รีเซต

คลุกวงหุ้น : เคจีไอ ประเมินหุ้นไทยถูกล็อก เข้าสู่ภาวะขึ้นไม่ได้ แต่ลงไม่มาก ให้กรอบดัชนี 1,300-1,360 จุด (ชมคลิป)

คลุกวงหุ้น : เคจีไอ ประเมินหุ้นไทยถูกล็อก เข้าสู่ภาวะขึ้นไม่ได้ แต่ลงไม่มาก ให้กรอบดัชนี 1,300-1,360 จุด (ชมคลิป)
มติชน
10 สิงหาคม 2563 ( 07:03 )
48

คลุกวงหุ้น : เคจีไอ ประเมินหุ้นไทยถูกล็อก เข้าสู่ภาวะขึ้นไม่ได้ แต่ลงไม่มาก ให้กรอบดัชนี 1,300-1,360 จุด

 

นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ภาพรวมตลาดหุ้นประจำสัปดาห์นี้ ภาพรวมยังเหมือน 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีเคลื่อนไหวในลักษณะของการปรับขึ้นได้ไม่มาก และลงได้ไม่มากเช่นกัน เนื่องจากหากประเมินในแง่ของมูลค่าหุ้น (แวลูเอชั่น) เทียบกับระดับการฟื้นตัวของกำไร หุ้นไทยยังอยู่ในระดับค่อนข้างแพง เพราะอัตราส่วนทางการเงินเปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นต่อหุ้นกับกำไรต่อหุ้น (พีอี) อยู่ที่ 20 เท่าแล้ว ขณะที่สถานการณ์ในต่างประเทศยังมีความไม่แน่นอนอยู่หลายปัจจัย แต่จะเห็นว่าเมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมาอีกครั้ง เนื่องจากสภาพคล่องหรือเม็ดเงินยังมีอยู่ค่อนข้างมาก จึงเห็นแรงซื้อเพื่อเก็งกำไรกลับเข้ามาในตลาด โดยเฉพาะในบริเวณที่ดัชนีเข้าใกล้ระดับ 1,300 จุด รวมถึงมีปัจจัยใหม่เข้ามา อาทิ การมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ ความคาดหวังในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจะปรับตัวดีขึ้น จึงเป็นความหวังให้นักลงทุนเข้าซื้อสะสมเพิ่มเติม

 

นายรักพงศ์กล่าวว่า ปัจจัยที่ต้องติดตามในต่างประเทศ หลักๆ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน โดยในช่วงที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่ได้พูดถึงเรื่องสงครามการค้ามากนัก แต่เปลี่ยนเป็นสงครามเทคโนโลยีแทน โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มีการเซ็นคำสั่งอาศัยอำนาจของประธานาธิบดี ในการแบนธุรกิจของบริษัทติ๊กต๊อก วีแชท รวมทั้งบริษัทใหญ่อื่นๆ จนทำให้หุ้นทั้งโลกย่อตัวลงมาในช่วงวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทำให้หากสหรัฐและจีนยังคงมีการกดดันในเรื่องดังกล่าวอยู่ จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นยังขึ้นได้ยาก นอกเหนือจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สำหรับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 การรับมือของประเทศไทยอยู่ในระดับที่ถือว่าดี แต่การระบาดในต่างประเทศ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 260,000 คนต่อวัน แต่เคจีไอมองว่า ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไม่ได้มีมากนัก เพราะว่าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทุกประเทศยังไม่มีการล็อกดาวน์ประเทศเพิ่มเติม แม้จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มก็ตาม ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจยังพอไปได้

 

“ทิศทางเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ประเมินว่ายังเป็นลบอยู่ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ค่าเงินบาทกระชากผันผวนค่อนข้างมาก ทำให้ต่างชาติปรับกลยุทธ์ในการลงทุนลำบาก แล้หุ้นในช่วงที่ผ่านมา ประเด็นการลงทุนที่ร้อนแรงจะอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี แต่บริษัทอุตสาหกรรมประเภทนี้ในประเทศไทยค่อนข้างน้อย แนวโน้มราคาน้ำมัน ยังดูดีกว่าตลาดอื่น เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แม้จะมีการระบาดโควิด-19 แต่ตัวเลขยังพอไปได้ ประกอบกับสหรัฐเตรียมออก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้ น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาน้ำมันยังแกว่งตัวขึ้นได้ต่อ ส่วนกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุน เนื่องจากประเมินว่าตลาดหุ้นไทยถูกล็อกอยู่ในกรอบ โดยให้กรอบดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,300-1,360 จุด การลงทุนจึงต้องเลือกหุ้นที่มีขนาดเล็กพอประมาณ แต่มีความน่าสนใจในเรื่องผลประกอบการไตรมาส 2/2563 จะออกมาโดดเด่น และหุ้นกลุ่มที่รอคณะรัฐมนตรีประกาศนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป”นายรักพงศ์กล่าว

 

ส่วนหุ้นเด่นจะเป็นตัวไหน ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!!

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง