รีเซต

ผู้ว่าฯพิษณุโลก สั่งบูรณะ 'ที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่ม' อายุ 85 ปี เตรียมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ผู้ว่าฯพิษณุโลก สั่งบูรณะ 'ที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่ม' อายุ 85 ปี เตรียมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
มติชน
24 มิถุนายน 2563 ( 16:48 )
178
ผู้ว่าฯพิษณุโลก สั่งบูรณะ 'ที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่ม' อายุ 85 ปี เตรียมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สั่งบูรณะที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่มหลังเก่า ให้  “โยธาฯจังหวัด” สำรวจออกแบบ -เสนอแปลนไปยัง กรมศิลปากรเพื่อบูรณะโครงสร้างให้ถาวร พร้อมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น ให้มีชีวิต และไม่ให้ซ้ำรอยอาคารบอมเบย์เบอร์ม่า

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่มหลังเก่า หมู่ 3 ต.บางกระทุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางกระทุ่ม จัดเจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาดอาคารที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่มหลังเก่า ทั้งฉีดพื้น เก็บเศษขยะ หลังจากที่ทาง นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก มีแนวคิดในการบูรณะอาคารที่ว่าการอำเภอดังกล่าว เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชีวิต เป็นจุดจัดแสดงสินค้า รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับนักท่องเที่ยวและคนที่สนใจ

 

โดยที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่มหลังเก่า ตั้งอยู่เลขที่ 300 หมู่ที่ 3 ต.บางกระทุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2478 มีอายุกว่า 85 ปี มาแล้ว ลักษณะเป็นเรือนทรงปั้นหยา ชั้นเดียว ยกใต้ถุนสูง เสาไม้เต็งรัง พื้นเป็นไม้ตะแบก หลังคากระเบื้อง ถือเป็นที่ว่าการอำเภอเก่าแก่อีกหลังหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ภายในพื้นที่ยังมี โรงเก็บพัสดุ อีกหนึ่งหลัง ลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2519 โดยที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่ม (หลังเก่า) แห่งนี้ มีขนาดกว้าง 120 เมตร ยาว 264 เมตร เนื้อที่ 6 ไร่ เศษ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ทางเทศบาลตำบลบางกระทุ่ม มีแผนที่จะปรับปรุงให้มีสภาพคงทนสวยงาม ตามเอกลักษณ์ของเรือนไทยยุคเก่า พัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของคนในชุมชน ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแลนด์มาร์ค อีกแห่งหนึ่งของอำเภอบางกระทุ่ม และของจังหวัดพิษณุโลก ปัจจุบันที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่ม ได้สร้างหลังใหม่ขึ้นมาทดแทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2534 มีเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ ส่วนอาคารหลังเดิมยังคงอนุรักษ์ไว้

 

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่ม(หลังเก่า)ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2478 ปล่อยทิ้งร้างมานาน ตนคิดว่า ก่อนที่จะเกษียณอายุไม่กี่เดือนอันใกล้นี้ จะขอพัฒนาที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่มให้มีชีวิตชีวา อันดับแรกคือ ได้ตั้งคณะกรรมการ 1 ชุด เพื่อกำกับนโยบายและรวบรวมข้อมูลวิถีชีวิตของคนบางกระทุ่ม เมื่อ 91 ปีที่ผ่านมา โดยจะพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์หรือห้องจัดแสดง และจุดแสดงสินค้าพื้นเมือง ส่วนระยะยาว คือ ต้องจัดงบประมาณ ซึ่งหัวหน้าสำนักงานโยธาธิการจังหวัดพิษณุโลกลงไปดูในพื้นที่แล้วว่า จะต้องใช้งบประมาณเท่าใด จากนั้นนำเสนอแบบโครงการไปยัง กรมศิลปากร หรือ ศิลปากรที่ 6 สุโขทัย เพื่อรอการอนุมัติ ซึ่งก็คาดว่า ใช้เวลานานพอสมควร คาดว่า คงไม่เสร็จทัน ก่อนตนเกษียณอายุแน่

 

“นอกจากนี้ ตนได้เรียกนายอำเภอบางกระทุ่มและอดีตนายอำเภอบางกระทุ่ม เพื่อทำให้ที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่มมีชีวิต ซึ่งร่วมมือกับท้องถิ่น โดยจังหวัดฯได้ทำ MOU กับเทศบาลบางกระทุ่ม เพื่อให้มาดูแลและปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม เบื้องต้นเตรียมจัดทำบันไดทางขึ้นให้แข็งแรง เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวมาได้ชม ส่วนภายในนั้น ได้สำรวจเบื้องต้นแล้ว บริเวณพื้นห้องยังพอใช้ได้อยู่ อาจจะเปลี่ยนพื้นไม้ชนิดเดียวกัน ซึ่งบางชิ้นได้ผุกร่อนไปตามกาลเวลา เปลี่ยนพื้นไม้เพื่อให้พอรับแรงได้ จนกว่า กรมศิลปากรอนุมัติงบประมาณปรับปรุงแบบแปลนถาวรเพื่อซ่อมแซมบูรณะต่อไป” นายพิพัฒน์ กล่าว

 

นายพิพัฒน์ กล่าวย้ำอีกว่า สัปดาห์หน้า ตนจะพาประชาชนจิตอาสาไปพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม พร้อมกับนำ “หลวงพ่อทันใจ” ซึ่งเจ้าอาวาสวัดจันทร์ตะวันตก จะอัญเชิญไปประดิษฐานบริเวณที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่มหลังเก่า เพื่อให้นักท่องเที่ยวสักการะและกราบไหว้ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชีวิตชีวา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง