ยายนั่งรอความหวัง! พันธุ์ข้าวปลูกหนัก 1.6 ตัน ถูกน้ำซัดจม กู้ภัยงมได้แต่ไม่ครบ

วันที่ 10 ก.ค. เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ได้รับการร้องขอจากชาวบ้าน ต.นครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ให้ช่วยงมพันธุ์ข้าวปลูก 42 กระสอบ ซึ่งจมน้ำในแม่น้ำวังทอง หลังจากนำมาแช่น้ำเตรียมปลูก แต่เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมากระแสน้ำในแม่น้ำวังไหลเชี่ยวกราด เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เชือกที่มัดสะพานขาดกระสอบพันธุ์ข้าวปลูกที่แช่น้ำเอาไว้เกิดจมลงไปในน้ำไปหมด และไม่สามารถนำขึ้นมาได้

หลังรับแจ้งชุดนักประดาน้ำ 3 นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิประสาทบุญสถาน ได้เข้าที่เกิดเหตุบริเวณริมแม่น้ำวังทอง หมู่ 3 ต.นครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก โดยมี นางพิสมัย เพชรวิจิต อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.นครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เจ้าของพันธุ์ข้าวปลูกทั้ง 42 กระสอบ ยืนคอยชี้จุดให้นักประดาน้ำช่วงลงงมค้นหา

นางพิสมัย เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ฝนในพื้นที่เริ่มตกชุก ประกอบกับระดับน้ำในแม่น้ำวังทอง เริ่มมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตนและครอบครัวจึงเตรียมจะเริ่มลงมือปลูกข้าว โดยเมื่อวานนี้ได้นำกระสอบพันธุ์ข้าวปลูก ประกอบด้วยพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 20 กระสอบ และพันธุ์ข้าว กข.79 จำนวน 22 กระสอบ มาเรียงแช่น้ำไว้บนสะพานไม้ที่ทำขึ้นชั่วคราว โดยใช้เชือกมัดสะพานเอาไว้ เพื่อรอเวลาให้เมล็ดข้าวปลูกงอก ก่อนจะนำไปปลูกในนา

กระทั่งเช้าวันนี้ตนเดินมาดูพันธ์ข้าวปลูกที่แช่น้ำเอาไว้ ปรากฏว่าไม่เหลือพันธุ์ข้าวปลูกแม้แต่กระสอบเดียว เพราะระดับในแม่น้ำวังทองเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ทำให้กระแสน้ำเชียวพัดเชือกสะพานที่วางข้าวปลูกไว้จนขาด กระสอบข้าวปลูกทั้งหมด 42 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 1.6 ตัน มูลค่ากว่า 3 หมื่นบาท ร่วงจมน้ำทั้งหมด ตนและญาติพร้อมทั้งเพื่อนบ้านได้พยายามลงงมกันแล้ว แต่ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ เพราะน้ำค่อนข้างเชี่ยว ประกอบกับกระสอบข้าวปลูก เมื่อโดนน้ำจึงทำให้หนักกว่า 50 กิโลกรัม จึงจำเป็นต้องร้องขอความช่วยเหลือจากนักประดาน้ำ จากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานมาช่วยงมขึ้นดังกล่าว

หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลางมหากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถลำเลียงกระสอบข้าวปลูกขึ้นมาได้ 36 กระสอบ สูญหาย 6 กระสอบ ซึ่ง นางพิสมัย และญาติๆ ได้กล่าวขอบคุณนักประดาน้ำและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานทุกนายที่มาช่วยงมหา พร้อมบอกต่อว่าถ้าไม่ได้เจ้าหน้าที่มาช่วยงม ตนคงขาดทุนไปกว่า 3 หมื่นบาทตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำนาด้วยซ้ำ แถมไม่มีพันธุ์ข้าวที่จะไปปลูกได้อีก หากต้องไปซื้อพันธุ์ก็ต้องใช้เงินอีกหลายหมื่นบาทอีกด้วย