จับแล้วลานกางเต้นท์ บังผาหัวสิงห์ภูทับเบิก จ่อปลุกคำสั่ง คสช.35/59 รื้อสิ่งปลูกสร้าง(ชมคลิป)
เพชรบูรณ์-จับแล้วลานกางเต้นท์บังผาหัวสิงห์ภูทับเบิก ยึดพื้นที่-สิ่งปลูกสร้าง เตรียมปลุกคำสัง คสช.35/59 รื้อถอน (ชมคลิป)
วันที่ 9 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตกเป็นกระแสและกลายเป็นประเด็นดรามา เกี่ยวเรื่องการกางเต้นท์บดบังทัศนียภาพ ที่บริเวณผาหัวสิงห์ที่ภูทับเบิก หมู่ที่ 8 บ้านดอยน้ำเพียงดิน ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน.นำคณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบผาหัวสิงห์ภูทับเบิก หมู่ 8 ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า ซึ่งเป็นพื้นที่ร้องเรียนเพิ่มเติมจากวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา พบนายเงี่ยป๋อ แซ่ท่อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดินเดิม ก่อนที่จะแบ่งมอบที่ดินให้กับบุตร นำชี้ขอบเขตที่ดินทำกินเดิมจับค่าพิกัดมาคำนวณพื้นที่ได้ 21 – 3 – 0 ไร่ นอกจากนี้ยังพบผู้ครอบครองจำนวน 2 รายจึงให้นำตรวจสอบ
โดยรายแรกนายกัวเน้ง แซ่ท่อ ครอบครองพื้นที่จำนวน 3 – 2 – 12 ไร่ แปลงติดผาหัวสิงห์ เป็นที่ดินที่ได้รับแบ่งมอบจากบิดา ถึงแม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแต่ได้ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจากที่บิดาทำกินเดิม จึงผิดเงื่อนไขตามมติครม.วันที่ 30 มิถุนายน 2541 ซึ่งถือเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่มีความเห็นเป็นการกระทำผิดพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 จึงทำการตรวจยึดพื้นที่พร้อมสิ่งปลูกสร้างได้แก่ บ้านคอนกรีต 2 ชั้น 1 หลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง, เต็นท์กระโจม 7 หลัง, ห้องน้ำห้องสุขา 4 หลังและพื้นที่ปรับเป็นลานกางเต็นท์ และแจ้งกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่าเพื่อดำเนินคดี
ส่วนอีกราย นายวีระพจน์ รักษ์มณี ครอบครองพื้นที่ประมาณ 19 ไร่ ให้ข้อมูลเป็นที่ดินที่ได้รับแบ่งมอบจากพ่อตา มีสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านกระโจม 4 หลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง, อาคารสำนักงาน 1 หลัง ห้องน้ำห้องสุขา 4 หลัง และปรับพื้นที่เป็นลานกางเต็นท์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม นอกจากนี้ทางคณะเจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีราษฎรบ้านวังบาลไม่ทราบชื่ออีกรายเป็นเจ้าของภูลมหนาว ผาหัวสิงห์แคมป์ปิ้ง ครอบครองพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ไม่พบเจ้าของสร้างบ้านกระโจม 1 หลัง, ห้องน้ำ-ห้องสุขา 2 หลังและลานกางเต็นท์
อย่างไรก็ตามในการตรวจสอบดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ยังพบด้วย อาคารสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ระหว่างการสร้างในที่ดินทั้งที่นายกัวเน้งและนายวีรพจน์เป็นผู้ครอบครอง โดยไม่ได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯต่อ อบต.บ้านเนิน ทางพนักงานเจ้าหน้าที่อบต.จึงปิดประกาศระงับการก่อสร้างและห้ามใช้อาคารดังกล่าว
ในขณะที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ หลังได้รับรายงานการตรวจยึดพื้นที่และจับกุมดำเนินคดีผู้บุกรุกป่าได้สั่งกำชับให้เร่งรัดดำเนินคดีทั้งหมด รวมถึงใช้อำนาจคำสั่งคสช.ที่ 35/2559 เรื่องการแก้ปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่นดินป่าภูทับเบิก ในพื้นที่ตำบลวังบาลและตำบลบ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการรื้อถอนโดยเร็ว