รีเซต

ข้อแนะนำ การขับขี่กลางคืน หรือในสภาพอากาศที่เลวร้าย

ข้อแนะนำ การขับขี่กลางคืน หรือในสภาพอากาศที่เลวร้าย
EntertainmentReport1
3 สิงหาคม 2568 ( 00:20 )
23

การขับขี่ในเวลากลางคืนหรือในสภาพอากาศเลวร้ายมีความเสี่ยงสูงกว่าการขับขี่ในเวลากลางวันและสภาพอากาศปกติอย่างมากครับ เนื่องจากทัศนวิสัยที่จำกัดและสภาพถนนที่อาจไม่เอื้ออำนวย การเตรียมตัวและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อความปลอดภัยของตัวเราและผู้ร่วมใช้ถนน ลองมาดูกันครับว่าเราควรทำอย่างไรบ้าง

 

 

1. การเตรียมรถให้พร้อม (ก่อนออกเดินทาง)

  • ระบบไฟส่องสว่าง

สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่เราควรตรวจสอบก็คือระบบไฟส่องสว่างรอบคัน โดยควรตรวจสอบไฟหน้า ไม่ว่าจะเป็น ไฟสูง-ไฟต่ำ ต้องทำงานปกติ สว่างเท่ากัน ไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง และไม่เสื่อมสภาพจนเหลืองขุ่น ตรวจสอบไฟท้าย ไฟเบรก ไฟหรี่ ไฟเลี้ยว ไฟถอย และไฟส่องป้ายทะเบียน ต้องทำงานปกติและสว่างชัดเจน

นอกจากนี้ยังควรทำความสะอาดโคมไฟ ทั้งโคมไฟหน้าและไฟท้ายต้องสะอาด ไม่มีคราบฝุ่นหรือโคลนเกาะ เพื่อให้แสงสว่างเต็มที่ และไฟตัดหมอก (ถ้ามี) ก็ควรตรวจสอบว่าใช้งานได้ปกติ และควรใช้เมื่อมีหมอกหรือฝนตกหนักจัดเท่านั้น แต่ไม่ควรเปิดพร่ำเพรื่อ เพราะจะทำให้เพื่อนร่วมทางมองถนนได้ลำบาก

 

 

  • ยางรถยนต์

ต่อมาที่ควรตรวจสอบก็คือยางรถยนต์ โดยควรดูดอกยาง ตรวจสอบความลึกของดอกยาง ต้องไม่สึกหรอมากเกินไป เพื่อการยึดเกาะถนนที่ดีในสภาพเปียก รวมถึงลมยาง ควรเติมลมยางให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด (ตรวจสอบที่ข้างประตูฝั่งคนขับหรือคู่มือรถ)

  • ที่ปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจก

ควรตรวจสอบใบปัดน้ำฝนว่าไม่แข็งกระด้างหรือขาด ปัดน้ำได้สะอาด ไม่เป็นรอยปื้น และน้ำฉีดกระจก ก็ควรเติมน้ำฉีดกระจกให้เต็มถัง เพื่อช่วยทำความสะอาดคราบสกปรกบนกระจกหน้ารถ

  • กระจกมองข้าง/กระจกมองหลัง

กระจกมองข้าง และกระจกมองหลัง ควรทำความสะอาดให้ใส และปรับให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดก่อนการขับขี่ทุกครั้ง

 

 

2. ข้อแนะนำการขับขี่เวลากลางคืน

ในการขับขี่รถตอนกลางคืนนั้น ควรขับขี่ด้วยความเร็วที่ลดลงกว่าปกติ เพื่อให้มีเวลาตอบสนองต่อสิ่งที่ไม่คาดคิดมากขึ้น รวมไปถึงควรเปิดไฟหน้าให้เหมาะสม ในเส้นทางที่มีรถสวน หรือมีรถตามหลัง ให้ใช้ไฟต่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แสงไปรบกวนสายตาของผู้อื่น และใช้ไฟสูงเมื่อจำเป็น โดยใช้ไฟสูงเมื่อไม่มีรถสวนทาง หรือไม่มีรถคันหน้าในระยะใกล้ และรีบหรี่ไฟต่ำทันทีเมื่อมีรถสวนมา หรือมีรถคันหน้า เพื่อความปลอดภัยของผู้อื่น

นอกจากนี้ ควรรักษาความสะอาดของกระจก ทั้งกระจกหน้าและกระจกหลัง รวมถึงกระจกมองข้าง ต้องสะอาดอยู่เสมอ เพื่อทัศนวิสัยที่ดีที่สุด ระวังรถที่จอดข้างทาง บางครั้งอาจมีรถจอดเสียข้างทางโดยไม่มีไฟส่องสว่างหรือสัญญาณเตือน และควรเพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้า ในเวลากลางคืน การมองเห็นระยะทางและวัตถุทำได้ยากขึ้น ควรเพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ

ระวังสัตว์และคนเดินเท้า ในเวลากลางคืน คนเดินเท้าหรือสัตว์อาจมองเห็นได้ยาก ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการมองแสงไฟโดยตรง พยายามหลีกเลี่ยงการมองแสงไฟจากรถที่สวนทางมาโดยตรง เพราะจะทำให้สายตาพร่ามัวชั่วขณะ ควรหันสายตาไปมองเส้นแบ่งเลนด้านซ้ายแทน และไม่ควรขับขี่เมื่อรู้สึกง่วง หากรู้สึกง่วง ให้จอดพักในที่ปลอดภัยทันที การขับขี่ทั้งที่ง่วงเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

 

 

3. ข้อแนะนำการขับขี่ในสภาพอากาศเลวร้าย (ฝนตกหนัก, หมอกจัด, พายุ)

ในการขับขี่ในสภาพอากาศที่เลวร้าย ไม่ว่าจะเป็นฝนตกหนัก หมอกจัด หรือมีพายุ เราควรลดความเร็วลงอย่างมาก สภาพถนนลื่นจากน้ำฝนหรือทัศนวิสัยจำกัดจากหมอกและพายุ ทำให้ต้องลดความเร็วลงมากกว่าปกติ เพื่อให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น เปิดไฟหน้าและไฟท้าย แม้จะเป็นช่วงกลางวันที่มีฝนตกหนักหรือหมอกจัด ก็ควรเปิดไฟหน้า (ไฟต่ำ) และไฟท้าย เพื่อให้รถคันอื่นมองเห็นรถของเราได้ชัดเจน และใช้ไฟตัดหมอก (ถ้าจำเป็น) หากมีหมอกหนาจัด หรือฝนตกหนักมากจนมองไม่เห็นระยะไกล ให้เปิดไฟตัดหมอกหน้า (และหลังถ้ามี) ไฟตัดหมอกออกแบบมาให้ส่องต่ำและไม่ฟุ้ง เพื่อช่วยให้มองเห็นทาง และเพื่อให้รถคันอื่นมองเห็นเราได้ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรเปิดไฟตัดหมอกเมื่อไม่มีหมอกหรือฝนหนัก เพราะจะรบกวนสายตาผู้อื่น

เพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้า ในสภาพถนนเปียก ระยะเบรกจะยาวขึ้น ควรเพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้นเป็นสองเท่าหรือสามเท่า หลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหัน ควรเบรกและเลี้ยวด้วยความนุ่มนวล เพื่อป้องกันรถเสียหลักจากการลื่นไถล (Hydroplaning) รวมถึงควรใช้เกียร์ต่ำในบางสถานการณ์ เช่น การขับลงเนินที่ลื่น หรือเมื่อต้องการควบคุมความเร็วในสภาพถนนที่ไม่ดี การใช้เกียร์ต่ำจะช่วยให้เครื่องยนต์หน่วงความเร็วได้ ทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น

ที่สำคัญ อย่าขับตามรถคันใหญ่ใกล้เกินไป รถบรรทุกหรือรถบัสอาจจะกระเด็นน้ำหรือโคลนขึ้นมาบดบังทัศนวิสัยของคุณ และถ้าหากสภาพอากาศเลวร้ายมากจนไม่สามารถมองเห็นทางได้อย่างปลอดภัย (เช่น พายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง หมอกหนาจัดจนมองไม่เห็นรถคันหน้า) ให้จอดพักรถในที่ปลอดภัย เช่น ปั๊มน้ำมัน หรือจุดพักรถ รอให้สภาพอากาศดีขึ้นแล้วค่อยเดินทางต่อ ห้ามจอดพักรถบนไหล่ทางที่มืดและไม่มีไฟส่องสว่างเด็ดขาด

 

 

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอครับ การขับขี่อย่างระมัดระวังและไม่ประมาทคือกุญแจสำคัญในการเดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

Photo Credit : AI Generated

ข่าวที่เกี่ยวข้อง