รีเซต

ไขทุกข้อสงสัย! เกี่ยวกับประสิทธิภาพ “วัคซีนซิโนแวค”

ไขทุกข้อสงสัย! เกี่ยวกับประสิทธิภาพ “วัคซีนซิโนแวค”
Ingonn
28 มิถุนายน 2564 ( 13:43 )
357
ไขทุกข้อสงสัย! เกี่ยวกับประสิทธิภาพ “วัคซีนซิโนแวค”

 

วัคซีนซิโนแวคเป็นอีกวัคซีนหลักที่คนไทยได้รับการฉีด นอกเหนือจากวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งหลายคนอาจมีคำถามคาใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพวัคซีน ว่าสามารถสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้มากแค่ไหน ต้องฉีดอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด หรือมีผลข้างเคียงอันตรายต่อร่างกายหรือไม่

 

 


วันนี้ TrueID จึงได้รวบรวมทุกคำถามที่ทุกคนสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพวัคซีนซิโนแวคมาฝากกัน ว่าวัคซีนหลักของไทยชนิดนี้ ส่งผลอย่างไรต่อร่างกายกันบ้าง

 

 

 


คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับประสิทธิภาพวัคซีนซิโนแวค

 

1.วัคซีนซิโนแวค มีประสิทธิภาพดีพอไหม โดยเฉพาะสายพันธุ์อินเดีย


ตอบ จากการศึกษาระยะที่ 3 ทุกวัคซีนป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้สูงเกือบ 100% และป้องกันการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นๆได้แตกต่างกัน

 

 

วัคซีนซิโนแวคผลิตจากเชื้อตายซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่า ระดับภูมิคุ้มกัน RBD -IgG ที่วัดได้หลังฉีดไม่ได้สูงเท่าวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น mRNA และจำเป็นต้องฉีดอย่างน้อยสองเข็ม จึงจะเห็นระดับภูมิคุ้มกันที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน และ เมื่อตรวจด้วยวิธี live virus neutralizing antibody (NT) ก็พบระดับที่สูงประมาณพอควรต่อเชื้อดั้งเดิม และมีระดับ NT ต่อสายพันธุ์ UK มีระดับลดลงประมาณ 10 เท่า แต่ยังอยู่ในระดับที่ป้องกันได้ ส่วน NT ต่อสายพันธุ์เดลต้า ยังอยู่ระหว่างการศึกษา

 

 


2.การตรวจเชื้อในโรงพยาบาลทั่วๆไป พอจะบอกระดับภูมิคุ้มกันได้หรือไม่ และควรตรวจภูมิกันหลังฉีดวัคซีนไหม


ตอบ ไม่แนะนำให้ไปตรวจระดับภูมิคุ้มกันที่มีโฆษณาตามโรงพยาบาลต่างๆ เพราะไม่แม่นยำ อาจทำให้เกิดความกังวล เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ออกแบบมาเพื่อใช้วินิจฉัยโรค ไม่ใช่การวัดระดับภูมิคุ้มกัน

 

 

3.หากไม่ตรวจระดับภูมิคุ้มกันจะรู้ได้อย่างไรว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ


ตอบ ปัจจุบันนี้ ผลการศึกษาพบว่าวัคซีนซิโนแวค ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงได้ 100% จากการศึกษาในประเทศบราซิล อินโดนีเซีย และจีน ซึ่งมีโควิคสายพันธุ์อังกฤษ พบว่าบุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค ถึงแม้ติดเชื้อ ก็มีอัตราป่วยที่ลคลงมาก ผลทั้งหมดนี้บ่งชี้ว่า วัคซีนสามารถป้องกันสายพันธุ์อังกฤษได้ ก็ป้องกันสายพันธุ์อินเดียได้เช่นกัน

 

 

ต้องอาศัยการศึกษาในประชากรที่ฉีดวัคซีนแล้วว่ามีโอกาสเกิดโรคหรือเกิดโรครุนแรง น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีนหรือไม่
ตอบ ขณะนี้มีผลการศึกษาที่พบว่าวัคซีนซิโนแวค ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงได้ 100% ในบราซิล
และป้องกันการเข้าไอซียูได้ 89% ในชิลี

 

 

 

4.จำเป็นต้องฉีดเข็มที่ 3 หรือไม่


ตอบ ควรฉีดกระตุ้นหลังจากเข็มที่ 2 แล้ว อย่างน้อย 3-4 เดือน ซึ่งการกระตุ้นภูมิคุ้มกันจะมีผลดีในการป้องกันเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ได้ดียิ่งขึ้น

 


วัคซีนซิโนแวคจะป้องกันสายพันธุ์กลายพันธุ์ โดยเฉพาะชนิดรุนแรงได้ดีแต่ประสิทธิภาพ จะอยู่ได้ไม่นานมาก เนื่องจากระดับภูมิคุ้มกันจะตกลงตามระยะเวลา วัคซีนซิโนแวคให้ระดับ NT ไม่สูงมาก

 


ถ้าต้องการให้ระดับ NT คงอยู่ในระดับเดิมควรฉีดกระตุ้นหลังจากเข็มที่ 2 แล้ว อย่างน้อย 3-4 เดือน ซึ่งการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จะมีผลดีในการป้องกันสายพันธุ์กลายพันธุ์ซึ่งมีระดับ NT ตั้งต้นจะต่ำกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมด้วย

 

 

 

5.ควรสลับหรือปรับเปลี่ยนชนิดของวัคซีนเข็มที่ 2 เลยไหม


ตอบ การเปลี่ยนชนิดวัคซีนน่าจะทำให้ร่างกายเก่งขึ้น ในการสร้างภูมิคุ้มกันที่นำเสนอในหลายรูปแบบและสำหรับวัคซีนซิโนแวคจะมีการกระตุ้นภูมิคุ้มกันระบบเซลล์ไม่ค่อยดี ดังนั้นการเปลี่ยนชนิดน่าจะช่วยในเรื่องนี้ได้ด้วย แต่ว่าจะใช้วัคซีนชนิดใดมากระตุ้นดีกว่ากันยังเป็นคำถามวิจัย น่าจะได้คำตอบใน 1-2 เดือนนี้ แต่สำหรับผู้ที่มีอาการข้างเคียงรุนแรงหรือแพ้วัคซีนตัวแรก ก็สามารถเปลี่ยนชนิดของวัคซีนในเข็มที่ 2 ได้เลย

 

 


6.หรือควรสลับชนิดของวัคซีนตั้งแต่เข็มที่ 2เลยจะดีกว่าไหม


ตอบ การสลับชนิดของวัคซีนในเข็มที่ 2 อาจจะทำให้ภูมิคุ้มกันสูงกว่าการใช้วัคซีนชนิดเดิม แต่ยังต้องรอข้อมูลการศึกษาให้มากขึ้น โดยเฉพาะข้อมูลประสิทธิผล องค์การอนามัยโลกยังไม่แนะนำให้เปลี่ยนชนิดของวัคซีนในเข็มที่ 1 และ 2 จนกว่าจะมีข้อมูลการศึกษามากกว่านี้ 

 

 


7.ควรไปจองวัคซีนเข็มที่ 3 ไว้เลยไหม?


ตอบ ตอนนี้ยังมีวัคซีนจำกัด ควรให้ความสำคัญกับการให้ทุกคนได้รับการฉีด 2 เข็มก่อน ยังพอมีเวลาเพื่อรอให้ผลการศึกษาต่างๆ ออกมาก่อน แล้วมาวางแผนกันอย่างเป็นระบบ

 

 


ประสิทธิภาพวัคซีนซิโนแวคโดยรวม


วัคซีนซิโนแวค หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัคซีน "โคโรนาแวค" (CoronaVac) ผลิตโดยบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค (Sinovac Biotech) ประเทศจีน วัคซีนชนิดนี้เริ่มมีการพัฒนามาตั้งแต่มกราคม 2020 และเริ่มใช้งานครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อเดือนตุลาคมปี
ใช้เทคโนโลยีการผลิตวัคซีนแบบเชื้อตาย โดยใช้ไวรัส SARS-CoV-2 ที่ถูกทำให้ตายแล้วมากระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส ต้องฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 28 วัน หรือ 4 สัปดาห์ สามารถเก็บไว้ในในอุณหภูมิตู้เย็นมาตรฐาน ที่ 2-8 องศาเซลเซียส ไม่ต้องใช้ความเย็นสูง ตู้เย็นธรรมดาก็ใช้ได้ และเก็บได้นานถึง 2 ปี

 


สำหรับวัคซีนซิโนแวค ป้องกันอาการรุนแรงได้ 100% ป้องกันอาการปานกลาง เช่น ป่วยไข้ต้องนอนรพ.แต่ไม่ถึงอาการรุนแรงพบว่าป้องกันได้ถึง 83.7% และในกลุ่มที่ไม่มีอาการ ป้องกันการติดเชื้อได้อีก 50.7%

 

 

 

 

ข้อมูลจาก พญ. กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศูนย์ข้อมูล COVID-19 , Hfocus

 

 

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง