"MINISO LAND" เกมรุกใหม่สู้ศึกแข่งเดือด เปิดแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกในไทย

MINISO แบรนด์ร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์สัญชาติจีน เปิดตัว MINISO LAND สาขาแรกในประเทศไทย โดยเป็นร้านค้ารูปแบบใหม่ ที่เน้นจำหน่ายสินค้ามีลิขสิทธิ์ หรือมี IP มากกว่า 8,300 รายการ และคาแรกเตอร์อีกกว่า 80 ตัว เช่น Harry Potter, Stitch และ Sanrio  นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ จาก Disney's Zootopia ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในต่างประเทศ อีกด้วย โดยร้านรูปแบบใหม่นี้จะนำเสนอสินค้า IP คิดเป็นร้อยละ 80 จากสินค้าทั้งหมดภายในร้าน บนพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร ครอบคลุม 3 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ในย่านสยามสแควร์ 

ปัจจุบัน MINISO มีตลาดอยู่ใน 120 ประเทศทั่วโลก และมีสาขารวมกันกว่า 7,600 สาขา สำหรับประเทศไทย คุณ โรบิน หลิว รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด มินิโซ ระดับโลก กล่าวว่า ไทยถือเป็นตลาดที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ เพราะมองว่ามีศักยภาพสูง และกรุงเทพฯ ก็ถือเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย

โดยบริษัทฯ เข้ามาทำตลาดในไทยตั้งแต่ปี 2559 และที่ผ่านมีการพัฒนามาต่อเนื่อง รวมถึงการขยายหน้าร้านให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 16 สาขา รวมสาขาที่เปิดล่าสุด คือ MINISO LAND ด้วย ซึ่งการพัฒนาสาขารูปแบบใหม่นี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากมาแล้วในจีน จึงคาดหวังว่า จะได้ผลลัพธ์ที่ดีในไทยเช่นกันหลังเปิดที่กรุงเทพฯ แล้ว จะเปิดที่ประเทศอื่นต่อ เช่น อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย

ด้านคุณ จุน หวัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มินิโซ ประเทศไทย กล่าวถึงตลาดในไทยว่า มีการแข่งขันสูงจากการที่มีแบรนด์ร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์หลายเจ้าเข้ามาแข่งขันทั้งแบรนด์จากในไทยเอง ซึ่งก็ทำผลงานได้ดี และแบรนด์จากต่างประเทศโดยเฉพาะจากจีน แต่มองว่าการแข่งขันเป็นสิ่งที่ดี ที่จะทำให้ตลาดเติบโตไปด้วยกัน 

อย่างไรก็ดี การจะแข่งขันได้ในแต่ละประเทศ จะมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทฯ ก็คือการมีสินค้าภายใต้ทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทเอง ซึ่งปีนี้ถือว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่แนวทางในการพัฒนา จะให้ความสำคัญกับความสนใจของผู้บริโภคเป็นหลัก

ผู้บริหาร มินิโซ ประเทศไทย กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันมีร้านค้าที่เป็น แฟล็กชิปในไทย เช่น ไอคอนสยาม, เดอะ มอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ, เอ็มบีเค เซ็นเตอร์, เอเชียติก เดอะ ริเวอร์ ฟร้อนต์, และเมกะ บางนา ส่วนแผนการขยายสาขาจากนี้ จะเน้นการพัฒนาเชิงคุณภาพมากกว่าจำนวน โดยภายใน 3-5 ปีข้างหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 100 สาขา และเป้าหมายในระยะยาว ต้องการเป็นผู้นำในตลาดนี้ 

สำหรับคอนเซปต์ร้าน MINISO LAND เปิดตัวครั้งแรกที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อปีที่แล้ว (ปี 2567) ภายใต้กลยุทธ์ Super IP + Super Store ที่ผสานคอนเทนต์ IP เข้ากับประสบการณ์ของร้านค้า ปัจจุบันมีสาขา MINISO LAND ในจีนทั้งหมด 15 แห่งในเมืองใหญ่ของจีน ซึ่งนอกจากที่เซี่ยงไฮ้แล้ว ยังมีที่ ปักกิ่ง กว่างโจว และฉงชิ่ง เป็นต้น และได้ถอดกลยุทธ์ ดังกล่าวนำเข้ามาเปิดในประเทศไทย ที่สยามสแควร์ เป็นสาขาแรก

ขณะเดียวกัน MINISO (บริษัทแม่ ที่จีน) ยังขับเคลื่อนกลยุทธ์การสร้างสรรค์คอนเทนต์ ที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเอง จากการที่เห็นเทรนด์การบริโภคสินค้าที่มีทรัพย์สินทางปัญญา มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม เจน ซี (Z) และกระแสความนิยมในของเล่นของสะสม ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดยรายงานจาก การศึกษาธุรกิจลิขสิทธิ์ระดับโลก ปี 2025 พบว่า มูลค่ารวมของสินค้าลิขสิทธิ์และบริการ ไอพี ทั่วโลกอยู่ที่กว่า 2.6 ล้านล้านหยวน มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ร้อยละ 5 ส่งผลให้เศรษฐกิจ IP กลายเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของแนวโน้มการบริโภคระดับโลก

อย่างไรก็ดี ตลาดในจีน การบริโภคสินค้ากลุ่ม IP ต่อหัวยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น จึงมองว่า ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก และเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้มีการประกาศแผนความร่วมมือ ร่วมกับ ศิลปิน 9 รายในการพัฒนาสินค้า IP ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทฯ เอง และหนึ่งในทรัพย์สินทางปัญญาที่พัฒนาขึ้นใหม่ ก็คือ YOYO (โยว่โยว่) ซึ่งเปิดตัวในจีนแล้ว และมีกำหนดจะเปิดตัวในต่างประเทศครั้งแรกภายในปีหน้า 

นอกจากนี้ ตามข้อมูลของ MINISO ระบุว่า จนถึงปัจจุบัน ได้ร่วมมือกับแบรนด์ทรัพย์สินทางปัญญาชื่อดังระดับโลกไปแล้วกว่า 150 แบรนด์ เช่น Disney, Sanrio, One Piece และอื่น ๆ อีกมาก เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ IP น่าตื่นเต้นและสร้างแรงบันดาลใจ ครอบคลุมทุกแง่มุมของชีวิตผู้บริโภค 

ขณะเดียวกัน ยังมีกลุ่ม IP ที่พัฒนาขึ้นเองในระยะยาว เช่น DUNDUN Chicken, PenPen Penguin และ Gift Bear and Friends ยังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าจับตามองเช่นกัน