ครม.เศรษฐกิจอนุมัติ Fast Pass 80 โครงการลงทุน 4.8 แสนล้าน

#ทันหุ้น ครม.เศรษฐกิจ เร่งเครื่องลงทุนครั้งใหญ่! ดัน 80 โครงการยักษ์กว่า 4.8 แสนล้านบาท เปิดตัว "Thailand Fast Pass" ลดเวลาขออนุญาตลงทุน 20-50% เชื่อ 3 ปีแรกเงินลงระบบเศรษฐกิจ 3.9 แสนล้าน พร้อมทุ่มงบ 5 พันล้านพัฒนาทักษะผู้ประกอบการและแรงงานรองรับการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจวันนี้ (24พ.ย.)ว่า ที่ประชุมอนุมัติโครงการ Thailand FastPass ทางด่วนการลงทุน ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบาย Quick Big Win เสาที่ 5 ของรัฐบาล เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มูลค่าสูงถึง 480,000 ล้านบาท พร้อมทั้งเร่งรัดการแก้ปัญหาระยะยาวทั้งการลงทุนด้านพลังงานสะอาดและการยกระดับทักษะแรงงานไทย

“BOI มีโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติไว้แล้วค่อนข้างมาก ประมาณ 2 ล้านล้านบาท แต่หลายโครงการยังไม่เกิดการลงทุนจริง ครม.เศรษฐกิจจึงเห็นชอบโครงการ "Thailand Fast Plus" เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยจะเริ่มจากโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีอยู่ 80 โครงการ คิดเป็นเม็ดเงิน 4.8 แสนล้านบาท”

เขากล่าวว่า การปลดล็อกข้อจำกัดและลดขั้นตอนในกระบวนการขออนุญาตต่าง ๆ เช่น การขอวีซ่าทำงาน การขอระบบน้ำ และระบบไฟฟ้า โดย BOI จะทำงานร่วมกับหน่วยราชการต่าง ๆ เพื่อกำหนดกรอบเวลาอนุมัติที่ชัดเจน คาดว่า จะลดขั้นตอนดังกล่าวได้ราว 20-50% คาดว่า ใน 3 ปีแรกจะมีมูลค่าการลงทุน 3.9 แสนล้านบาท

ขณะเดียวกัน ผลการปลดล็อกนี้จะถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการชุดรองนายกฯ บวรศักดิ์ เพื่อดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย (Guillotine) เพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างถาวรในระยะยาว ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมใหม่ เช่น เกษตรชีวภาพ เกษตรแปรรูป อาหารแปรรูป ยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และการแพทย์ครบวงจร ซึ่งมีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก การลงทุนนี้ยังจะช่วยสร้างงานและนำเงินเข้าสู่พื้นที่ต่าง ๆ

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเร่งแก้ปัญหาหลักที่นักลงทุนกังวล โดยเฉพาะพลังงานสะอาดและที่ดิน ซึ่งกรณีของพลังงานสะอาดนั้น นักลงทุนโดยเฉพาะโครงการ Data Center ต้องการพลังงานสะอาด แต่ปัจจุบันไฟฟ้าไม่เพียงพอและนโยบายยังไม่ชัดเจน ทำให้ขาดความมั่นใจในการลงทุน มาตรการแก้ไข คือ รัฐบาลจะเร่งดำเนินการซื้อขายไฟฟ้าโดยตรง (Direct PPA) โดยได้ประสานงานกับสำนักงาน กกพ. (คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน) ซึ่งแจ้งว่าจะนำเกณฑ์นี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ กกพ. ภายในสัปดาห์หน้า และต้องทำให้เกณฑ์ดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ ยังจะมีการประกาศหลักเกณฑ์อัตราค่าบริการ "ไฟฟ้าสีเขียว" แบบที่ 2 เพื่อให้เกิดราคาพลังงานสะอาดขึ้น

ส่วนเรื่องของที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมนั้น ปัจจุบัน มีนักลงทุนอยากเข้ามาลงทุน แต่พื้นที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากติดข้อจำกัดด้านกฎหมายและกฎกติกา มาตรการแก้ไข คือ จะใช้โครงการ Fast Pass เข้าไปแก้ปัญหาในระยะสั้น และส่งต่อให้คณะกรรมการที่มีอาจารย์บวรศักดิ์เป็นประธานเพื่อแก้ปัญหากฎหมายในระยะยาว

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติยกระดับทักษะแรงงานและการสนับสนุน SMEs ด้วยกองทุนเพิ่มขีดความสามารถเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักลงทุนที่กังวลว่าประเทศขาดแรงงานที่มีทักษะ ครม.จึงอนุมัติการพัฒนาบุคลากรทักษะสูงสำหรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ เป้าหมาย 1 แสนคน วงเงินรวม 2 พันล้านบาท จัดทำหลักสูตรระยะสั้นร่วมกับภาคเอกชน เพื่อพัฒนาทักษะขั้นสูงด้าน AI, Data Center, และยานยนต์ในอนาคต ให้วงเงิน 1-4 หมื่นบาทต่อคน

ขณะเดียวกัน ยังสนับสนุน SMEs ให้ลงทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยให้เงินอุดหนุนจากเงินกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 3,000 ล้านบาท โดยจะให้ทั้งเงินอุดหนุน เพื่อนำไปใช้ออโตเมชั่น (Automation) และทำวิจัยพัฒนา พร้อมทั้งร่วมมือกับสมาคมธนาคารไทยในการให้สินเชื่อ เพื่อช่วยให้ SME ไทยก้าวสู่การเป็นอุตสาหกรรมใหม่

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการBOI กล่าวว่า Thailand Fast Pass เป็นกลไกที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทุนให้มากที่สุด โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการเพิ่มความง่ายในการทำธุรกิจ (East of Doing Business) และจะเป็นเสมือนอาวุธใหม่ในการดึงดูดการลงทุนของประเทศ

ในระยะนำร่อง (ช่วงแรก) Thailand Fast Pass จะจับมือกับ 5 หน่วยงานหลัก ได้แก่ BOI, กรมโรงงานอุตสาหกรรม, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.), สำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) และกรมศุลกากร หน่วยงานเหล่านี้จะเน้นขั้นตอนที่มีผลต่อการเริ่มต้นธุรกิจ เช่น การขอรับส่งเสริมจาก BOI, การขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน, การขออนุญาตจาก กนอ., การขอเรื่อง EIA จาก สผ., และการขอจัดตั้งฟรีโซน คณะกรรมการเศรษฐกิจยังมีมติมอบอำนาจให้บอร์ด BOI สามารถกำหนดหน่วยงานเพิ่มเติมในภายหลังได้อีกด้วย

“โครงการที่มีความสำคัญจะได้รับบัตร Fast Pass ซึ่งจะได้รับบริการแบบ Fast Track จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากการหารือเบื้องต้น กลไก Fast Pass ของ 5 หน่วยงานนำร่องนี้ จะลดเวลาในการพิจารณาอนุมัติอนุญาตได้ "อย่างน้อย 20-50%" และพร้อมจะเริ่มให้บริการได้ภายในเดือนธันวาคมนี้”