รีเซต

เปลี่ยนแท็บเล็ตเป็นจอมอนิเตอร์เสริม คู่มือทำงาน 2 จอสุดโปร! (สำหรับ Windows)

เปลี่ยนแท็บเล็ตเป็นจอมอนิเตอร์เสริม คู่มือทำงาน 2 จอสุดโปร! (สำหรับ Windows)
EntertainmentReport1
26 ตุลาคม 2568 ( 22:17 )
11

เคยไหมที่รู้สึกว่าหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณเล็กเกินไปสำหรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน? แทนที่จะเสียเงินซื้อจอมอนิเตอร์ใหม่ ลองหันไปมองแท็บเล็ตคู่ใจของคุณ ไม่ว่าจะเป็น iPad หรือ Android Tablet มันสามารถแปลงร่างเป็น "หน้าจอที่สอง" สุดเจ๋งได้อย่างง่ายดาย! การทำงานแบบสองหน้าจอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณได้อย่างมหาศาล ลองมาดูวิธีการแปลงร่างแท็บเล็ตของคุณให้เป็นส่วนหนึ่งของคอมพิวเตอร์ Windows กันเถอะครับ

 

 

ฝั่ง iPadOS: พลังของแอปพลิเคชันจากผู้พัฒนาภายนอก (Third-Party Apps)

เนื่องจากคุณสมบัติที่ใช้ iPad เป็นจอที่สองนั้นถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับ Mac เป็นหลัก ดังนั้นผู้ใช้ Windows จึงต้องพึ่งพาแอปพลิเคชันจากนักพัฒนาภายนอกเพื่อเชื่อมต่อ

วิธีการเชื่อมต่อ iPad กับ Windows

  1. ติดตั้งซอฟต์แวร์ทั้งสองฝั่ง:
    • บน Windows PC: ติดตั้งโปรแกรมเซิร์ฟเวอร์ (Driver) สำหรับจอภาพบนคอมพิวเตอร์ของคุณ
    • บน iPad: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเวอร์ชัน Viewer จาก App Store
  2. เชื่อมต่อ: ส่วนใหญ่จะรองรับการเชื่อมต่อ 2 รูปแบบหลัก คือ
    • ไร้สาย (Wi-Fi): ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้ง iPad และ PC เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน
    • แบบมีสาย (USB Cable): การเชื่อมต่อผ่านสาย USB-C หรือ Lightning มักจะให้ความเสถียรและลดความหน่วง (Latency) ได้ดีที่สุด

แนะนำแอปพลิเคชันยอดนิยม 

  • 1. Duet Display:
    • จุดเด่น: มีความเสถียรสูงและมีชื่อเสียงในเรื่องของความหน่วงต่ำ (Low Latency) ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำ เช่น การวาดรูปบนแท็บเล็ต (Duet Pro)
    • ข้อสังเกต: เป็นแอปพลิเคชันแบบ เสียเงิน (มีทั้งแบบซื้อขาดและสมัครสมาชิกรายปี)
    • รองรับ: ทั้ง iOS และ Android
  • 2. spacedesk:
    • จุดเด่น: เป็นแอปที่ ฟรี (Free App) ใช้งานได้ทั้งแบบไร้สายและมีสาย รองรับได้ทั้งระบบ Android และ iOS และติดตั้งง่าย
    • ข้อสังเกต: บางผู้ใช้อาจพบปัญหาเรื่องความเสถียรหรือความหน่วงในการเชื่อมต่อไร้สาย ขึ้นอยู่กับคุณภาพเครือข่าย Wi-Fi และสเปกของคอมพิวเตอร์ 

 

 

ฝั่ง Android OS: ทางเลือกที่หลากหลายและฟีเจอร์จากผู้ผลิต

แท็บเล็ต Android มีวิธีการเชื่อมต่อที่หลากหลายกว่า ทั้งจากฟีเจอร์ที่ผู้ผลิตติดตั้งมาให้โดยตรง และแอปพลิเคชันจากภายนอก

วิธีที่ 1: ใช้ฟีเจอร์ "หน้าจอที่สอง" ใน Samsung Galaxy Tab (ไม่ต้องลงแอปเพิ่ม)

สำหรับผู้ใช้ Samsung Galaxy Tab รุ่นใหม่ ๆ (ที่รองรับ) สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้โดยตรงกับคอมพิวเตอร์ Windows 10/11:

  1. เปิดฟีเจอร์บน Tab: ปัดหน้าจอแท็บเล็ตลงสองครั้งเพื่อเปิด แผงการตั้งค่าด่วน (Quick Settings) แล้วแตะที่ไอคอน "หน้าจอที่สอง" (Second Screen)
  2. เลือกโหมด: เลือกโหมดการเชื่อมต่อ เช่น “วาดภาพ/เล่นเกม” หรือ “วิดีโอ”
  3. เชื่อมต่อบน PC: ที่คอมพิวเตอร์ Windows ของคุณ ให้กดปุ่ม Windows + K (ปุ่มลัดสำหรับเชื่อมต่อจอภาพไร้สาย)
  4. เลือกอุปกรณ์: เลือกชื่อแท็บเล็ตของคุณจากรายการที่เด้งขึ้นมา เพียงเท่านี้หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็จะปรากฏบนแท็บเล็ตแล้ว 

วิธีที่ 2: ใช้แอปพลิเคชันจากผู้พัฒนาภายนอก (สำหรับ Android ทุกยี่ห้อ)

สำหรับแท็บเล็ต Android ยี่ห้ออื่น ๆ หรือผู้ที่ต้องการทางเลือกที่ยืดหยุ่น:

  • spacedesk: เหมือนกับฝั่ง iPad เป็นตัวเลือกฟรีที่ดีที่สุดสำหรับการขยายหน้าจอ Windows
  • Duet Display: เป็นตัวเลือกพรีเมียมที่มอบความเสถียรสูง 
  • SuperDisplay: แอปที่ได้รับคำชมว่ามีความลื่นไหลสูง (สูงสุด 120Hz สำหรับบางรุ่น) และเหมาะกับการใช้งานวาดรูป เพราะรองรับแรงกดปากกา (Pressure Sensitivity) ได้ดี เป็นทางเลือกสำหรับคนที่เน้นคุณภาพความลื่นไหลเป็นพิเศษ 

 

 

เคล็ดลับและข้อควรจำ: ทำงานให้ราบรื่น

  1. ใช้การเชื่อมต่อแบบมีสายเสมอ: หากเป็นไปได้ ควรเชื่อมต่อผ่านสาย USB (ถ้าแอปพลิเคชันรองรับ) เพื่อลดความหน่วง (Lag) ซึ่งมักเป็นปัญหาของการเชื่อมต่อไร้สาย ทำให้การลากเมาส์ข้ามจอเป็นไปอย่างราบรื่น
  2. ตั้งค่าการแสดงผลใน Windows: เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว ให้คลิกขวาที่ Desktop แล้วเลือก Display settings คุณจะสามารถตั้งค่าได้ว่าต้องการให้แท็บเล็ตเป็น:
    • Extend these displays: ขยายหน้าจอ (เพิ่มพื้นที่ทำงาน) – แนะนำที่สุด
    • Duplicate these displays: สะท้อนหน้าจอ (แสดงผลเหมือนกัน 2 จอ)
  3. ลดความละเอียดหน้าจอ: หากพบว่าการแสดงผลมีความหน่วงมากเกินไป ลองลดความละเอียด (Resolution) ของหน้าจอบนแท็บเล็ตในเมนู Display settings ของ Windows วิธีนี้จะช่วยให้ประสิทธิภาพการส่งข้อมูลเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

การใช้แท็บเล็ตเป็นหน้าจอที่สอง ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดเงิน แต่ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับการทำงานนอกสถานที่ ทำให้คุณสามารถกลายเป็นคนทำงานแบบ Pro-User ได้ง่าย ๆ ด้วยอุปกรณ์ที่เพื่อนๆ มีอยู่แล้วครับ!

Photo Credit : AI Generated

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง