KKP ดาโอ ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น”ซื้อ” หลังกำไร Q3 ดีกว่าคาด-NPL ลดลงต่อเนื่อง

#KKP #ทันหุ้น-บล.ดาโอ(ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นบวกจากากรประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ของธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP หลังจากประกาศกำไรไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 1,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% YoY และเพิ่มขึ้น 19% QoQ ซึ่งกำไรดีกว่าคาดมาก โดยมีกำไรจากเงินลงทุน(FVTPL) สูงถึง 663 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายวิจัยดาโอคาดที่ 300 ล้านบาท ซึ่งกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/67 ซึ่งอยู่ที่ 60 ล้านบาท และในไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 247 ล้านบาท รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมไตรมาส 3/68 ออกมาดีกว่าที่คาดโดยทำได้ที่ 1.55 พันล้านบาท ขณะที่ฝ่ายวิจัยคาด 1.41 พันล้านบาท จากธุรกิจกองทุนและธุรกิจ Dime!

ส่วน NPL ไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 4.30% ทรงตัวจากไตรมาสก่อน เพราะสินเชื่อหดตัวลง -6% YTD จากสินเชื่อทุกประเภทที่ลดลง ขณะที่มูลค่า NPL ลดลง -4% QoQ จากสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลัก ซึ่งผู้บริหารยังคงเน้นการเติบโตแบบเน้นคุณภาพโดยจะควบคุม NPL ขณะที่ขาดทุนรถยึดจะทยอยลดลงได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึง Cost of fund จะลดลงได้ต่อเนื่องในไตรมาส 4/68 อีก -10-15bps QoQ

โดยได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2568-2569 เพิ่มขึ้น 12-14% จากการปรับรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นปีละ 600 ล้านบาท จากการปรับกำไรจากเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น และปรับการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็น +6% YoY จากเดิมที่ +3% YoY ทำให้ได้กำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +11% YoY จากกำไรจากเงินลงทุนและรายได้ค่าธรรมเนียมช่วยหนุน ขณะที่คาดกำไรไตรมาส 4/68 จะเพิ่มขึ้น YoY จากขาดทุนรถยึดที่ลดลง แต่จะลดลง QoQ จาก OPEX ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล

ฝ่ายวิจัยดาโอได้ปรับคำแนะนำขึ้นในหุ้น KKP เป็นซื้อ และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายในปี 2569 อยู่ที่ 74 บาท ขณะที่ยังมีโครงการซื้อหุ้นคืนที่ช่วยหนุนราคาหุ้นได้ โดยปัจจุบันซื้อไปแล้วราว 30% ของวงเงิน(ซื้อไปแล้วที่ 315 ล้านบาท จากวงเงินทั้งหมดที่ 1 พันล้านบาท) แต่มีความเสี่ยงจากขาดทุนรถยึดที่มากกว่าคาด และแนวโน้ม NPLs ที่จะสูงขึ้นมากกว่าคาดจากภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีการแข่งขันด้านราคาในระดับสูง รวมถึงตลาดหุ้นที่มีกฎเกณฑ์ในการซื้อขายมากขึ้นซึ่งจะทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลงมากกว่าคาด