รีเซต

สกัดจับแก๊งจยย. 'น้ำไม่อาบ' มุ่งหน้าภูทับเบิก โผล่โพสต์ขู่ ย้ายทั้งโรงพัก

สกัดจับแก๊งจยย. 'น้ำไม่อาบ' มุ่งหน้าภูทับเบิก โผล่โพสต์ขู่ ย้ายทั้งโรงพัก
ข่าวสด
6 พฤศจิกายน 2564 ( 13:03 )
87
สกัดจับแก๊งจยย. 'น้ำไม่อาบ' มุ่งหน้าภูทับเบิก โผล่โพสต์ขู่ ย้ายทั้งโรงพัก

 

ตำรวจตั้งด่าน สกัดจับแก๊งรถจยย. 'น้ำไม่อาบ' มุ่งหน้าภูทับเบิกกว่า 1 พันคัน โผล่โพสต์ขู่ สั่งย้ายทั้งโรงพัก แถมยังก่อเหตุชนเก๋งสาว แล้วขี่หลบหนี

 

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรถจยย. จำนวนมากเดินทางเข้ามาในพื้นที่จ.เพชรบูรณ์ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ศรีเทพ ร่วมกับตำรวจทางหลวง ตั้งจุดสกัดเพื่อทำการตรวจสภาพรถและอุปกรณ์ส่วนควบ พร้อมกับกำชับกวดขันในการกระทำผิดวินัยจราจร ของผู้ขับขี่กลุ่มดังกล่าว

 

ต่อมาทราบว่ากลุ่มผู้ขับขี่จยย. กลุ่มนี้ได้เดินทางมุ่งหน้าไปยังภูทับเบิกโดยใช้เส้นทาง สระบุรี-หล่มสัก (ทางหลวงหมายเลข 21) โดยเรียกชื่อว่า "ทริปน้ำไม่อาบ" มีการจัดกิจกรรมเป็นประจำทุกปี มีผู้ร่วมทริปมาจากหลายเส้นทาง ซึ่งเส้นทางหลวงหมายเลข 21 เป็นเพียงเส้นทางหนึ่งเท่านั้น

 

ระหว่างการตั้งจุดสกัดได้มีรถจยย. จำนวนมากใช้เส้นทางอื่นเพื่อหลบหลีก และมีบางส่วนนำรถจยย. ขึ้นบนรถยกเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบผู้ขับขี่และรถจยย. ดังกล่าวพบว่าส่วนใหญ่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และผู้ขับขี่เป็นเยาวชน ไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่ และรถไม่มีเอกสารคู่มือรถหรือสำเนา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการออกใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับตามกฎหมาย

 

ขณะเดียวกันพบผู้ใช้รถใช้ถนนที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากการขับขี่ของกลุ่มดังกล่าว ในระหว่างเส้นทาง บริเวณหน้าร้านพุขามค้าไม้ ฝั่งขาขั้นก่อนเข้าตลาดพุเตย เป็นรถยนต์ โตโยต้า ยาริส สีดำ ทะเบียน งด-4062 นครราชสีมา จอดอยู่ข้างทาง

 

 

น.ส.เอ๋ เปิดเผยว่า ตนขับรถมาตามทางหลวงหมายเลข 21 เพื่อไปร่วมงานศพที่จ.พิษณุโลก ระหว่างนั้นมีกลุ่มรถจยย. ขี่ตามหลังมา และชนท้ายรถด้านขวาจนยุบเป็นรอย หลังเกิดเหตุคนขี่รถจยย. ก็หลบหนีไปเลย และรถทุกคันในขบวนดังกล่าว ส่วนใหญ่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เหมือนจะมีเจตนาปกปิดอะไรสักอย่าง ทำให้ตนเองเสียทั้งเงินทั้งเวลา และอาจไปร่วมงานศพไม่ทัน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพบริเวณจุดที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบกลุ่มรถจยย. พร้อมข้อความว่า "ถ้าผมย้ายทั้ง สน. อย่าหาว่าไม่เตือนนะครับ" จากนั้นมีผู้ที่คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันเข้าไปแสดงความคิดเห็นในเชิงเห็นด้วยและสนับสนุนจำนวนมาก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง