'หมอปลา' บุกทุบจอมปลวก หลังสาวอ้างผีเข้า สั่งทิ้งซากรกหนู ห้ามบูชา

'หมอปลา' ทุบจอมปลวก-กินโชว์ หลังสาวตายแล้วฟื้นมีอาการประหลาด เก็บฝบไม้กิน อ้างผีเข้าสิง สั่งทิ้งซากรกหนู ห้ามบูชา

จากกรณี หญิงอายุ 63 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ถ่ายภาพลูกสาวขณะกำลังเก็บใบไม้บนต้นไม้กิน พร้อมระบุว่า ลูกสาวมีอาการป่วยประหลาด คล้ายคนโดนผีเข้าและเก็บตัวเงียบ หลังจากที่ตายแล้วฟื้นขึ้นมาเมื่อตอนอายุ 18 ปี จนปัจจุบันอายุ 44 ปีแล้ว แต่อาการดังกล่าวยังไม่สามารถรักษาได้ แม้ว่าผู้เป็นแม่นั้นจะพาลูกสาวไปตรวจที่โรงพยาบาลหลายครั้งแล้วก็ตาม ก่อนตัดสินใจติดต่อไปยังหมอปลา ให้เข้ามาช่วยดูว่า ถูกผีเข้าหรือเป็นสาเหตุใด

ล่าสุดวันที่ 17 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมอปลาได้ไปบ้านหลังดังกล่าว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา พบนางธัญวรัณฐ์ อายุ 63 ปี และลูกสาวที่มีชื่อเล่นว่า แอน โดยทางผู้เป็นแม่ได้พาหมอปลาไปเดินดูต้นไม้ ซึ่งคือ ต้นมะปรางที่ลูกสาวของเธอนั้นได้เก็บใบกิน ก่อนพาเดินทางไปดูจอมปลวก บริเวณบ้านพร้อมบอกว่า ก่อนหน้านี้ได้ทำพิธีขอขมาลาโทษเอาไว้ จากนั้นหมอปลาก็ได้ชวนนางสาวแอน เดินทางไปยังต้นไม้ที่เธอนั้นได้เก็บใบกิน ตอนแรก นางสาวแอน บอกว่า คนที่กินใบไม้ในวิดีโอที่แม่ถ่ายไว้นั้นไม่ใช่ตนเอง เธอไม่กล้ากินใบไม้ใบดังกล่าว

ต่อมา นางสาวแอน ก็กลับมาเก็บใบมะปรางกินอีกครั้ง พร้อมบอกว่า คนที่กินใบไม้อยู่นี้ไม่ใช่เธอแต่เป็น ชายอายุ 70 ปี โดยอาศัยอยู่ในบริเวณ บ้านนี้มานานแล้ว และบอกว่าสาเหตุที่กินใบไม้นี้นั้นเป็นหมาก แถวนี้ไม่มีต้นหมาก ส่วนสาเหตุที่มาเข้าสิงร่างนางสาวแอนนั้น เพราะว่าเธอนิสัยดีและน่ารัก เธอนั้นได้เคยเอาน้ำไปให้ตนเอง ก่อนยอมบอกว่า ตนนั้นเป็นปู่โสม ส่วนสาเหตุที่นางสาวแอนนั้นมีอาการชักเกร็ง คนที่อ้างเป็นปู่โสมนั้นบอกว่า ไม่ได้เกี่ยวกับตนอีกด้วย

ทางหมอปลานั้นได้ถามผู้เป็นแม่ และได้แจ้งกับหมอปลาว่า เมื่อตอนอายุ 18 ปี นางสาวแอนไม่สบาย แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ครอบครัวได้พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุทัยธานีประมาณ 3 เดือน แต่อาการไม่ดีขึ้น จากนั้นนางสาวแอนได้เสียชีวิตลง โดยระหว่างที่ทางบ้านได้เตรียมโลงศพและเตรียมจัดงาน จู่ ๆ ก็ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากนั้นมาก็ได้กลับเข้ามาอยู่ที่บ้าน ก็เริ่มมีอาการแปลก ๆ คล้ายผีเข้า แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ซึ่งทางหมอปลาบอกว่า จากการดูอาการแล้วไม่ใช่สิ่งลี้ลับมาเข้าสิงอย่างแน่นอน

จากนั้นก็ได้ไปยังจอมปลวกหลังบ้านที่ทางแม่ของนางสาวแอนและตัวนางสาวแอนอ้างว่าเป็นจุดที่สงสัย และบอกว่าพอเดินมาที่มีจอมปลวกนี้แล้วจะขนลุก และเหมือนมีอาการบางอย่างเข้าสิง โดยหมอปลาได้ชักชวนผู้สื่อข่าวที่ตามมาทำข่าวช่วยกันขุดจอมปลวก โดยหมอปลานั้นพยายามขุดเพื่อจะนำพญาปลวกออกมา

โดยใช้เวลาอยู่ประมาณ 20 นาที จึงเจอพญาปลวกที่มีรูปร่างคล้ายหนอนตัวใหญ่ แล้วให้แม่กับนางสาวแอนถือไว้แล้วถามว่ารู้สึกอย่างไร โดยทั้งสองคนก็บอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย จากนั้นก็ได้นำพญาปลวกมากินโชว์ด้วยซ้ำ แล้วบอกว่าจอมปลวกไม่ได้มีอะไรลึกลับหรือมีอะไร แล้วชาวบ้านก็ชอบมาไหว้กันหรือเชื่อถืออะไรในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือนั่นเอง

ต่อมาได้เดินไปในบ้านที่ทั้ง 2 คนอาศัยอยู่ โดยมีอาการรู้สึกอยากอาเจียนแต่บอกว่า เป็นเพียงวิญญาณ เร่ร่อน ทั่วไปไม่ได้ร้ายแรงอะไร ส่วนหิ้งพระที่อยู่ในบ้าน พบว่าทั้งสองคนนำรกหนูหรือหนูที่ตายแล้วนำมาบูชา และยังมีรังผึ้งแห้ง ๆ ใส่จานไว้อีกด้วย รวมทั้งยังเจอพระพุทธรูปที่คล้ายเหมือนเทพพนมที่อยู่หน้าเมรุเผาศพที่อ้างว่าได้มาจากคนไปหาปลาแล้วนำมาบูชา อีกด้วย โดยหมอปลาบอกว่า อย่าเชื่อถืออะไรที่ไม่ใช่พระพุทธรูปหรือพระ และให้ทั้ง 2 คนนำไปทิ้ง

จากนั้น ได้เดินไปยังจุดที่ นายสุบินทร์ นาคบุญ พ่อของนางสาวแอนเคยผูกคอเสียชีวิต หมอปลาก็บอกว่าไม่พบวิญญาณหรือสิ่งลี้ลับอะไร จากนั้นก็พากันเดินไปสำรวจบ้านร้าง ซึ่งก็ไม่พบอะไรเช่นเดียวกัน โดยหมอปลานั้นได้บอกกับแม่นางสาวแอนว่า ไม่พบสิ่งลี้ลับอะไรหรือผีที่นี่ อาจจะเป็นเพราะความเครียดจากที่หลายคนรอบตัวเสียชีวิตลง และความเครียดทางใจก็เป็นได้ พร้อมกับแนะนำให้ผู้เป็นแม่นั้นพาลูกสาวไปหาหมอ และเชื่อว่านางสาวแอนนั้นจะอาการดีขึ้นในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน

ที่มา : มติชนออนไลน์