รีเซต

กล้อง LOFIC คืออะไร? เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่ Apple เล็งใช้ใน iPhone 20!

กล้อง LOFIC คืออะไร? เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่ Apple เล็งใช้ใน iPhone 20!
epapipe
11 พฤศจิกายน 2568 ( 15:05 )
12

เคยไหมที่ถ่ายรูปย้อนแสงแล้วท้องฟ้าสว่างจ้าจนรายละเอียดหายไปหมด หรือถ่ายในที่มืดแล้วภาพออกมามืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรเลย? ปัญหานี้เรียกว่า "Dynamic Range" ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่กล้องมือถือทุกค่ายพยายามแก้ไขมานานหลายปี และดูเหมือนว่าตอนนี้ Apple ได้พบกับอาวุธลับตัวใหม่ที่จะเข้ามาพลิกเกมอย่างสิ้นเชิงแล้ว นั่นคือเซนเซอร์กล้องที่ใช้เทคโนโลยี LOFIC (Lateral OverFlow Integration Capacitor)!

 

 

LOFIC: สุดยอดเทคโนโลยี HDR ที่ 'เก็บแสง' ได้มากกว่าเดิม

LOFIC ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อเทคโนโลยีที่ฟังดูซับซ้อน แต่คือการปรับปรุงโครงสร้างภายในของเซนเซอร์รับภาพ (Image Sensor) ให้สามารถจัดการกับแสงที่เข้ามาได้ดีกว่าเซนเซอร์ทั่วไปอย่างก้าวกระโดด

หัวใจสำคัญของ LOFIC คืออะไร?

  1. ขยาย Dynamic Range มหาศาล: เซนเซอร์กล้องปกติมีความสามารถในการเก็บประจุไฟฟ้า (อิเล็กตรอน) ที่จำกัด เมื่อแสงมากเกินไป (เช่น ถ่ายกลางแดดจัด) ประจุจะเต็มอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดปรากฏการณ์ "Highlight Blowout" (ท้องฟ้าขาววอด)
  2. ตัวเก็บประจุสำรอง (Capacitor): LOFIC แก้ปัญหานี้ด้วยการเพิ่มวงจร "ตัวเก็บประจุสำรอง" (Lateral OverFlow Integration Capacitor) หรือถังสำรองพลังงานแสงเข้าไปในแต่ละพิกเซลโดยตรง เมื่อพิกเซลหลักเก็บแสงจนเต็ม มันจะ "ล้น" และส่งประจุส่วนเกินไปยังถังสำรองนี้แทน 
  3. เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน: การที่สามารถเก็บแสงส่วนเกินไว้ได้ ทำให้กล้องสามารถบันทึกรายละเอียดได้ทั้งในส่วนที่สว่างที่สุดและมืดที่สุดของภาพในการรับแสงครั้งเดียว โดยไม่ต้องอาศัยการถ่ายภาพหลายช็อตแล้วนำมาซ้อนกันแบบเทคโนโลยี HDR ทั่วไป

 

 

สิ่งที่แตกต่างจาก HDR ทั่วไป

เทคโนโลยี HDR ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน (เช่น Sensor-Shift HDR หรือการซ้อนภาพ) ต้องอาศัยการถ่ายภาพหลายเฟรมด้วยการตั้งค่าแสงที่แตกต่างกัน แล้วนำมาประมวลผลรวมกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดภาพซ้อนหรือมีข้อจำกัดในการถ่ายวิดีโอ แต่ LOFIC สามารถเก็บ Dynamic Range ที่สูงมากได้ใน "เฟรมเดียว" (Single Exposure) ทำให้คุณภาพภาพนิ่งและวิดีโอดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด

 

 

ทำไม Apple ถึงต้องลงทุนใน LOFIC?

Apple ไม่ได้เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยี LOFIC เองโดยตรง แต่พวกเขาเล็งเห็นศักยภาพในการปฏิวัติวงการภาพถ่ายมือถือ จึงมีรายงานว่า Apple กำลังซุ่มพัฒนา "เซนเซอร์ภาพแบบกำหนดเอง" (Custom Image Sensor) ภายในบริษัท โดยคาดว่าจะมีการนำเทคโนโลยี LOFIC นี้มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างจุดแข็งในกล้อง iPhone ในอนาคต

เหตุผลที่ Apple สนใจ LOFIC:

  1. ยกระดับคุณภาพวิดีโอ: เนื่องจาก LOFIC สามารถเก็บ Dynamic Range สูงได้ในเฟรมเดียว สิ่งนี้จะทำให้คุณภาพวิดีโอ HDR มีความเสถียรและคมชัดอย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะการถ่ายวิดีโอย้อนแสงหรือในสภาพแสงที่มีความแตกต่างสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ Apple ให้ความสำคัญมาโดยตลอด 
  2. ความเป็นผู้นำด้านฮาร์ดแวร์: การใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ จะช่วยสร้าง "กำแพงเทคโนโลยี" ที่คู่แข่งตามทันได้ยาก และตอกย้ำภาพลักษณ์ของ iPhone ในฐานะสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีที่สุดในตลาด
  3. การปรับปรุง AI และ Chipset: การที่เซนเซอร์สามารถป้อนข้อมูลภาพที่ 'สะอาด' และมี Dynamic Range กว้างตั้งแต่ต้นทาง จะช่วยลดภาระงานของชิปประมวลผลภาพ (ISP) และ Neural Engine (AI) ของ Apple ทำให้การประมวลผลซอฟต์แวร์ (เช่น การถ่ายภาพบุคคล หรือการปรับปรุงภาพถ่ายด้วย AI) ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น 

 

 

คาดการณ์การมาถึง

นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า เทคโนโลยี LOFIC (หรือเซนเซอร์ที่ใช้หลักการนี้) จะถูกนำมาใช้ครั้งแรกใน iPhone 20 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2027 ซึ่งจะมาพร้อมกับการอัปเกรดกล้องครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการปรับปรุงประสิทธิภาพในสภาพแสงที่ท้าทาย ซึ่งจะทำให้ iPhone ก้าวล้ำเหนือคู่แข่งไปอีกขั้นในอีกหลายปีข้างหน้า

 

 

LOFIC จึงไม่ใช่แค่สเปกตัวเลขใหม่ แต่เป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนวิธีการเก็บแสงของกล้องทั้งหมด ซึ่งจะทำให้การถ่ายภาพด้วย iPhone ในอนาคตมีความสมจริงและมีคุณภาพสูงเทียบเท่ากล้องระดับมืออาชีพโดยไม่ต้องพึ่งพาเทคนิค HDR ซ้อนภาพที่ซับซ้อนอีกต่อไป!

Credit : apple, gsmarena 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง