว้นคาลีนินกราด ซึ่งอยู่พ้นชายขอบ รัสเซีย ริมทะเลบอลติก ระหว่างโปแลนด์และลิทัวเนีย เมื่อวันเสาร์ที่ 9 เม.ย. ตามรายงานอินเตอร์แฟ็กซ์ สื่อรัสเซีย รายงานจากข่าวของกองบัญชาการกองเรือบอลติก (Baltic Fleet Command)

“บุคลากรทางทหารมากถึง 1,000 คน… และหน่วยยุทโธปกรณ์มากกว่า 60 หน่วยร่วมในการตรวจสอบการควบคุม” กองบัญชาการกองเรือบอลติกของรัสเซียกล่าว แต่ไม่ได้ชี้แจงเหตุผลในการซ้อมรบหรือบอกว่าวางแผนเมื่อใด

นอกจากนี้ เครื่องบินขับไล่ซู-27 จำนวน 20 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิดแนวหน้าซู-24 ดำเนินการซ้อมรบตามแผนในชั่วข้ามคืน โดยจำลองการโจมตีเป้าหมายทางอากาศและภาคพื้นดินความเร็วต่ำ ฐานบัญชาการ และอุปกรณ์ทางทหารในคาลีนินกราด

การซ้อมรบมีขึ้นไม่กี่วันหลังนายอเล็กซานเดอร์ กรุชโค รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย เตือนประเทศต่างๆ ในยุโรป เมื่อวันพุธที่ 6 เม.ย. ว่า การกระทำการใดๆ ที่มีผลต่อคาลีนินกราดว่า "จะเป็นการเล่นกับไฟ"

ข้อมูล ข่าวสด

เซเลนสกีร้องโลกช่วยหยุดหายนะ คว่ำบาตรรัสเซีย-ขออาวุธเพิ่ม

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมาระบุว่า การรุกรานของรัสเซียจะไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในยูเครนเท่านั้น แต่ยุโรปทั้งหมดล้วนเป็นเป้าหมาย พร้อมเรียกร้องให้ชาติตะวันตกคว่ำบาตรภาคพลังงานรัสเซียทั้งหมด และจัดหาอาวุธให้กับยูเครนเพิ่มขึ้น

“การใช้กำลังของรัสเซียเป็นหายนะที่จะเกิดขึ้นกับทุกคนอย่างเลี่ยงไม่ได้ การรุกรานของรัสเซียไม่ได้จำกัดอยู่แค่ยูเครนเท่านั้น แต่ยุโรปทั้งหมดล้วนเป็นเป้าหมายของรัสเซีย”เซเลนสกีกล่าว

ยูเครนยังแสดงความพร้อมสำหรับการต่อสู้อย่างดุเดือนกับกองกำลังรัสเซียที่กำลังรวมตัวกันอยู่ในพื้นที่ทางตะวันออก และว่ารัสเซียกำลังพยายามสร้างทางเดินทางบกจากไครเมีย ซึ่งรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วหนึ่งในปี 2014 กับดินแดนในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งกลุ่มติดอาวุธที่ฝักใฝ่รัสเซียยึดครองอยู่

เซเลนสกีกล่าวว่า รัสเซียยังคงใช้วชีวิตอยู่ในภาพลวงตา และนำกองกำลังใหม่รวมถึงอาวุธใหม่ๆ เข้ามาในดินแดนของเรา นั่นแปลว่าเราตองการการคว่ำบาตรที่มากขึ้น และต้องการอาวุธเพิ่มขึ้นด้วย

ด้านนายมิกไคโล โปโดยัค ทีมเจรจาสันติภาพของยูเครน กล่าวว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย จะไม่พบกันจนกว่ายูเครนจะเอาชนะรัสเซียในพื้นที่ทางตะวันออกได้ ซึ่งจะช่วยเสริมสถานะในการเจรจา และว่าเรากำลังต้องจ่ายในราคาที่สูงมาก แต่รัสเซียต้องขจัดภาพลวงตาของการเป็นจักรวรรดิของตนเองด้วยเช่นกัน

ข้อมูล มติชน

นาโตมีแผนประจำการทหารตามแนวชายแดนของประเทศสมาชิกอย่างถาวร ป้องกันการคุกคามของรัสเซีย

ข้อมูล TNN World

ยูเครน-รัสเซีย บรรลุข้อตกลง เปิดระเบียงมนุษยธรรม 10 เส้นทาง

ยูเครน-รัสเซีย ตกลงเปิดระเบียงมนุษยธรรมรอบใหม่รวม 10 เส้นทาง รวมทั้งในมารีอูโปล และโดเนตส์ก-ลูฮันส์ก อียูนำจัดงานระดมทุนช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในยูเครนได้เงินกว่า 9,000 ล้านยูโร ขณะเดียวกัน อียูหวนกลับไปเปิดสถานทูตในกรุงเคียฟอีกรอบแล้ว
ทางการยูเครน ระบุว่า ได้บรรลุข้อตกลงเปิดระเบียงมนุษยธรรมรอบใหม่กับรัสเซีย เพื่ออพยพพลเรือนออกจากหลายเมืองที่ถูกทหารรัสเซียโจมตี โดยตกลงกันไว้ที่ 10 เส้นทางในพื้นที่ทางใต้และตะวันออกรวมทั้งเส้นทางอพยพจากเมืองท่า มารีอูโปล ซาปอริซเซีย โดเนตส์กและลูฮันส์ก สองเมืองในภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออก

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยูเครน ระบุว่า มีพลเรือนเพียงบางส่วนจากทั้งหมดหลายหมื่นคนที่ได้รับการอพยพ หวังว่าจะได้ข้อตกลงเปิดระเบียงมนุษยธรรมเพิ่มขึ้นอีก เพื่ออพยพพลเรือนให้ได้มากที่สุด เนื่องจากในพื้นที่หลายเมืองรวมทั้งมารีอูโปล ยังมีการต่อสู้กันอยู่เป็นระยะ ๆ

ขณะที่ เมื่อวานนี้ (9 เมษายน) ​เกิดงานระดมทุน เพื่อจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้ยูเครน ใช้ชื่อว่า “Stand Up for Ukraine” ที่กรุงวอร์ซอของโปแลนด์ มีกรรมาธิการยุโรป แคนาดา และโกลบอล ซิติเซน องค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เป็นแม่งาน 

โดยมีรัฐบาลหลายประเทศ ผู้นำธุรกิจ และภาคการธนาคาร ร่วมกันลงขันสนับสนุนเงินช่วยเหลือยูเครน รวมเป็นเงินสูงถึง 9.1 พันล้านยูโร หรือ ประมาณ 3.31 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้ เฉพาะกรรมาธิการยุโรป ประกาศให้เงินสนับสนุนยูเครน 1,000 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท 

ส่วนการที่เลือกจัดงานนี้ที่กรุงวอร์ซอ เพื่อเป็นการให้การยอมรับและชื่นชมโปแลนด์เป็นประเทศผู้รับบทบาทนำ ในการช่วยเหลือผู้อพยพจากยูเครนมากกว่า 2.6 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60% ของยอดผู้อพยพทั้งหมดจากยูเครน
ด้านสหภาพยุโรป หรือ อียู ได้เปิดทำการสถานทูตอียูในกรุงเคียฟ ของยูเครนอีกครั้งแล้ว หลังจากได้ย้ายเข้าไปตั้งอยู่ในโปแลนด์เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่รัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ โจเซฟ บอร์เรลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู ได้ประกาศแผนการเปิดสถานทูตอียูรอบใหม่ ระหว่างการเดินทางเยือนยูเครน พร้อมประธานกรรมาธิการยุโรป เมื่อวันศุกร์ (8 เมษายน) ที่ผ่านมา 

ขณะที่ มัตติ มาซิกัส หัวหน้าคณะผู้แทนของอียูในกรุงเคียฟ ได้โพสต์ภาพรูปธงอียูโบกสะบัดอยู่ด้านนอกสำนักงานผู้แทนอียูในกรุงเคียฟ เป็นสัญญาณบอกการกลับมาเปิดทำการของสำนักงานด้านการทูตได้อีกครั้งแล้ว

ส่วนทางการอิตาลี แถลงเมื่อวันเสาร์ (9 เมษายน) ว่า อิตาลีตั้งใจจะเปิดทำการสถานทูตในกรุงเคียฟอีกครั้งทันทีที่สิ้นสุดเทศกาลอีสเตอร์ แต่ไม่ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม

ข้อมูล TNN World

อียูหารืออัยการศาลอาญาโลก ช่วยยูเครนฟ้องรัสเซียก่อ ‘อาชญากรรมสงคราม’

คณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะหารือเกี่ยวกับการให้การสนับสนุนการเดินหน้าสอบสวนคดีอาชญากรรมสงครามของรัสเซียในยูเครน โดยนายโจเซฟ บอร์เรล ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของอียู จะการหารือกับนายคาริม ข่าน หัวหน้าอัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ที่ลักเซมเบิร์ก ในวันที่ 10 เมษายน

ขณะที่ในวันที่ 11 เมษายน รัฐมนตรีต่างประเทศอียูจะหารือกัน เพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งของอียู ในการสืบสวนเกี่ยวกับการทารุณกรรมที่เกิดขึ้นในยูเครน โดยเฉพาะที่เมืองบูชา

เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป พร้อมกับนายบอร์เรล เพิ่งเดินทางเยือนเมืองบูชา ซึ่งเธอระบุหลังเดินทางออกมาว่า “ถ้านี่ไม่ใช่อาชญากรรมสงคราม แล้วอาชญากรรมสงครามคืออะไร

แดร์ ไลเอิน ย้ำว่า ต้องมีการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อให้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับอาชญากรรมสงครามถูกส่งต่อไปในศาล

อียูยังได้ตั้งทีมสอบสวนร่วมกับยูเครนเพื่อรวบรวมหลักฐานในบูชาและในที่อื่นๆ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชจากประเทศสมาชิกอียูบางประเทศเข้าร่วมด้วย

นอกจากนี้ อียูยังประกาศให้เงิน 7.5 ล้านยูโร หรือเกือบ 274 ล้านบาท เพื่อฝึกอัยการยูเครนให้สอบสวนคดีอาชญากรรมสงครามด้วย

ข้อมูลมติชน

เซเลนสกียัน ยูเครนสู้ไปรบไป พร้อมเจรจารัสเซียต่อ

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ยืนยันว่า ยูเครนยังพร้อมที่จะเจรจากับรัสเซียต่อไป หลังการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซียยุติลงตั้งแต่เหตุการณ์ในบูชาถูกเปิดเผย โดยเซเลนสกีย้ำว่า ยูเครนพร้อมเสมอสำหรับการเจรจา และมองหาวิธีใดๆ ก็ตามที่จะยุติสงครามครั้งนี้

เซเลนสกีกล่าวว่า สิ่งที่น่าเศร้าที่เราเห็นการเตรียมความพร้อมในการสู้รบที่สำคัญ ที่บางคนบอกว่าเป็นการชี้ขาดทางตะวันออก แต่ยูเครนพร้อมที่จะต่อสู้ คู่ขนานไปกับการยุติสงครามผ่านการเจรจาทางการทูต

เซเลนสกีกล่าวด้วยว่า เราได้เห็นการระดมกำลังทหารและอาวุธยุโธปกรณ์ในพื้นที่ทางตะวันออกและทางใต้ ที่พร้อมจะยึดครองดินแดนส่วนอื่นๆ ของเรา

“ผลของการโจมตีครั้งใหม่ใดๆ ของรัสเซีย จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ซึ่วรวมถึงความแข็งแกร่งของยูเครน ความรวดเร็วที่พันธมิตรของเราจะจัดหาอาวุธให้ และความประสงค์ของปูตินที่จะก้าวต่อไป” เซเลนสกีกล่าว

ด้านนายมิกไคโล โปโดยัค ทีมเจรจาสันติภาพของยูเครน กล่าวว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีและประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย จะไม่พบกันจนกว่ายูเครนจะเอาชนะรัสเซียในพื้นที่ทางตะวันออกได้ ซึ่งจะช่วยเสริมสถานะในการเจรจา และว่าเรากำลังต้องจ่ายในราคาที่สูงมาก แต่รัสเซียต้องขจัดภาพลวงตาของการเป็นจักรวรรดิของตนเองด้วยเช่นกัน

ข้อมูลมติชน

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง

ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี