"ทริปน้ำไม่อาบ" สร้างปัญหา! เสียงดัง-อุบัติเหตุ-ดับ 4

เพชรบูรณ์ – การรวมตัวของกลุ่ม “ทริปน้ำไม่อาบ” ซึ่งเป็นขบวนรถจักรยานยนต์และรถยนต์นับหมื่นคัน ที่เดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์เมื่อวันที่ 23-24 พฤศจิกายน 2567 สร้างผลกระทบหลากหลายมิติ ทั้งในด้านความปลอดภัย การรบกวนชุมชน และการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยสถานการณ์นี้ได้กลายเป็นที่จับตามองของสังคมและเป็นประเด็นถกเถียงในสื่อออนไลน์

พฤติกรรมไม่เคารพกฎจราจร นำไปสู่การดำเนินคดี

พลตำรวจโท สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบการกระทำผิดอย่างครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะการขับขี่ผิดกฎจราจร การแข่งขันรถในทาง และการใช้รถที่ไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ได้อาศัยหลักฐานจากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงการตั้งด่านตรวจในหลายพื้นที่ เช่น ถนนบายพาสป่าแดง และถนนสระบุรี-หล่มสัก ซึ่งพบผู้กระทำผิดมากกว่า 1,000 ราย และตรวจยึดรถที่ไม่ได้มาตรฐานหลายคัน

นอกจากนี้ การสืบสวนยังขยายไปถึงร้านค้าที่อาจสนับสนุนการกระทำผิด รวมถึงการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้เกี่ยวข้อง ขณะที่ศาลมีคำสั่งริบรถและลงโทษจำคุกผู้กระทำผิดบางรายเพื่อเป็นบรรทัดฐานสำหรับเหตุการณ์ในอนาคต

ผลกระทบต่อชุมชน: เสียงดัง อุบัติเหตุ และความไม่เป็นระเบียบ

การรวมตัวของกลุ่ม “น้ำไม่อาบ” ก่อให้เกิดความเดือดร้อนในหลายพื้นที่ โดยชาวบ้านและนักท่องเที่ยวในภูทับเบิกและเขาค้อรายงานว่า เสียงดังจากท่อไอเสียและการเบิ้ลเครื่องยนต์เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้ามืดจนถึงกลางวัน ทำให้พักผ่อนไม่ได้ หลายคนระบุว่า การจัดกิจกรรมลักษณะนี้ส่งผลเสียต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ควรสงบเงียบ

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในระหว่างทริปยังสร้างความสูญเสีย เช่น การชนท้ายรถตู้ที่ถนนบายพาสป่าแดง ทำให้มีผู้บาดเจ็บขาหัก และเหตุรถจักรยานยนต์ล้มในถนนสระบุรี-หล่มสัก ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ราย รวมถึงเหตุการณ์ขับรถชนเด็กอายุ 9 ขวบและเฉี่ยวพระสงฆ์ขณะบิณฑบาต

เศรษฐกิจและการตอบรับของท้องถิ่น

แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ระบุว่า การจัดกิจกรรม “น้ำไม่อาบ” ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะในด้านการค้าขายและการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ผู้จัดงานถูกตั้งคำถามถึงการควบคุมพฤติกรรมของผู้เข้าร่วม ซึ่งส่วนหนึ่งยังแสดงความไม่เคารพกฎจราจรและขาดความรับผิดชอบต่อชุมชน

แกนนำกลุ่ม “น้ำไม่อาบ” ออกมาชี้แจงว่า รายได้ส่วนหนึ่งจากกิจกรรมถูกนำไปทำบุญและมอบทุนการศึกษาแก่เด็กผู้ด้อยโอกาส พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ร่วมทริปให้เคารพกฎจราจรและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม โดยเน้นว่า กิจกรรมในปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดและมีระเบียบมากขึ้น แต่เสียงสะท้อนจากประชาชนกลับชี้ให้เห็นว่า กฎระเบียบที่กำหนดไว้ถูกละเมิดในหลายกรณี

ความท้าทายในการควบคุมและผลกระทบในอนาคต

เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า การดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิดจะเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยจะเน้นการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายในภายหลัง แทนการไล่จับกุมในทันทีเพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการวางมาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นในกิจกรรมลักษณะนี้ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อชุมชนและเสริมสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง

ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่า กลุ่ม “น้ำไม่อาบ” เตรียมจัดกิจกรรมครั้งถัดไปในเดือนธันวาคม ซึ่งอาจเป็นโอกาสในการปรับปรุงและพิสูจน์ความสามารถของผู้จัดงานในการบริหารจัดการที่ดีกว่าเดิม ท่ามกลางสายตาจับจ้องของประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

ภาพ ผู้สื่อข่าว จ.เพชรบูรณ์