พลิกโฉมแท็บเล็ต! iPad Pro M5 (2025) ขุมพลัง AI ที่จ่อแทนที่แล็ปท็อป
Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดแท็บเล็ตอีกครั้งด้วยการเปิดตัว iPad Pro ใหม่ปี 2025 ซึ่งมาพร้อมกับการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่หัวใจหลักอย่าง ชิป M5 ยกระดับทั้งประสิทธิภาพการประมวลผลและการทำงานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้ก้าวไปอีกขั้น วันนี้ TrueID จะมาเจาะลึกว่าแท็บเล็ตพลัง AI รุ่นนี้จะมีจุดที่น่าสนใจ และการมาครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อตลาดแท็บเล็ตบ้าง
คุณสมบัติและฟีเจอร์เด่น: ชิก M5 คือก้าวกระโดดที่แท้จริง
การมาของ iPad Pro M5 ไม่ได้เป็นเพียงการปรับปรุงความเร็วตามปกติ แต่เป็นการปรับเปลี่ยนสถาปัตยกรรมภายในเพื่อรองรับโลกของ AI และงานระดับโปรอย่างเต็มตัว
หัวใจสำคัญ: ชิป M5 และ AI Performance
- สุดยอดขุมพลัง: ชิป Apple M5 คือหัวใจหลักที่ทำให้ iPad Pro ใหม่นี้ทรงพลังที่สุดในตลาดแท็บเล็ต ด้วย CPU สูงสุด 10-core และ GPU 10-core (แตกต่างกันตามความจุ)
- ก้าวกระโดดด้าน AI: ชิป M5 มาพร้อมกับ Neural Engine 16-core ที่เร็วขึ้นอย่างมหาศาล และมีสถาปัตยกรรม Neural Accelerator ที่ฝังอยู่ในทุกคอร์ของ GPU ทำให้:
- ประสิทธิภาพ AI เร็วขึ้นกว่า M4 สูงสุด 3.5 เท่า และ เร็วขึ้นกว่า iPad Pro ชิป M1 สูงสุด 5.6 เท่า
- รองรับ Apple Intelligence: พลัง AI นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเร่งความเร็วในการประมวลผล Apple Intelligence (ระบบอัจฉริยะส่วนตัวของ Apple) และงาน AI เฉพาะทาง เช่น การสร้างภาพแบบ Diffusion-based ในแอปอย่าง Draw Things หรือ AI Video Masking ใน DaVinci Resolve
- สเปกหน่วยความจำ: รุ่น 256GB และ 512GB มาพร้อม RAM 12GB ส่วนรุ่น 1TB และ 2TB ได้รับ RAM 16GB
จอภาพ Ultra Retina Tandem OLED
- จอภาพที่ดีที่สุด: iPad Pro ใหม่ยังคงใช้จอภาพเทคโนโลยี Ultra Retina Tandem OLED ที่ให้ความสว่าง ความแม่นยำของสี และคอนทราสต์ที่เหนือกว่า โดยมีความสว่างสูงสุดถึง 1,600 nits
- ตัวเลือกกระจก Nano-texture: สำหรับผู้ใช้งานระดับมืออาชีพที่ต้องการความแม่นยำสูงสุดในการทำงานด้านสีและการวาดภาพ รุ่นความจุ 1TB และ 2TB มีตัวเลือก กระจก Nano-texture ที่ช่วยลดแสงสะท้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อุปกรณ์เสริมใหม่เพื่อมืออาชีพ
- Apple Pencil Pro: รองรับ Apple Pencil Pro ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น บีบ (Squeeze) เพื่อเรียกเครื่องมือ และ การหมุน (Roll) เพื่อควบคุมหัวแปรง รวมถึงฟีดแบ็กการตอบสนองแบบสั่น (Haptic Feedback)
- Magic Keyboard ใหม่: ถูกออกแบบให้ บางและเบาลง แต่มาพร้อม แทร็คแพดขนาดใหญ่ขึ้น และมี ปุ่มฟังก์ชันแถวบนสุด (Function Row) ที่ผู้ใช้แล็ปท็อปคุ้นเคย
ดีขึ้นอย่างไร และเหมาะกับใคร?
ดีขึ้นอย่างไร (เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า):
- พลัง AI มหาศาล: นี่คือการอัปเกรดที่สำคัญที่สุด iPad Pro M5 เป็นแท็บเล็ตที่ถูกสร้างมาเพื่อประมวลผล AI บนตัวเครื่องโดยเฉพาะ ทำให้การใช้งาน Apple Intelligence และแอปพลิเคชันสร้างสรรค์ AI เป็นไปอย่างรวดเร็วและประหยัดพลังงาน
- Multitasking ที่ราบรื่น: ด้วยพลังของ M5 และ iPadOS 26 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (Multitasking) และการสลับแอปทำได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- อนาคตที่ยาวนาน: ผู้ใช้ที่ลงทุนกับ M5 จะได้รับอายุการใช้งานด้านซอฟต์แวร์และการรองรับฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตที่ยาวนานที่สุด
iPad Pro M5 เหมาะสำหรับ:
- ครีเอเตอร์/โปรดิวเซอร์: ผู้ที่ทำงานด้านวิดีโอ 4K/8K, เรนเดอร์ 3D, หรือใช้งานแอปพลิเคชันสร้างสรรค์ที่กินทรัพยากรสูง เช่น DaVinci Resolve, Logic Pro หรือ Procreate
- นักพัฒนา/วิศวกร: ผู้ที่ต้องรัน Machine Learning Models หรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่บนอุปกรณ์โดยตรง
- ผู้ใช้ที่อัปเกรดจากรุ่นเก่า (M1 หรือเก่ากว่า): ผู้ที่ใช้ iPad Pro รุ่นเก่าจะได้รับประสบการณ์ที่ก้าวกระโดดอย่างชัดเจนทั้งด้านความเร็วและจอภาพ
ราคาเปิดตัวในไทย
ราคาเปิดตัวของ iPad Pro M5 ในไทย (สำหรับรุ่น Wi-Fi ความจุ 256GB) มีดังนี้ รุ่น iPad Pro 11 นิ้ว ราคาเริ่มต้น (Wi-Fi) 35,900 บาท และราคาเริ่มต้น (Wi-Fi + Cellular) 42,900 บาท ในขณะที่ iPad Pro 13 นิ้ว ราคาเริ่มต้น (Wi-Fi) 47,900 บาท และ 54,900 บาท สำหรับราคาเริ่มต้น รุ่น Wi-Fi + Cellular โดยราคาจะปรับสูงขึ้นตามความจุ (สูงสุด 2TB) และตัวเลือกกระจก Nano-texture
ผลกระทบต่อตลาด
- ยกระดับคำจำกัดความของแท็บเล็ต: iPad Pro M5 ได้ตอกย้ำว่าแท็บเล็ตระดับพรีเมียมไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์ "บริโภคสื่อ" อีกต่อไป แต่เป็น "เครื่องมือสร้างสรรค์" ที่สามารถทำงานหนักเทียบเท่า (หรือเหนือกว่า) แล็ปท็อประดับกลาง-สูงได้ ผลักดันให้คู่แข่ง Android ต้องเร่งพัฒนาชิปเซ็ตและซอฟต์แวร์ให้ก้าวทัน
- แรงกดดันต่อ MacBook Air: ประสิทธิภาพที่สูงมากของ M5 ประกอบกับ Magic Keyboard ใหม่ ทำให้ iPad Pro M5 กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการทำงานที่เน้นความพกพาสูง จนอาจแย่งส่วนแบ่งผู้ซื้อบางส่วนที่เดิมเคยมองหา MacBook Air M2/M3
- เปิดประตูสู่ Apple Intelligence: การเพิ่มพลัง AI อย่างชัดเจนบน M5 เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับ Apple Intelligence ที่จะมาพร้อมกับ iPadOS 26 ทำให้ iPad Pro กลายเป็น แพลตฟอร์ม AI ส่วนตัว ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด
- ผู้ใช้ทั่วไปยังต้องพิจารณา: สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่เน้นดูหนัง ฟังเพลง หรือทำงานเอกสารเบา ๆ iPad รุ่นมาตรฐานหรือ iPad Air อาจยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า เนื่องจากพลังของ M5 นั้น "เกินจำเป็น" สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
สรุปแล้ว การเปิดตัว iPad Pro M5 (2025) เป็นการยกระดับแท็บเล็ตให้เป็นสุดยอดเครื่องมือระดับโปร ด้วยขุมพลังจาก ชิป M5 ที่มี Neural Engine 16-core ส่งผลให้ประสิทธิภาพด้าน AI เร็วขึ้นกว่ารุ่น M1 ถึง 5.6 เท่า และออกแบบมาเพื่อรองรับฟีเจอร์ Apple Intelligence โดยเฉพาะ พร้อมหน้าจอ Ultra Retina Tandem OLED ที่งดงาม และรองรับอุปกรณ์เสริมใหม่ ๆ เช่น Apple Pencil Pro และ Magic Keyboard ที่บางลง แม้จะมีราคาเริ่มต้นในไทยที่ค่อนข้างสูง (รุ่น 11 นิ้ว เริ่ม 35,900 บาท และ 13 นิ้ว เริ่ม 47,900 บาท) แต่ iPad Pro M5 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมืออาชีพและครีเอเตอร์ที่ต้องการพลังประมวลผลสูงสุดสำหรับการทำงานที่ซับซ้อน เช่น การตัดต่อวิดีโอ 8K และงาน AI กราฟิก ทำให้แท็บเล็ตนี้เป็นทางเลือกที่ท้าชนกับแล็ปท็อประดับสูงอย่างแท้จริง
Credit : Apple