"โกลเบล็ก” ประเมินหุ้นไทยผันผวนขาลง หลังหลายปัจจัยเสี่ยงยังกดดันต่อ

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ภาพรวมตลาดหุ้นประจำสัปดาห์นี้ ประเมินดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนขาลง เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่หุ้นหลายๆ ตัวทยอยประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2563 ซึ่งจะสิ้นสุดภายในกลางเดือนสิงหาคมนี้ โดยมองว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย จะปรับลดลงทั้งเทียบเป็นรายไตรมาส และเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 เนื่องจากมีมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีผลกระทบและกดดันผลการดำเนินงานของบจ.ต่างๆ

นางสาววิลาสินีกล่าวว่า สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน ที่เริ่มดูแย่ลง สะท้อนได้จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบความตึงเครียดผ่านการกดดันเรื่องเทคโนโลยี และการทูตแทนการกดดันด้านการค้าเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งลักษณะดูจะเป็นการทำสงครามเย็นระหว่างกันมากกว่า ในส่วนของทิศทางราคาน้ำมัน มองว่าหากยังไม่มีปัจจัยที่เข้ามาส่งผลกระทบให้สถานการณ์รุนแรงมากกว่านี้ ราคาน้ำมันอาจเกาะอยู่ที่ระดับ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่เนื่องจากการระบาดระลอก 2 ของหลายประเทศยังมีอยู่ ความต้องการใช้น้ำมันจึงยังไม่กลับมาเต็มที่ แต่ก็ยังถือว่าไม่ได้แย่มากนัก เพราะไม่ได้กลับมาล็อกดาวน์ทั้งระบบเหมือนช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันและพันธมิตร (โอเปกพลัส) ยังเป็นไปได้ดี ทำให้แนวโน้มซัพพลายยังสามารถควบคุมได้

“สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก และมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐยังคงเป็นที่ 1 ทั้งในแง่ของผู้เสียชีวิตและจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน ส่วนในโซนเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม เริ่มเห็นการระบาดระลอก 2 ที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งมองว่าอาจไม่ได้ไปถึงขั้นการล็อกดาวน์ใหม่อีกครั้ง แต่อาจเป็นการปิดเพื่อคุมการระบาดในบางพื้นที่แทน และไม่ได้ปล่อยให้การ์ดตกเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ ส่วนไทยถือว่าควบคุมสถานการณ์ได้ดี และมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งถูกจัดอันดับให้เป็นที่ 1 ในแง่การรับมือและการฟื้นตัวจากโควิด-19 ของดัชนีโควิด-19 หรือ Global Recovery Index ซึ่งเป็นดัชนีที่แสดงถึงการฟื้นตัวของแต่ละประเทศจากสถานการณ์ของโควิด-19 ส่วนกลยุทธ์ที่แนะนำคือ เน้นการลงซื้อขึ้นขาย โดยหากราคาย่อตัวลง ให้ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี มีปันผลสูง และครึ่งปีหลังยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดี” นางสาววิลาสินีกล่าว

ส่วนหุ้นเด่นจะเป็นตัวไหน ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!