รีเซต

ลาก่อนคีย์บอร์ด! ผลวิจัยชี้ "Gen Alpha" จะใช้เสียงแทนการพิมพ์ 100% ในการทำงานปี 2028

ลาก่อนคีย์บอร์ด! ผลวิจัยชี้ "Gen Alpha" จะใช้เสียงแทนการพิมพ์ 100% ในการทำงานปี 2028
epapipe
25 พฤศจิกายน 2568 ( 14:26 )
20

เตรียมตัวให้พร้อม! โลกของการทำงานกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อคนรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Gen Alpha (ผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นไป) ก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างเต็มตัว มีการคาดการณ์ที่น่าตื่นเต้นจากนักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคว่า ภายในปี 2028 คนทำงานรุ่น Alpha จะใช้ "เสียง" (Voice) ในการสั่งงาน, สื่อสาร, และสร้างเนื้อหาต่าง ๆ แทนการใช้คีย์บอร์ดและหน้าจอแบบดั้งเดิมเกือบ 100%

แนวโน้มนี้ไม่ได้เป็นแค่ความสะดวกสบายส่วนตัว แต่คือการปฏิวัติวิธีการทำงาน (Workplace Revolution) ที่จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อทุกองค์กรที่ยังคงยึดติดกับอีเมลและแชทข้อความแบบเดิม ๆ

 

 

รากฐานของ Gen Alpha: โตมาพร้อมกับ AI และคำสั่งเสียง

Gen Alpha ถูกนิยามว่าเป็น "Digital Natives" ตัวจริงเสียงจริง เพราะพวกเขาเกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่พัฒนาแล้วและ "สั่งการด้วยเสียง" คือภาษาแม่ของพวกเขา:

  • Google Home และ Alexa: อุปกรณ์สั่งงานด้วยเสียง (Voice Assistants) เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของพวกเขามาตั้งแต่เกิด พวกเขาคุ้นเคยกับการ พูด เพื่อขอข้อมูล สั่งงาน หรือควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ
  • การศึกษาและ AI: พวกเขาเรียนรู้ผ่านเครื่องมือ AI และระบบที่เน้นการโต้ตอบด้วยเสียง ทำให้การพิมพ์กลายเป็นกระบวนการที่ช้าและไม่จำเป็นสำหรับพวกเขา
  • การสื่อสารที่เน้นความเร็ว: ในขณะที่ Gen Z คุ้นเคยกับการพิมพ์ข้อความและส่ง Emoji แต่ Gen Alpha คุ้นเคยกับ "Voice Notes" และการสื่อสารที่เน้นความทันทีและมีอารมณ์ความรู้สึก (Emotion) ผ่านน้ำเสียง การพิมพ์จึงถูกมองว่าเป็นวิธีการที่ทำให้การสื่อสารล่าช้าและสูญเสียบริบท

ด้วยรากฐานนี้ เมื่อ Gen Alpha เข้าสู่โลกของการทำงาน พวกเขาจะปฏิเสธวิธีการทำงานที่พวกเขาไม่คุ้นเคยทันที ซึ่งรวมถึงการ "เขียนอีเมล" ที่เป็นทางการและกินเวลานาน

 

 

ออฟฟิศปี 2028: เสียงคือ "คีย์บอร์ด" ใหม่

การเปลี่ยนผ่านสู่การทำงานด้วยเสียงจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสถานที่ทำงานภายในไม่กี่ปีข้างหน้า:

1. สื่อสารทางธุรกิจด้วย Voice Notes แทน Email

ผลวิจัยเผยว่า ในโลกของ Gen Alpha การสื่อสารหลักกับเพื่อนร่วมงานหรือแม้แต่กับเจ้านายจะไม่ใช่การเขียนอีเมลยาวเหยียด แต่คือการส่ง "ข้อความเสียง (Voice Messages)" หรือ "บันทึกเสียง (Voice Notes)" แทน

  • รวดเร็วกว่า: การพูดเร็วกว่าการพิมพ์ 4 ถึง 5 เท่า (พูด 150 คำต่อนาที เทียบกับการพิมพ์ 30-40 คำต่อนาที)
  • มีประสิทธิภาพกว่า: การสื่อสารด้วยเสียงช่วยให้ผู้รับได้รับ น้ำเสียง (Tone) และ อารมณ์ ของผู้ส่ง ซึ่งช่วยลดความเข้าใจผิดที่มักเกิดขึ้นจากการสื่อสารด้วยข้อความ

2. AI สร้างเนื้อหา 100% จากคำสั่งเสียง

ในอนาคตอันใกล้ Gen Alpha จะไม่ต้องพิมพ์รายงาน, สรุปการประชุม, หรือแม้แต่ร่างอีเมลอีกต่อไป แต่จะใช้ คำสั่งเสียง เพื่อสั่งให้ AI ดำเนินการให้ทั้งหมด:

  • การประชุม: พวกเขาจะสั่งให้ AI บันทึกและสรุปการประชุมทั้งหมดเป็นรายงานอัตโนมัติ
  • การสร้างคอนเทนต์: สั่งให้ AI ร่างบทความ, สร้างสไลด์นำเสนอ, หรือแม้แต่เขียนโค้ดง่าย ๆ ผ่านคำสั่งเสียงที่ชัดเจน
  • การทำงานข้ามแพลตฟอร์ม: ระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันจะถูกออกแบบมาให้รับคำสั่งเสียงเป็นหลัก และใช้ AI ในการถอดความและประมวลผลให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่ต้องการ

3. สภาพแวดล้อมสำนักงานที่เปิดกว้าง (Voice-Friendly Workplace)

องค์กรจะต้องปรับตัวเพื่อรองรับรูปแบบการสื่อสารนี้:

  • เครื่องมือที่รองรับ: ต้องลงทุนในซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่สามารถแปลงเสียงเป็นข้อความได้แม่นยำและรวดเร็ว รวมถึงการเพิ่มความเป็นส่วนตัวในที่ทำงาน (Acoustic Privacy) เพื่อรองรับการสั่งงานด้วยเสียงที่เพิ่มขึ้น
  • ทักษะที่เปลี่ยนไป: ทักษะการพิมพ์เร็ว (Typing Speed) จะหมดความสำคัญลง และทักษะ "การสื่อสารด้วยเสียงที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ" จะกลายเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดในการทำงาน

 

 

ธุรกิจต้องเตรียมพร้อมอย่างไร?

การเปลี่ยนแปลงนี้มาเร็วกว่าที่หลายคนคาดไว้ องค์กรที่ไม่ปรับตัวจะประสบปัญหาในการดึงดูดและรักษาคนทำงานรุ่นใหม่:

  1. ปรับเครื่องมือสื่อสาร:
    • เลิกบังคับใช้มาตรฐานการสื่อสารด้วยอีเมลที่ล้าสมัย
    • นำแพลตฟอร์มที่รองรับการส่ง Voice Notes และการถอดเสียง (Transcription) อัตโนมัติมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ
  2. ออกแบบการฝึกอบรมใหม่:
    • ฝึกอบรมพนักงานรุ่นเก่าให้คุ้นเคยกับการใช้คำสั่งเสียงและ Voice Notes ในการทำงาน
    • ให้ความสำคัญกับทักษะการพูด (Public Speaking and Clarity) มากกว่าทักษะการพิมพ์
  3. ลงทุนใน AI และ Automation:
    • ใช้ AI มาเป็น ผู้ช่วยส่วนตัว (Personal AI Assistant) สำหรับพนักงานทุกคน เพื่อรับคำสั่งเสียงและจัดการงานเอกสารที่ซ้ำซ้อน

Gen Alpha ไม่ได้แค่ใช้เทคโนโลยี แต่พวกเขาคือเทคโนโลยี การทำงานร่วมกับคนรุ่นนี้หมายถึงการปรับตัวเข้าสู่ยุคที่ "เสียง" จะเข้ามาแทนที่ "ตัวอักษร" บนหน้าจออย่างสมบูรณ์ภายในไม่กี่ปีข้างหน้าครับ

Credit : hollahr, fortune

Photo Credit : AI Generated 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง