สิงคโปร์เข้มงวดอีก แบนสมาร์ทโฟนในโรงเรียนมัธยม

กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ประกาศเมื่อวันวานนี้ (30 พ.ย.) ว่า จะบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอทช์ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามระดับโลกในการรับมือกับปัญหาสิ่งรบกวนจากโลกดิจิทัล
ปัจจุบันสิงคโปร์ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเชื่อมต่อดิจิทัลมากที่สุดในโลก มีกฎห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างการเรียนอยู่แล้ว แต่กฎใหม่นี้จะขยายให้ครอบคลุมช่วงเวลานอกการเรียนด้วย โดยนักเรียนจะต้องเก็บโทรศัพท์ไว้ในพื้นที่ที่กำหนด เช่น ตู้ล็อกเกอร์หรือกระเป๋า ระหว่างเวลาเรียนตลอดทั้งวัน
กระทรวงศึกษาธิการระบุว่า เป้าหมายของมาตรการนี้คือ การสร้างสภาพแวดล้อมในโรงเรียนที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ เพิ่มการมีส่วนร่วมของนักเรียน และส่งเสริมพฤติกรรมการใช้หน้าจอที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีของนักเรียน เพราะการใช้หน้าจอของนักเรียนถูกพบว่ามีส่วนทำให้กิจกรรมสำคัญลดลง ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับ การออกกำลังกาย หรือการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับเพื่อนและครอบครัว แต่โรงเรียนสามารถอนุญาตให้ใช้งานได้เป็นกรณีพิเศษ “เมื่อมีความจำเป็น”
ขณะเดียวกัน ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังดำเนินมาตรการคล้ายกันมากขึ้น โดยองค์การยูเนสโกเผยว่า ปัจจุบัน 40% ของระบบการศึกษาทั่วโลกมีข้อห้ามใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียนแล้ว
ออสเตรเลียจะยกระดับไปอีกขั้นในสัปดาห์หน้า ด้วยมาตรการแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลก
ยูเนสโกยังชี้ให้เห็นข้อบังคับที่เข้มงวดเป็นพิเศษในบางพื้นที่ เช่น เมืองเจิ้งโจวของจีน ที่ผู้ปกครองต้องลงนามยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรว่าบุตรหลานจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เพื่อการเรียนการสอนจริง ๆ