รีเซต

"ข้าว 10 ปี" มองข้ามอคติ? วอนวิเคราะห์บนข้อมูล มุ่งประโยชน์ชาติ

"ข้าว 10 ปี" มองข้ามอคติ? วอนวิเคราะห์บนข้อมูล มุ่งประโยชน์ชาติ
TNN ช่อง16
13 พฤษภาคม 2567 ( 18:00 )
36
"ข้าว 10 ปี" มองข้ามอคติ? วอนวิเคราะห์บนข้อมูล มุ่งประโยชน์ชาติ

การประมูลขายข้าวสารค้างสต็อกจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีอายุการเก็บรักษานานถึง 10 ปี กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของคุณภาพและความปลอดภัยของข้าวที่จะนำออกจำหน่าย อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ประเด็นนี้ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้อง ปราศจากอคติหรือการคาดเดาที่อาจนำไปสู่การลดทอนคุณค่าของข้าวไทย


ความจำเป็นในการระบายข้าวค้างสต็อก


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงถึงเจตนาของการประมูลข้าวในครั้งนี้ว่า เป็นความพยายามในการนำข้าวที่ตกค้างในโกดังออกประมูล เพื่อนำรายได้กลับคืนคลังและหลีกเลี่ยงปัญหาข้าวเน่าเสียจนไม่มีมูลค่า โดยการประมูลนี้จะเปิดโอกาสให้เอกชนนำข้าวไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น การส่งออกและการแปรรูป ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวที่ค้างสต็อกเหล่านี้


นอกจากนี้ ยังมีการร้องเรียนจากเจ้าของโกดังที่เก็บรักษาข้าวมาเป็นเวลานาน 10 ปีแล้วว่า รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพื่อระบายข้าวออกไป ทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์ และเจ้าของโกดังเองก็เสียโอกาสในการนำโกดังไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ดังนั้น การประมูลข้าวในครั้งนี้จึงถือเป็นความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศ


กระบวนการตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนการประมูล


หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์คือ คุณภาพและความปลอดภัยของข้าวที่จะนำออกประมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีการอ้างว่าตรวจพบสารก่อมะเร็งในข้าวเหล่านี้ 


อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์การประมูลซื้อขายข้าวในอดีต กระบวนการตรวจสอบสารปนเปื้อนในข้าวไม่เคยพบปัญหาปริมาณสารปนเปื้อนในระดับที่เป็นอันตราย และไม่มีข้อมูลว่าการเก็บข้าวเป็นระยะเวลานานจะก่อให้เกิดปัญหา หากมีการจัดเก็บที่ถูกต้องตามมาตรฐาน


ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการปรับปรุงคุณภาพข้าวมีความทันสมัยมากขึ้น ก่อนที่จะมีการนำข้าวออกจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ข้าวจะต้องผ่านกระบวนการขัดสีและปรับปรุงคุณภาพจนได้มาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร (food safety) ตามเกณฑ์สากล จึงจะสามารถส่งออกและกระจายสู่ผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการและสมาคมข้าวยังมีระบบการตรวจสอบสินค้าโดยบริษัทเซอร์เวย์เยอร์ระดับมาตรฐานโลก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้ออีกด้วย


ในแง่ของสารก่อมะเร็งที่มีการกล่าวอ้าง ส่วนใหญ่มักพบในรำข้าวที่ยังไม่ผ่านการปรับปรุง เมื่อมีการขัดสีและปรับปรุงคุณภาพแล้ว ปริมาณสารดังกล่าวจะลดลงอย่างมากจนอยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อการบริโภค ดังนั้น กระบวนการตรวจสอบและปรับปรุงคุณภาพข้าวจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยสร้างความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของข้าวที่นำออกประมูล


การสร้างความโปร่งใสผ่านการพิสูจน์คุณภาพข้าวต่อสาธารณะ

เพื่อแสดงความโปร่งใสและตอบสนองต่อข้อกังวลของสาธารณชนเกี่ยวกับคุณภาพข้าว นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบข้าวตามมาตรฐานสากล ผู้ประกอบการโรงสีและการค้าข้าวที่มีประสบการณ์ สื่อมวลชนจากหลากหลายสำนักกว่า 30 ราย รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจประจำจังหวัด มาร่วมเป็นสักขีพยานในการตรวจพิสูจน์คุณภาพข้าวต่อสาธารณะ


การพิสูจน์คุณภาพข้าวครั้งนี้ มีเจตนาที่จะสะสางปัญหาที่คั่งค้างมานานอย่างโปร่งใส และทำให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน โดยอาศัยกระบวนการตรวจสอบคุณภาพข้าวที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งมีความน่าเชื่อถือและสามารถสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายได้ การดำเนินการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการสร้างความโปร่งใสและคลายข้อกังวลของสังคมที่มีต่อกระบวนการประมูลข้าวในครั้งนี้


ข้อกังวลต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์


ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ รมว.พาณิชย์ได้แสดงความเสียใจที่การตั้งใจสะสางปัญหาข้าวค้างสต็อกเพื่อประโยชน์ของประเทศในครั้งนี้ กลับถูกตีความไปในทางอื่นและใช้อคติหรือการแบ่งฝักฝ่ายมาลดทอนคุณค่าของข้าวไทย จนอาจก่อให้เกิดความไม่ไว้วางใจในคุณภาพข้าวของไทย ทั้งนี้ นายภูมิธรรมมองว่า กระแสข่าวที่ให้ร้ายในประเด็นต่าง ๆ ยังขาดความเข้าใจในกระบวนการจัดการข้าวของไทย ซึ่งเป็นกระบวนการที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทำงานร่วมกันภายใต้มาตรฐานที่กำหนด ไม่ใช่การตัดสินใจโดยลำพังเพื่อผลประโยชน์ของผู้ใดผู้หนึ่ง


รมว.พาณิชย์จึงเสนอว่า ควรใช้ข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้องมาวิเคราะห์กระบวนการประมูลข้าวครั้งนี้อย่างเป็นธรรม ว่าเป็นไปตามระบบและกระบวนการที่ควรจะเป็นหรือไม่ โดยพิจารณาว่าจะก่อให้เกิดผลดีต่อประเทศชาติมากกว่าหรือไม่ เพราะกระบวนการตรวจสอบคุณภาพข้าวนั้นมีความน่าเชื่อถือและเป็นไปตามหลักสากลอยู่แล้ว


"ผมมีความเสียใจอย่างยิ่ง ที่การตั้งใจสะสางงานในหน้าที่ให้แล้วเสร็จ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวมในครั้งนี้ กลับถูกแปรเจตนาเป็นอื่น และใช้อคติหรือการแบ่งฝักฝ่ายมาด้อยค่าคุณภาพข้าวไทย จนก่อให้เกิดกระแสความไม่ไว้วางใจในคุณภาพสินค้าข้าวของไทย ผมขอเสนอให้ใช้ข้อมูล และความรู้ที่ถูกต้อง วิเคราะห์อย่างเป็นธรรมว่า กระบวนการซื้อขายข้าวที่จะนำมาประมูล เป็นไปตามระบบและกระบวนการที่ควรจะเป็น จะเกิดผลดีต่อประเทศชาติมากกว่าหรือไม่? เพราะกระบวนการตรวจสอบตามระบบ มีความน่าเชื่อถือ และเป็นไปตามหลักสากลอยู่แล้ว" รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ระบุ



สรุป:

การประมูลข้าวค้างสต็อก 10 ปี แม้จะมีข้อกังวลเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของข้าว แต่เมื่อพิจารณาถึงความจำเป็นในการระบายข้าวออกจากสต็อกเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประเทศ ประกอบกับกระบวนการตรวจสอบและปรับปรุงคุณภาพข้าวที่เข้มงวดตามมาตรฐานสากลแล้ว การดำเนินการในครั้งนี้ก็น่าจะสามารถสะสางปัญหาที่คั่งค้างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวได้ในระดับหนึ่ง


อย่างไรก็ตาม การวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นนี้ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องและความเข้าใจในกระบวนการทำงานที่แท้จริง โดยปราศจากอคติหรือการเหมารวมที่อาจนำไปสู่การบิดเบือนข้อเท็จจริงและสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมข้าวไทย ทุกภาคส่วนจึงควรร่วมมือกันวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบด้านและมุ่งหาทางออกที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ


เรียบเรียง  : ยศไกร รัตนบรรเทิง 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง