รีเซต

สรุปประเด็น OPPO-Realme และแอปเงินกู้ จุดชนวนคำถามผู้บริโภค ?

สรุปประเด็น OPPO-Realme และแอปเงินกู้ จุดชนวนคำถามผู้บริโภค ?
TNN ช่อง16
13 มกราคม 2568 ( 21:08 )
36

กรณี OPPO และ Realme ที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน "Fineasy" และ "สินเชื่อความสุข" มาพร้อมเครื่องโทรศัพท์ กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนที่สะท้อนให้เห็นปัญหาเชิงระบบในการคุ้มครองผู้บริโภคยุคดิจิทัล โดยเฉพาะเมื่อพบว่าแอปพลิเคชันดังกล่าวไม่สามารถลบออกได้ และมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานในระดับที่น่าเป็นห่วง


"จุดเริ่มต้นของปัญหา"


เรื่องนี้เริ่มได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางหลังจากเพจ "คุณลุงไอที" ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมากับระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์ทั้งสองแบรนด์ โดยพบว่าแอปพลิเคชันดังกล่าวจะปรากฏขึ้นเมื่อมีการอัปเดตเครื่องรุ่นที่เริ่มเก่าและมีราคาไม่สูง ซึ่งมักเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้มีรายได้น้อย


"การยอมรับจากผู้ประกอบการ"


กรณีที่ตัวแทนจำหน่าย OPPO และ Realme เข้าชี้แจงต่อ กสทช. เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 สร้างความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อทั้งสองบริษัทยอมรับว่ามีการติดตั้งแอปพลิเคชันมาจากโรงงาน พร้อมอ้างเหตุผลว่าเพื่ออำนวยความสะดวกด้านธุรกรรมการเงิน โดยเปรียบเทียบกับแอปพลิเคชันทรูวอลเล็ต แต่ที่น่าสังเกตคือ ยอมรับว่าไม่ได้ขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย


("คำชี้แจงจากทรูมันนี่")


ประเด็นดังกล่าวทำให้ทรูมันนี่ต้องออกแถลงการณ์ยืนยันจุดยืนที่ชัดเจน โดยระบุว่า บริษัทไม่เคยมีนโยบายหรือร่วมมือกับผู้ผลิตมือถือแบรนด์ใดๆ ในการติดตั้งแอปพลิเคชันมาพร้อมเครื่อง พร้อมย้ำว่าการใช้งานแอปทรูมันนี่ต้องดาวน์โหลดผ่าน App Store หรือ Play Store เท่านั้น และที่สำคัญคือได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องจากธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย 




"ความเสี่ยงที่แฝงมา"


การเข้าถึงข้อมูลของแอปพลิเคชันทั้งสองมีขอบเขตที่กว้างมาก ทั้งการเข้าถึงตำแหน่งผู้ใช้งาน ปฏิทิน กล้องถ่ายรูป รายชื่อผู้ติดต่อ และระบบ NFC ที่น่ากังวลคือ มีรายงานจากผู้ใช้งานใน Reddit ตั้งแต่ 7 เดือนก่อน ว่าแอป Fineasy สามารถคัดลอกการ์ด NFC ได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน


"ผลกระทบต่อผู้บริโภค"


สภาองค์กรของผู้บริโภคเปิดเผยว่า มีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับแอปพลิเคชันเงินกู้เถื่อนรวมแล้วประมาณเกือบ 2,000 ราย  ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียหายจากแอป "สินเชื่อความสุข"  และ "Fineasy" รวมอยู่ด้วย โดยพบการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และมีการติดตามทวงถามหนี้ที่ผิดกฎหมาย


ตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ กรณีผู้ใช้งานในเว็บบอร์ดพันทิปที่ทดลองกู้เงินจากแอป "สินเชื่อความสุข" จำนวน 2,000 บาท โดยระบุว่าต้องชำระคืน 2,014 บาทภายใน 7 วัน แต่เมื่อถึงเวลาชำระ กลับพบว่ายอดปิดหนี้พุ่งขึ้นเป็น 2,614.75 บาท



"ปัญหาเชิงระบบ"


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยอมรับว่าประเทศไทยยังไม่มีเกณฑ์การติดตั้งแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนที่ชัดเจน ซึ่งสะท้อนให้เห็นช่องว่างของกฎหมายที่ต้องเร่งแก้ไข


ล่าสุด ทั้งสองบริษัทขอเวลา 1 เดือนในการส่งลิงก์ให้ผู้ใช้ลบแอปพลิเคชัน แต่ สคส. เห็นว่าช้าเกินไป พร้อมกำหนดให้มีการรายงานความคืบหน้าภายในวันที่ 16 มกราคม 2568 โดยมีมาตรการเร่งด่วนห้ามจำหน่ายเครื่องที่มีแอปพลิเคชันดังกล่าวติดตั้งอยู่


สภาองค์กรของผู้บริโภคยังเรียกร้องให้ OPPO และ Realme เปิดเผยข้อมูลผู้พัฒนาแอปและผู้ดำเนินธุรกิจเงินกู้ พร้อมเสนอให้บริษัทจ่ายเงินเยียวยาค่าเดินทางค่าเสียเวลาให้ผู้บริโภค 2,000 บาทต่อราย สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปลบแอปที่ศูนย์บริการ


"บทเรียนสำคัญ"


กรณีนี้ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นความสำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภคในยุคดิจิทัล แต่ยังชี้ให้เห็นความจำเป็นในการสร้างกลไกการกำกับดูแลที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะในประเด็นการติดตั้งแอปพลิเคชันที่มากับเครื่อง การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้บริโภคที่เปราะบาง


ความท้าทายต่อไปคือ การสร้างมาตรฐานการกำกับดูแลที่ชัดเจน การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการป้องกันไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้ซ้ำอีกในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิตสมาร์ทโฟนกับผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน ที่อาจนำไปสู่การเอาเปรียบผู้บริโภคในรูปแบบต่างๆ


สำหรับผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบ สภาผู้บริโภคแนะนำให้ชำระเฉพาะเงินต้น และหากพบการคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดหรือการทวงหนี้ที่ไม่เหมาะสม สามารถร้องเรียนผ่านสายด่วน 1502 หรือเว็บไซต์ tcc.or.th เพื่อขอรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือทางกฎหมายต่อไป



ภาพ Oppo 
ข้อมูล สภาองค์กรของผู้บริโภค

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง