SCB โบรกฯ คาดกำไร Q3/68 ที่ 1.27 หมื่นลบ.-มองปันผลเด่นสุดในกลุ่ม

#SCB #ทันหุ้น-บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB คาดว่าจะประกาศงบไตรมาส 3/68 ในวันพรุ่งนี้(21 ต.ค.) ซึ่งโบรกเกอร์คาดว่าจะมีกำไรอยู่ที่ราว 1.15-1.27 หมื่นล้านบาท โดยมองว่าหุ้น SCB เป็นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลเด่นสุดในกลุ่มธนาคาร โบรกเกอร์จะแนะนำซื้อ
บล.กรุงศรี แนะนำซื้อหุ้น SCB ให้ราคาเป้าหมายที่ 145 บาท เลือกเป็นหุ้น Top Pick ของกลุ่มธนาคารคู่กับหุ้น KTB เพราะเห็นพัฒนาการทางด้านคุณภาพสินทรัพย์ในเชิงบวก , เป็นหุ้นมีปันผลเด่น dividend yield สูงอันดับต้นในกลุ่มธนาคารที่ 9% ต่อปี , และคาดว่าในปี 2568 เห็นการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ และ ROE
ส่วนผลดำเนินงานไตรมาส 3/68 ของ SCB คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.18 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% YoY แต่ลดลง 8% QoQ ซึ่งกำไรที่เพิ่มเพราะรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุน (FVTPL) และไตรมาส 3/67 มีบันทึกขาดทุนจากการขาย Robinhood 731 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) ลดลง 8% YoY จากไตรมาส 3/67 เร่งจัดการคุณภาพสินทรัพย์
ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 ลดลง YoY และ QoQ เพราะการลดลงของสินเชื่อรวม เพราะธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อและเน้นคุณภาพลูกหนี้ ,การลดลงของ NIM จากการดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลง และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจากไตรมาส 4 เป็นช่วงที่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก
บล.ดาโอ(ประเทศไทย) คาดการณ์ว่า SCB ในไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 1.21 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY แต่ลดลง 5% QoQ โดยกำไรเพิ่มขึ้น YoY จากสำรองที่ลดลงเป็นหลัก เพราะมีการใส่ Management Overlay เพิ่มขึ้นมาตลอดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่วนกำไรที่ลดลง จาก NIM ลดลงมาอยู่ที่ 3.47% จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงและโครงการคุณสู้เราช่วย
โดยยังคงคำแนะนำซื้อ หุ้น SCB ให้ราคาเป้าหมายที่ 140 บาท มองว่าเป็นหุ้นที่มี Dividend yield สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่ราว 9%
บล.พาย แนะนำซื้อหุ้น SCB ให้ราคาเป้าหมายที่ 146 บาท โดยคาดว่ากำไรสุทธิทั้งปี 2568 จะเติบโต 6.7% เด่นที่สุดในกลุ่มธนาคารใหญ่ อย่างไรก็ตามแนวโน้มกำไรในปี 2569 คาดว่าจะลดลง 2.1% จาก NIM ที่อ่อนตัวลงล้อกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยลดลง ดังนั้นจึงมองว่า SCB จะเผชิญความท้าทายด้านการเติบโตสูงขึ้นในครึ่งหลังปี 2568 และในปี 2569 แนะนำลงทุนระยะยาว เพราะมอว่าจุดเด่นของ SCB อยู่ที่คุณภาพสินเชื่อที่แข็งแกร่ง และการจ่ายเงินปันผลสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร โดยคาดจะให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่ 8.7% ในปี 2568 และ 8.5% ในปี 2569
ส่วนกำไรไตรมาส 3/68 ของ SCB ฝ่ายวิจัยพาย คาดว่าอยู่ที่ 1.15 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% YoY แต่ลดลง 10% QoQ โดยมีปัจจัยหนุนกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากสำรองหนี้และค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง ส่วนกำไรที่ลดลง QoQ เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจากสินเชื่อชะลอตัว และ NIM ลดลงอย่างต่อเนื่อง
บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) แนะนำซื้อหุ้น SCB ให้ราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 135 บาท โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 12,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.1% YoY แต่ลดลง 0.7% QoQ ซึ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น จากเครื่องมือทางการเงินเพิ่มขึ้น และมีการตั้งสำรองลดลง ถึงแม้จะคาดว่ารายได้ดอกเบี้ยจะลดลงตามการหดตัวของสินเชื่อ ลแะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่วนกำไรที่ลดลง QoQ จากกำไรจากเครื่องมือทางการเงินลดลง และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
